การประกาศปิดเมืองล็อกดาวน์ของประเทศฝรั่งเศส ในเดือนมีนาคม 2564 เพราะเกิดการ ระบาดหนักของโควิดเป็นระลอกที่3 และมีคนเสียชีวิตเกือบแสนคน ขณะที่อัตราการติดเชื้อของจีนและหลายประเทศทั่วโลกกำลัง ลดลง ทำให้เกิดความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับฝรั่งเศสที่เจริญและมีเทคโนโลยีก้าวหน้า ทำไมฝรั่งเศสที่เป็นมหาอำนาจยิ่งใหญ่ของโลกจึงถูกโจมตีจนสู้ไม่ได้ จากศัตรูตัวเล็กจิ๋วจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นชนิดใหม่ เช่น ไวรัสโคโรน่า ที่ไม่เคยพบกันมาก่อนในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
มีการพบผู้ติดเชื้อโควิดครั้งแรกในฝรั่งเศส เมื่อ 24 มกราคม 2563 จากผู้เดินทางมาจาก ประเทศจีน 5 คน ที่เมืองบ๋อกโด ต่อมา 14-17 กุมภาพันธ์ 2563 พบการติดเชื้อโควิดกว่าพันคนในวงกว้างที่โบสถ์คริสต์ ในเมืองมุลเฮ้าส สถิติเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2564 ระบุว่า ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อโควิด 4.83 ล้านคน เสียชีวิต 96,847 คน มีผู้ติดเชื้อใหม่ 10,793 คน เสียชีวิต 197 คนภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมาก ดังนั้นจึงน่าสนใจที่จะวิเคราะห์ว่าเหตุใดจึงเกิดวิกฤตเช่นนี้ในฝรั่งเศสได้
1.ความประมาท ยืมจมูกคนอื่นหายใจ ประเทศฝรั่งเศสมีความหยิ่งผยองในการเป็นมหาอำนาจ เคยมีดินแดนในปกครองทั่วโลก ดังนั้นจึงไม่ได้เตรียมพร้อมล่วงหน้าในการรับมือกับโรคโควิดอย่างเพียงพอ ชุดตรวจโควิด และหน้ากากอนามัยที่ผลิตในฝรั่งเศสต้องอาศัยวัตถุดิบจากจีน พอจีนหยุดส่งออกวัตถุดิบเพื่อสงวนไว้ใช้ในประเทศ ฝรั่งเศสก็ขาดแคลนหน้ากากอนามัยและไม่สามารถตรวจหาผู้ติดเชื้อได้ทันท่วงที ฝรั่งเศสเพิ่งดัดแปลงโรงงานเก่าที่มีอยู่มาผลิตวัคซีนโควิดของโมเดิร์นน่า จอห์นสัน และไฟเซอร์ เมื่อต้นปี 2564 ขณะที่ประเทศอื่น เช่น อังกฤษ จีน และอินเดีย ได้ก้าวไปไกลกว่าแล้ว
2.ปัญหาการก่อการร้ายและโจรกรรมในประเทศ เนื่องจากฝรั่งเศสเป็นพันธมิตรกับอเมริกา ดังนั้น จึงมีศัตรูร่วม คือ กลุ่มอาหรับทั้งหลายที่อยู่ไม่ไกล ต้องมีทหารตำรวจเดินถือปืนกลคอยระวังเหตุร้ายทั่วแหล่งท่องเที่ยวและสนามบิน มีการล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นประจำในกรุงปารีสโดยพวกลี้ภัยจากประเทศใกล้เคียง
3.รัฐบาลฝรั่งเศสเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจะเสียหาย มากกว่าการระบาดของโรคร้าย ปล่อยให้โรคลุกลามเหมือนไฟลามทุ่งจนสายเกินแก้ การไม่ปิดพรมแดนทำให้คนต่างชาตินำเชื้อโควิดหลายสายพันธุ์เข้าไประบาดในฝรั่งเศสจนผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล ทหารบนเรือบรรทุกเครื่องบินชาลส์ เดอโกล กว่าพันคน ก็ติดเชื้อโควิดหลังจากจอดพักที่เมืองเบรสต์
ประธานาธิบดีมาครองของฝรั่งเศส ประกาศให้ปิดสถานศึกษา ห้ามการชุมนุมเกิน 100 คน ปิดภัตตาคาร พิพิธภัณฑ์ หอไอเฟล โรงภาพยนตร์ ไนท์คลับ ร้านตัดผม ร้านขายเสื้อผ้า และห้ามออกจากบ้านในเดือนมีนาคม 2563 หลังจากที่เชื้อโควิดได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศแล้ว
4.การแปลงร่างของเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์อังกฤษ แอฟริกัน และบราซิลที่รุนแรงกว่าสายพันธุ์จีน ทำให้ยาที่เคยใช้ได้ดีกลับมีผลลดลง ชุดตรวจเชื้อเร่งด่วนที่ซื้อมาจากจีนวัดผลได้ไม่แม่นยำ จนคนไม่เชื่อถือ ไม่ไปตรวจหาเชื้อโควิด
5.การอยู่ใกล้ประเทศอังกฤษ อิตาลี และ สเปน ที่มีการระบาดของโควิดสูงเช่นกัน ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ ข้ามพรมแดนเข้ามาในฝรั่งเศสทางรถไฟ รถยนต์ และเครื่องบิน โดยป้องกันไม่ทั่วถึงสายการบิน และเรือเดินสมุทร ที่เชื่อมต่อฝรั่งเศสกับแอฟริกา นำโควิด สายพันธุ์แอฟริกันที่รุนแรงเข้ามาระบาดในฝรั่งเศส
6.อาหารฝรั่งเศสบางชนิดอาจเป็นพาหะนำโรคโควิด เช่น หอยนางรมสด เหล้าไวน์
7.คนฝรั่งเศสส่วนหนึ่งไม่ยอมใส่หน้ากาก เพราะเป็นการทำตามอย่างชาวจีน แสดงว่าเป็นคนป่วย และหายใจไม่สะดวก
8.ความบ้าคลั่งในเสรีภาพและประชาธิปไตย ทำให้คนฝรั่งเศสส่วนหนึ่งขัดขืนต่อต้านประท้วงคำสั่งและคำแนะนำของแพทย์และรัฐบาล เช่น การสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และการพบคนมากๆ จนต้องมีการจับกุม ลงโทษ แล้วทำให้เชื้อโควิดระบาดไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว
9.ผู้ลี้ภัยที่หนีความยากจนและการสู้รบมาจากยุโรปตะวันออก เช่น ซีเรีย อัลบาเนีย และคนผิวดำจากอาณานิคมฝรั่งเศสในแอฟริกาจำนวนมาก ที่อยู่อย่างแออัดในฝรั่งเศส ทำให้การควบคุมโรคระบาดทำได้ลำบาก
10.การขนส่งมวลชนด้วยรถใต้ดินและรถไฟ ในกรุงปารีส ที่แน่นขนัดโดยเฉพาะในฤดูหนาว และเวลาเร่งด่วน ทำให้การระบาดของโควิดเกิดขึ้นโดยง่าย
11.การว่างงาน ซึ่งเกิดจากโรงงานบางแห่งต้องชะลอหรือปิดกิจการ เพราะขายสินค้าได้ ลดลง กิจการท่องเที่ยวล่มสลายไม่มีนักท่องเที่ยวมากเช่นเคย ทำให้เกิดคนว่างงาน และคนยากจนจำนวนมากซึ่งไม่กล้าไปหาหมอเมื่อป่วยเล็กน้อย เพราะเกรงเสียค่ารักษาพยาบาลแพง
12.ปัญหาการใช้ยา ไฮดรอซี่คลอโรควิน Hydroxychloroquine ที่ใช้รักษาโควิดในฝรั่งเศสในระยะต้น เช่น ยา พลาคิวนิล Plaquenil ที่เกิดผลข้างเคียงเกี่ยวกับหัวใจ (cardiac arrhythmia and heart attack) ในผู้ป่วยโควิดบางคน จนต้องสั่งระงับการใช้
13.ปัญหาสถานดูแลคนชรา ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่การแพทย์ดูแลตอนกลางคืน ทำให้มีผู้สูงอายุเสียชีวิตตอนกลางคืนจำนวนมาก
14.ปัญหาผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล และขาดแคลนพยาบาล ต้องใช้รถไฟขบวนพิเศษ ขนย้ายผู้ป่วยจำนวนมากจากโรงพยาบาลในกรุงปารีสไปยังเมืองอื่นๆ คนป่วยโควิดฝรั่งเศสบางคนต้องข้ามแดนไปรักษาที่เยอรมนี ลักเซมเบิร์ก และสวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศสกำลังขาดแคลนพยาบาลอย่างหนัก เพราะพยาบาลจำนวนมากลาออกไปทำอาชีพอื่นเนื่องจากกลัวติดเชื้อโควิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี