ภาวะปอดติดเชื้อหรือปอดอักเสบ เป็นอีกภัยใกล้ตัวที่มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนฤดู โรคปอดอักเสบหรือปอดติดเชื้อนี้ เป็นโรคติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียผ่านระบบทางเดินหายใจ มักเรียกง่ายๆ ว่า “โรคปอดบวม” ระยะฟักตัวของโรคปอดอักเสบขึ้นอยู่กับเชื้อก่อโรค อาจใช้เวลา 1-3 วัน โดยผู้สูงอายุ มักมีอาการเริ่มต้นคล้ายไข้หวัด ไข้สูง ไอ เจ็บคอมีเสมหะ อาการอาจรุนแรงขึ้นเมื่อเริ่มเจ็บหน้าอก เหนื่อยหอบหากเป็นนานกว่า 2-3 วัน โดยไข้ไม่ลด ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อทำการวินิจฉัยและทำการรักษา ทั้งนี้จากบทความสุขภาพ รพ.สมิติเวช เผยว่า ข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคเมื่อปีพ.ศ. 2561 พบว่ากลุ่มคนอายุ 65 ปีขึ้นไป ถือเป็นกลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยด้วยโรคปอดอักเสบมากที่สุด โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการได้รับเชื้อผ่านระบบทางเดินหายใจ ทำให้ปอดเกิดการอักเสบส่งผลให้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนอากาศได้ตามปกติ มักพบเป็นอาการที่ต่อเนื่องมาจากโรคไข้หวัดใหญ่การติดเชื้อปอดอักเสบสามารถพบได้ทุกช่วงอายุ โดยระดับความรุนแรงของโรคจะมีความแตกต่างกัน แต่ผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 65 ปี มักมีความต้านทานโรคต่ำ จึงมีความเสี่ยงของโรคถึงขั้นเสียชีวิตมากที่สุด
สำหรับการรักษาหากแพทย์วินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็นโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย สามารถรักษาได้ด้วยยาฆ่าเชื้อทั้งแบบรับประทานและการฉีดยา ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นภายใน 2-3 วัน สำหรับปอดอักเสบที่ติดเชื้อไวรัสมักมีความรุนแรงน้อยกว่าการติดเชื้อแบคทีเรีย การรักษาจึงพิจารณาตามอาการ โดยแนะนำให้ผู้ป่วยดูแลตัวเองให้แข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำให้เพียงพอและพักผ่อนให้เพียงพอ แต่หากผู้ป่วยมีโรคประจำตัว แพทย์อาจพิจารณาให้พักรักษาตัวในโรงพยาบาลจนกว่าจะหายสนิทและผู้ป่วยสูงอายุที่มีโรคประจำตัวอาจติดเชื้อที่รุนแรงมากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นหากมีคนในครอบครัวเป็นไข้หวัดใหญ่ ควรแยกผู้สูงอายุไม่ให้เข้าใกล้ผู้ป่วย เนื่องจากอาจติดเชื้อไวรัสจนเป็นโรคปอดอักเสบได้ส่วนผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานต่ำจากความเสื่อมสภาพทั่วไปของร่างกาย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่นเบาหวาน ไตวาย หัวใจ ไขมันพอกตับ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนจากปอดอักเสบ เช่น ระบบทางเดินหายใจล้มเหลวหรือที่อันตรายที่สุด คือการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ ส่วนการป้องกันโรคปอดอักเสบในผู้สูงอายุได้แก่ ผู้สูงอายุควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ใช้ช้อนกลาง หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดและไขมันสูง ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ, หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่, ไม่สัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง และหลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น,ลดการอยู่ในสถานที่แออัดในช่วงที่มีไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ระบาด, ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกปี เนื่องจากเชื้อโรคมีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลาประสิทธิภาพของวัคซีนสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ประมาณ70-80% ควรฉีดก่อนหน้าฝนราวเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงที่ไข้หวัดใหญ่ระบาด,ฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบส่วนใหญ่ คือเชื้อสเตรปโตคอคคัส นิวโมนิเอ(Streptococcus pneumoniae)หรือเรียกสั้นๆ ว่า เชื้อนิวโมคอคคัสซึ่งมีมากกว่า 90 สายพันธุ์ เป็นสาเหตุให้เกิดโรคติดเชื้อรุนแรง อื่นๆ อาทิ ภาวะติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมอง และติดเชื้อในกระแสเลือดโดยในปัจจุบันทางการแพทย์ได้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัสใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ
l วัคซีนนิวโมคอคคัส แบบคอนจูเกต (Conjugated)หรือ PCV13 สามารถป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัสได้ 13 สายพันธุ์ราคา 3,000 บาท รายละเอียด คลิก
l วัคซีนนิวโมคอคคัสแบบโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) หรือ PPSV23 ครอบคลุมเชื้อได้23 สายพันธุ์ ราคา 2,000 บาทรายละเอียด คลิก
ผู้สูงอายุที่อายุ 50 ปีขึ้นไปควรฉีดวัคซีนทั้ง 2 ชนิดร่วมกันโดยในผู้สูงอายุที่ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบมาก่อนควรฉีด PCV13 หนึ่งเข็มก่อนจากนั้นอีก 12 เดือน ค่อยฉีด PPSV23 ส่วนผู้ที่เคยฉีดวัคซีน PPSV23 มาก่อนแล้ว สามารถฉีด PCV13 ตามภายหลังได้โดยต้องฉีดห่างกันอย่างน้อยหนึ่งปี ซึ่งหลังจากได้รับวัคซีนยังพบว่าวัคซีนสามารถครอบคลุมสายพันธุ์ของเชื้อที่ก่อโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัสรุนแรงอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี