Valladolid เมืองใหญ่ที่สุดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสเปนที่ห่างจากมาดริดทางรถไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมง แห่งนี้เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีความน่าสนใจ ดั้งเดิมนั้นที่นี่เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาว Celtic กลางหุบเขาริมแม่น้ำ Duero สถานที่ซึ่งปัจจุบันยังสามารถขุดพบซากสิ่งของของชาว Celtic และชาวโรมัน ตัวเมืองเดิมตั้งอยู่บริเวณจัตุรัส San Miguel y el Rosarillo ในปัจจุบัน ในช่วงที่ชาวมุสลิมปกครองสเปน กษัตริย์คริสเตียนได้เคลื่อนย้ายประชากรไปทางเหนือเพื่อป้องกันมิให้ชาวมัวร์มารุกราน
ในปี 1469 พระนางเจ้า Isabella I of Castile และพระเจ้า Ferdinand of Aragon ได้อภิเษกสมรสกันในเมืองนี้ เท่ากับเป็นการยกระดับเมืองให้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ ระหว่าง 1554-9 Joanna of Austria น้องสาวของพระเจ้า ฟิลิปที่สองได้มาเป็นผู้สำเร็จราชการ ณ เมืองนี้จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของศูนย์กลางของราชวงศ์สเปนยุคใหม่ เมืองขึ้นสู่จุดสูงสุดอีกครั้งเมื่อ Valladolid ได้รับการสถาปนาให้เป็นเมืองและเป็นที่ประทับของบิชอปในปี 1596 ในระหว่างปี 1601-6 ที่พระเจ้าฟิลิปที่สามครองราชย์ Valladolid ได้เป็นเมืองหลวงของประเทศ ระหว่างนั้น Duke of Lerma ได้สะสมที่ดินในกรุงมาดริด เมื่อ Valladolid เกิดโรคระบาด Duke of Lerma ได้แนะนำให้พระเจ้าฟิลิปย้ายเมืองหลวงกลับไปมาดริด เขาสามารถสร้างกำไรอย่างงามจากการที่ที่ดินในเมืองมาดริดมีราคาสูงขึ้นอีกครั้ง
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองก็คือ Plaza Mayor จัตุรัสกลางเมืองแห่งแรกและสวยที่สุดของสเปนที่ได้กลายเป็นต้นแบบของเมืองอื่นๆ นี้ มีประวัติย้อนไปกลางคริสต์ศตวรรษที่ 13 จัตุรัสที่ถูกย้ายมาจากตลาด Santa Malia นี้เริ่มมีอาคารมากขึ้น และเป็นที่ตั้งของ Convent of San Francisco ตั้งแต่ปี 1499 ซึ่งได้กลายเป็นที่ว่าการของเมืองในเวลาต่อมา
เมื่อส่วนเมืองเก่าถูกไฟไหม้ไปในปี 1561 พระเจ้าฟิลิปที่สองจึงได้โปรดให้สร้างอาคารใหม่ขึ้น 2 หลังซึ่งได้รับการออกแบบโดย Juan Bautista de Toledo และ Francisco de Salamanca สถาปนิกประจำราชสำนัก อาคารสำนักงานของเทศบาลเมืองที่กลายเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรม Baroque แบบสเปนเริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 1892 ได้รับการออกแบบโดย Antonio Iturralde และ Enrique Repulles y Vargas สถาปนิกที่มีชื่อเสียงในช่วงเวลานั้น จัตุรัสที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นที่เฉลิมฉลองของประชาชนต่อราชวงศ์ได้ถูกออกแบบให้มีหน้ามุขขนาดใหญ่เพื่อให้ราชวงศ์และข้าราชบริพารสามารถมองเห็นการแสดงและความเป็นไปที่ลานกลางนี้ได้กลายเป็นต้นแบบของจัตุรัสกลางเมืองอีกหลายเมืองในสเปนไม่ว่าจะเป็นมาดริด Salamanca รวมทั้งเมืองในอิตาลี
Valladolid ยังได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดภาษาสเปนและถือว่าเป็นเมืองที่ภาษาสเปนบริสุทธิ์ที่สุดทำให้มีชื่อเสียงทางด้านปัญญาจึงดึงดูดนักปรัชญามากมายมายังเมือง แม้หลังจากที่พระเจ้าฟิลิปย้ายเมืองหลวงกลับไปที่มาดริดซึ่งทำให้ความสำคัญของเมืองด้อยลงก็ตาม กระทั่งคริสต์ศตวรรษที่19 เมื่อเมืองเริ่มมีการวางรางรถไฟ ความเจริญของเมืองก็ขึ้นถึงขีดสุดอีกครั้ง หลังปี 1950 เมื่อบริษัทใหญ่ๆ อาทิ ENDASA, FASA, TECNAUTO, SAVA ก่อตั้งบริษัทขึ้นในเมืองนี้ ที่นี่จึงกลายเป็นศูนย์กลางทางด้านอุตสาหกรรมยังผลให้มีผู้อพยพเข้ามาในเมืองเป็นจำนวนมากกว่า 2 ทศวรรษ เมืองจึงขยายไปทางทิศตะวันตกของแม่น้ำ Pisuerga หลังทศวรรษที่ 1960 นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมาเยือน Valladolid จะเห็นว่าอาคารรายรอบ Plaza Mayor ของเมืองนี้เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม และมีร้านอาหารรายรอบสมเป็นต้นแบบของ Plaza Moyor ทั่วทั้งสเปนอย่างแท้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี