เมื่อน้ำจากตอนเหนือของเจ้าพระยามีน้อยลง น้ำทะเลก็ดันสูงขึ้น ปัญหาน้ำประปาเค็มจึงเกิดขึ้น แต่ปัญหานี้แก้ไขได้เบื้องต้นโดยไม่เก็บน้ำประปาช่วงบ่าย 2 ถึงบ่าย 5 โมงไปดื่ม และต้องมีเครื่องกรองน้ำที่ไส้กรองมีคุณภาพสูงสามารถกรองเกลือออกได้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือเราต้องช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมของโลก ช่วยกันลดการสร้างมลภาวะ
ไลฟ์วาไรตี้โดยแนวหน้า ดำเนินรายการโดย ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย พาคุณไปสนทนากับ ศ.ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล รองคณบดีด้านยุทธศาสตร์ นวัตกรรม และความยั่งยืน คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงแนวทางแก้ปัญหาน้ำประปาในบางเขตของกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีความเค็มในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง
l เรียนถามอาจารย์ว่าผู้ประสบปัญหาน้ำประปาเค็มจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยตัวเองได้อย่างไรบ้างครับ
ดร.พิสุทธิ์ : แก้ปัญหาที่เร็วที่สุดคือซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดที่ได้มาตรฐานมาดื่มก่อนครับอันดับต่อมาคือใช้เครื่องกรองน้ำระบบ reverseosmosis หรือ RO ที่มีแผ่นกรอง (membrane)ได้มาตรฐาน และไม่นำน้ำประปาในช่วงเวลาบ่ายสองโมงถึงห้าโมงไปดื่มหรือทำอาหารเพราะช่วงเวลานั้นน้ำประปาในฤดูแล้งจะมีความเค็มมากกว่าปกติ หากจะรองน้ำประปาไว้ใช้บริโภคก็ต้องรองในช่วงเวลาอื่น เพราะน้ำประปาไม่ได้เค็มตลอด 24 ชั่วโมง สามารถติดตามรายละเอียดความเค็มของน้ำประปาได้ที่เว็บไซต์ของการประปานครหลวง และการประปาภูมิภาคครับ
l เครื่องกรองน้ำทั่วไปที่ติดตั้งอยู่ตามหอพัก อพาร์ทเมนท์ หรือตามร้านค้าในชุมชนมีมาตรฐานพอกับการกรองความเค็มออกจากน้ำประปาได้ไหมครับ
ดร.พิสุทธิ์ : ต้องดูด้วยว่าเขาเปลี่ยนใส่กรองตามกำหนดเวลาหรือไม่ ทำความสะอาดระบบตามกำหนดหรือไม่ และที่สำคัญคือต้องดูว่าเป็นระบบ reverse osmosis จริงหรือไม่เท่าที่พบส่วนใหญ่ก็จะเป็นระบบ reverseosmosis แต่ไม่มั่นใจเรื่องการบำรุงรักษาและเปลี่ยนแผ่นกรอง ส่วนหากจะซื้อเครื่องกรองน้ำไว้ใช้เองก็ต้องเลือกระบบที่มี reverse osmosisที่แท้จริงได้มาตรฐาน แต่ผมแนะนำว่าเราไม่ควรดื่มน้ำจากระบบ RO ตลอดเวลา เพราะแร่ธาตุสำคัญในน้ำถูกกรองออกไปแล้ว การดื่มน้ำที่ไม่มีแร่ธาตุสำคัญทำให้ร่างการขาดแร่ธาตุได้ดังนั้นเราควรนำน้ำที่ผ่าน RO ไปผสมกับน้ำประปาที่เรามั่นใจว่าสะอาดแล้วนำไปบริโภค โดยอาจนำไปต้มก่อน วิธีนี้น่าจะปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ดื่มน้ำประปาตามบ้านเรือน
l มีผู้ฝากคำถามว่า คณะวิศวกรรมฯสิ่งแวดล้อม ของจุฬาฯ มีข้อแนะนำการซื้อเครื่องกรองน้ำอย่างไรบ้าง มีข้อมูลที่ประชาชนจะเข้าไปค้นหาได้อย่างไรบ้างครับ
ดร.พิสุทธิ์ : ที่ภาควิชาสิ่งแวดล้อมคณะวิศวกรรมฯ มีศูนย์เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม และยินดีให้คำปรึกษากับทุกท่าน ศูนย์นี้มีศาสตราจารย์อรุณ สรเทศน์ เป็นผู้ดูแล และมีคณะทำงาน หากประชาชนมีคำถามเรื่องมาตรฐานเครื่องกรองน้ำ สามารถติดต่อค้นหาข้อมูลได้ครับ ส่วนอีกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับน้ำในระบบอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ก็คือโรงงานอุตสาหกรรมต้องการน้ำสะอาดเพื่อนำไปใช้ในการผลิตสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมในเขต EEC (เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) ที่มีปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำสำหรับการอุตสาหกรรม ประเด็นนี้ภาควิชาสิ่งแวดล้อมก็เข้าไปศึกษาวิจัยเพื่อหาทางแก้ปัญหาให้อยู่ครับ ภาควิชาฯ มีงานวิจัยเพื่อการผลิตแผ่นกรอง (membrane) ของระบบ RO ให้มีคุณภาพดีขึ้น ราคาถูกลง โดยเราพยายามค้นหาวิธีที่จะทำให้มีน้ำเหลือกลับมาใช้ได้จริงหลังผ่านระบบ RO ให้มากกว่าเดิมคือจากที่ต้องทิ้งน้ำไปประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ให้ทิ้งเพียง 10-15 เปอร์เซ็นต์ แล้วทำอย่างไรจะไม่ให้น้ำเค็มที่เหลือทิ้งไปก่อมลภาวะอื่นๆ ต่อไปอีกเพราะหากเราทิ้งไปบนดิน ดินก็จะเกิดปัญหาเค็มต่อไปอีก แล้วเราก็พยายามสร้างแผ่นกรองราคาประหยัดคุณภาพดีโดยเป็นผลผลิตของประเทศไทย เป็น brand Thailand เรามีวัตถุดิบสำหรับผลิตในบ้านเราทั้งหมด เช่น เซลลูโลส (cellulose) อาซิเตท (acetate) เราอาจจะขาดเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่เราแก้ไขได้ เพราะเรามี local material ล่าสุดในบ้านเรามีบริษัทของคนไทยผลิตของเหล่านี้แล้วและพยายามทำเป็น brand ของประเทศไทยที่ได้มาตรฐาน เมื่อเราผลิตสินค้าได้ราคาถูกลง ประชาชนก็จะใช้มากขึ้น ผมย้ำว่าน้ำคือทองคำครับ มีค่ามากๆ แต่คนบางกลุ่มไม่เห็นคุณค่าจึงใช้แบบไม่ยั้งคิด ไม่ประหยัด
l หากมีนักธุรกิจเอกชนสนใจเข้าไปร่วมลงทุนผลิต membrane กับคณะวิศวะ จุฬาฯ จะมีขั้นตอนอย่างไรครับ
ดร.พิสุทธิ์ : เรียนเชิญไปหารือกัน คุยกันได้ที่คณะฯ เลยครับ ผมยินดีร่วมหารือด้วยขอเรียนว่าจุฬาฯ มีนวัตกรรมดีๆ เพื่อสังคมโลกมากมาย เราต้องการผู้ร่วมลงทุนเพื่อผลิตสินค้าดีๆจากผลการวิจัยที่เรามีอยู่แล้ว เรียนเชิญได้ที่คณะวิศวะ จุฬาฯ ครับ หรือจะนัดผมเพื่อหารือกันก็ได้ครับ ด้วยความยินดี เรามีหน่วยงานindustrial liaison ที่เป็นตัวประสานระหว่างภาควิชาการกับภาคการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมเรามาร่วมมือกันเพื่อสังคมที่ดีของเรานะครับผมย้ำว่าการลงทุนผลิต membrane ไม่เกินหลักร้อยล้านครับ
l ผมกลับไปที่ประเด็นน้ำทะเลหนุนสูงจนทำให้การผลิตน้ำประปาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลประสบปัญหาน้ำประปาเค็ม ปัญหานี้จะแก้อย่างไรดีครับ เพราะทุกปีในช่วงน่าแล้งน้ำจากภาคเหนือก็จะน้อยลงมากจนไม่พอสำหรับดันน้ำทะเลที่ปากอ่าวไทย
ดร.พิสุทธิ์ : สาเหตุของปัญหามีดังนี้ครับปีนี้น้ำทะเลหนุนสูงมากที่สุดในรอบ 15-20 ปีนี่ยืนยันได้ว่าโลกเราประสบปัญหาโลกร้อนจริงๆปัญหาต่อมาคือเราไม่มีน้ำจืดมากพอที่จะไล่น้ำเค็มออกไปได้ เพราะในเขตภาคเหนือใช้น้ำมากขึ้น ทั้งเพื่อการเกษตรและการอุตสาหกรรม เมื่อน้ำจืดจากภาคเหนือน้อยก็ไล่น้ำทะเลไม่ได้ เมื่อประมาณเกือบๆ 100 ปีมาแล้ว น้ำทะเลไม่เคยดันสูงขึ้นไปถึงเพียงนี้ ข้อเท็จจริงคือน้ำประปาของเรามีโรงงานอยู่ที่สำแล ปทุมธานีซึ่งบริเวณนี้เป็นจุดที่เลือกมาตั้งแต่สมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เมื่อ 100 กว่าปีมาแล้ว ด้วยทรงมีสายพระเนตรที่ยาวไกลมาก เพราะทรงประจักษ์ว่าน้ำทะเลในยุคนั้นไม่มีทางดันขึ้นไปถึงสำแลแต่เมื่อวันเวลาผ่านไปยาวนานกว่า 100 ปี สภาพสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไปมาก บางปีน้ำทะเลจึงหนุนขึ้นไปสูงถึงที่นี่ ซึ่งก็จำเป็นต้องพิจารณาว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร เพราะเมื่อน้ำจืดในเจ้าพระยาตอนเหนือมีน้อย น้ำเค็มก็ดันขึ้นไปสูง เราอาจต้องพิจารณาเปลี่ยนสถานีผลิตน้ำประปาที่สำแลให้ขยับสูงขึ้นไปกว่าเดิมหรือไม่ ก็ต้องมาหารือกัน แต่ขอย้ำว่าปัญหาน้ำประปาเค็มเกิดเฉพาะในเขตกรุงเทพด้านตะวันออกเท่านั้น เพราะด้านนี้ใช้น้ำจากเจ้าพระยาเพื่อผลิตน้ำประปา แต่ไม่มีปัญหาในเขตกรุงเทพฯด้านตะวันตก เพราะใช้น้ำจากแม่กลอง โดยผ่านการผลิตประปาที่มหาสวัสดิ์ ธนบุรี เราอาจจะต้องผันน้ำจากแม่กลองไปช่วยแก้ปัญหาให้เจ้าพระยาหรือไม่ ก็ต้องพิจารณากันต่อไปด้วย แต่อย่าลืมว่าหากเราสร้างโรงงานประปาใหม่โดยไม่ใช้ที่สำแล เราก็ต้องลงทุนอีกมากมาย อย่างไรก็ตาม ผมขออนุญาตพูดเรื่องพฤติกรรมการใช้น้ำของคนในบ้านเราด้วยนะครับ เราใช้น้ำโดยไม่ประหยัดหรือเปล่า ใช้น้ำมากเกินความจำเป็นหรือเปล่า เพราะอาจเห็นว่าเป็นน้ำฟรีจากธรรมชาติ การทำเกษตรของคนในบ้านเรายังไม่คำนึงถึงการประหยัดน้ำ เพราะไม่ต้องจ่ายค่าน้ำ ผมขอแนะนำให้คิดให้รอบคอบก่อนใช้น้ำในทุกกิจกรรม อย่าคิดว่าของฟรีแล้วใช้แบบไม่ประหยัด ผมเสนอว่าเราควรเลือกปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยลง แต่ให้ผลผลิตได้มาก และทำให้เกษตรกรได้รายได้มากขึ้น เรื่องนี้สำคัญมาก เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนี้ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ ส่วนอีกปัจจัยคือ climatechange โลกร้อน น้ำทะเลหนุนสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหลายฝ่ายวิตกว่ากรุงเทพฯ อาจจะจมทะเลในอนาคต หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็ไม่ต้องพูดเรื่องน้ำประปาเค็มอีกต่อไป เพราะทุกอย่างจบแล้ว ดังนั้นผมอยากให้ทุกคนช่วยกันลดอุณหภูมิของโลกด้วยการลดการใช้พลังงาน ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม ช่วยกันปลูกต้นไม้ใหญ่ ช่วยกันrecycle, reuse, reduce เราต้องเน้น circulareconomy ต้องนำของที่ใช้แล้วกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ เราสามารถช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้ครับและเราต้องบอกทุกคนให้เลิกพฤติกรรมกินอาหารไม่หมด เพราะขยะจากเศษอาหารที่หมักไว้จะทำให้เป็นตัวการของการเกิดก๊าซมีเทนซึ่งเป็นต้นเหตุความรุนแรงของปัญหาโลกร้อนมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่าผมขออนุญาตพูดเรื่องการกินเค็มของคนไทยอีกนิดครับ ผมไม่วิตกมากนักกับปัญหาน้ำประปาเค็มเพราะมันไม่ได้เค็มจนทำให้เรามีปัญหาสุขภาพมากนัก เพราะไม่มีใครดื่มน้ำประปาตลอดเวลา แต่ที่ผมห่วงมากกว่าคือพฤติกรรมการบริโภคของเค็มอื่นๆ ในสังคมไทย เราทุกคนต้องลดการกินของเค็มๆ ลงนะครับ เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีของเราทุกคน
คุณจะได้พบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ รายการไลฟ์วาไรตี้ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 11.00-11.25 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NBT กดหมายเลข 2และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ไลฟ์วาไรตี้โดยแนวหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี