คนเรานั้นหากจะมีความสุขก็ต้องปราศจากความกังวลทุกชนิด เพราะเมื่อกังวลแล้วจิตใจจะไม่ปลอดโปร่ง ไม่ผ่องใส แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์ปุถุชนแล้ว การจะมีชีวิตโดยปราศจากความกังวลโดยสิ้นเชิงนั้น ก็คงจะเป็นเรื่องยากมาก แต่เราก็มีกรรมวิธีที่จะทำให้ชีวิตของเรามีเวลาว่างเว้นจากความกังวลได้โดยยึดแนวคิดช่างหัวมัน มองโลกให้เป็นไปตามวิธีของมัน อย่าไปว้าวุ่น อย่าไปหมกมุ่นจนเกินการ วิธีหนึ่งที่คนมองโลกแง่ดีใช้ก็คือช่างหัวมัน
แนวคิดข้างต้น Mr. Flowerได้มาจากการไปเที่ยวหัวหินครั้งล่าสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยความคิดดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากได้เข้าไปชมโครงการตามพระราชดำริ “ชั่งหัวมัน”
คุณ ๆ อาจสงสัยว่าไปหัวหินแล้วไปเกี่ยวกับอะไรกับโครงการชั่งหัวมัน คำตอบก็คือโครงการนี้อยู่ก่อนถึงหัวหิน ดังนั้นเมื่อกลุ่มของผมขับรถแวะที่บ้านหนองคอกไก่ ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เพราะได้รับคำบอกเล่ามานานแสนนานจากเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นนายอำเภอท่ายางว่า หากมาท่ายางก็ต้องแวะชมโครงการชั่งหัวมันให้ได้
ประวัติโครงการชั่งหัวมัน
เมื่อปี พ.ศ. 2551 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงซื้อที่ดินจากราษฎรรอบบริเวณอ่างเก็บน้ำหนองเสือ ประมาณ 120 ไร่ ในปีต่อมาทรงซื้อที่ดินแปลงที่ติดกันเพิ่มอีก 130 ไร่ โดยมีพระราชดำริให้ทำเป็นโครงการตัวอย่างด้านเกษตร ทรงให้รวบรวมพันธุ์พืชเศรษฐกิจในพื้นที่ อ.ท่ายาง และพื้นที่ใกล้เคียงไปปลูกที่นี่ เพื่อเป็นศูนย์ร่วมพืชเศรษฐกิจพันธุ์ดีของอ.ท่ายาง และเพื่อให้ชาวบ้านกับราชการได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความเห็นในการเพาะปลูก และเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรของประชาชนทั่วไปด้วย
โครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 โดยได้พระราชทานพันธุ์มันเทศซึ่งแตกใบออกมาจากหัวมันที่ตั้งโชว์ไว้บนตาชั่งในห้องทรงงานในวังไกลกังวลให้นำไปปลูกในโครงการ (หัวมันเทศนั้นมาจากชาวบ้านนำมาถวายเมื่อครั้งพระองค์เสด็จไปประทับที่วังไกลวังวล) พระราชทานชื่อโครงการนี้ว่า โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ และพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรความคืบหน้าโครงการด้วยพระองค์เอง เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552
คนเฒ่าคนแก่ในชุมชนเล่าให้ฟังว่า เมื่อแรก ๆ ที่ดินตรงนี้แห้งแล้งมาก ขาดน้ำ ปลูกอะไรก็ไม่ได้ผล ชาวบ้านก็สงสัยว่าทำไมหนอพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงต้องการซื้อที่ดินที่แห้งแล้งนี้ และแล้วไม่นานนักเมื่อโครงการเริ่มต้นขึ้น ชาวบ้านก็เริ่มเข้าใจว่า ในหลวงท่านทรงต้องการให้ชาวบ้านเห็นว่าไม่ว่าผืนดินจะแห้งแล้งเพียงใด เราก็สามารถปลูกพืชได้ หากเราตั้งใจและมีความพยายาม จากนั้นผืนดินที่แห้งแล้งก็ค่อย ๆ แปรสภาพเป็นสวนต้นไม้ มีแปลงพืชผักสวนครัวสารพัดชนิด มีไร่สับปะรดปัตตาเวีย สวนแก้วมังกร มะละกอแขกดำ สวนมะพร้าวน้ำหอม สวนชมพู่เพชร ชมพู่สายรุ้ง และกล้วยชนิดต่าง ๆ พร้อม ๆ กันนั้นก็มีไร่อ้อย ไร่มันเทศญี่ปุ่น มันเทศออสเตรเลีย มันต่อเผือก มันปีนัง หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวเหนียวพันธุ์ชิวแม่จัน ข้าวเจ้าพันธุ์ข้าวหอม พันธุ์ลีซอ พันธุ์ข้าวขาวนายาง มีสวนยางพารา และสวนชมพู่ สวนมะนาว ไร่ข้าวโพด สวนพริก สวนกะเพรา ฯลฯ
ชาวบ้านที่คุ้นเคยกับโครงการนี้บอกว่ามะนามพันธุ์พื้นเมืองคือพืชยอดนิยมที่ทำรายได้ให้กับโครงการนี้อย่างน่าพึงพอใจที่สุด และในที่สุดโครงการนี้ก็คือพื้นที่ที่ชาวบ้านในตำบลกลัดหลวง และตำบลเขากระปุกใช้เป็นที่ทำมาหากินและเป็นโครงการที่ทำให้ชาวบ้านสามารถร่วมแรงร่วมใจกันเป็นอย่างดี ชาวบ้านบอกว่าแรก ๆ ก็คิดว่าปลูกต้นไม้และทำสวนเพื่อถวายในหลวง แต่สุดท้ายก็รู้แล้วว่า โครงการนี้คือของขวัญที่ในหลวงพระราชทานให้กับชาวบ้านเพื่อให้มีความอยู่ดีกินดีมีความสุข
พืชพันธุ์ที่นี่ไม่ใช้สารเคมีใด ๆ ดังนั้นผลผลิตจึงอาจไม่สวยเหมือนพืชที่เต็มไปด้วยสารเคมี แต่เพราะความที่เป็นพืชไร้สารเคมีนี่เองจึงทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก เพราะสะอาดและปลอดภัย ส่วนน้ำที่ใช้ในโครงการนี้ก็มาจากระบบระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำหนองเสือ ที่พระองค์ท่านทรงให้ปรับปรุงเพื่อให้มีน้ำสำหรับทำการเกษตร
นอกจากพืชพันธุ์นานาชนิดแล้ว ที่นี่ยังมีโครงการทุ่งกังหันลมผลิตไฟฟ้าจำนวน 20 ต้น ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 50 กิโลวัตต์อีกด้วย
ชาวบ้านบอกว่าไม่เคยคิดว่าในหลวงจะทรงรักประชาชนของพระองค์มากมายถึงเพียงนี้ พระองค์ทรงเปลี่ยนผืนดินที่แห้งแล้งให้กลายเป็นเขตเพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์ได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี และยังทรงทำให้ชาวบ้านได้เรียนรู้วิธีที่จะแก้ปัญหาความแห้งแล้งได้อย่างน่าอัศจรรย์
คุณยายรายหนึ่งบอกว่า เมื่อก่อนเวลาในหลวงเสด็จไปประทับที่วังไกลกังวล ฉันก็มักจะไปเฝ้ารับเสด็จตามริมทางเพื่อกราบในหลวงเวลาขบวนรถพระที่นั่งแล่นผ่าน แต่เดี๋ยวนี้พระองค์ท่านไม่ค่อยเสด็จไปประทับที่วังไกลกังวล ฉันก็ได้แต่เฝ้ารอว่าสักวันพระองค์ท่านจะเสด็จไปประทับอีก ฉันจะได้ไปเฝ้ารอกราบพระองค์ท่านเวลาที่รถยนต์พระที่นั่งแล่นผ่านอีก ฉันอยากบอกในหลวงว่า ฉันรักพระองค์ท่านเหลือเกิน ฉันรักในหลวงมากเหลือเกิน
สัปดาห์นี้ หากคุณว่าง และอยากไปเที่ยวหัวหิน อยากจะแวะไปชมวังไกลกังวล ก็อย่าลืมแวะชมโครงการตามพระราชดำริ ชั่งหัวมันด้วยนะครับ แล้วคุณจะรู้ว่านี่คืออีกหนึ่งโครงการที่ในหลวงของคนไทยพระราชทานสิ่งดี ๆ ไว้ให้พสกนิกรของพระองค์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี