LINE FASHION ANNUALE 2021 (ไลน์ แฟชั่น แอนนัวเล่ 2021) เชิญผู้เชี่ยวชาญแฟชั่นแถวหน้าของไทย ป้าตือ-สมบัษร ถิระสาโรช คุณฟอร์ด-กุลวิทย์ เลาสุขศรี และคุณปุ๊ก-จงกล พลาฤทธิ์บรรณาธิการแฟชั่น นิตยสาร โว้ก ประเทศไทยติวเข้มเทรนด์การออกแบบและการทำธุรกิจแฟชั่นแก่ 15 แบรนด์ไทยที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมจัดแสดงคอลเลคชั่น
บนรันเวย์แบบไฮบริดครั้งแรกของไทยในเดือนกรกฎาคมนี้
หลังจากทั้ง 15 ทีม ต้องฝ่าฟันผ่านการคัดเลือกจากกว่า 500 ทีม เข้ามาถึงรอบสุดท้าย ต่อจากนี้ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะได้รับประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ผ่านกระบวนการกรูมมิ่งและเวิร์กช็อปกับมืออาชีพแถวหน้าของเมืองไทย เพื่อพัฒนาแนวคิดทักษะฝีมือทุกมิติ ทั้งแฟชั่น การตลาด และดิจิทัล เริ่มต้นด้วยกิจกรรมปฐมนิเทศบอกเล่า 4 เทคนิคจำเป็นที่แบรนด์แฟชั่นไทยต้องมีในโลกแฟชั่นยุคนี้
เทคนิคแรก-เรื่องเล่าโดดเด่นเป็นกระแสได้อย่างดี โดย ปุ๊ก-จงกล พลาฤทธิ์แฟชั่นไดเร็กเตอร์ Vogue แนะนำว่า การที่แบรนด์มีเรื่องราว story telling จะทำให้สามารถมีบทสนทนาใหม่ๆ กับลูกค้าได้เสมอ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความสนใจในตัวตนของแบรนด์ได้อย่างมาก ผู้ประกอบการต้องกลับไปทำความเข้าใจในเรื่องนี้อย่างถ่องแท้ ก่อนจะนำมาคิดออกแบบแล้วทดลองสื่อสารกับลูกค้าอย่างเช่นหลายๆ แบรนด์ปัจจุบันมีการทำสินค้ารักษ์โลก เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม แล้วนำปัจจัยนี้ไปประกอบการเล่าเรื่อง Story Telling ที่สุดท้ายแล้วเพิ่มมูลค่าเพิ่ม Value เพื่อส่วนรวมและสังคมได้
ปุ๊ก-จงกล ได้ยกตัวอย่างแบรนด์ไทยที่เป็นกรณีศึกษาที่ยอดเยี่ยมอย่าง BOYY Bag เมื่อมาถึงจุดธุรกิจที่ค่อนข้างอิ่มตัว
เขาสามารถสร้างบทสนทนาใหม่ โดยออกแบบกระเป๋าที่เป็น Upcycling มาสร้างเป็นคอลเลคชั่นใหม่เรียกว่า BOYY UP นำกระเป๋าโครงสร้างเดิมแต่เปลี่ยนมาใช้วัสดุจากอีกแพทเทิร์นหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นชิ้นงานใหม่ เป็นการใช้วัสดุและวัตถุดิบต่างๆ ที่มีอยู่แล้วมาออกแบบและประกอบร่างใหม่เพื่อสร้างรูปทรงและตัวตนที่ไม่เหมือนเดิม เป็นคอลเลคชั่นที่ขายดี เพราะมีความชาญฉลาดในการเล่าเรื่องใหม่ที่เล่าผ่านกระแสความยั่งยืนนั่นเอง
เทคนิคที่สอง-สต็อกค้างมีได้แต่ต้องรู้จักจัดการ โดย ป้าตือ-สมบัษร ถิระสาโรช กล่าวเสริมถึงการจัดการแบรนด์ โดยเฉพาะเรื่องเคลียร์สต็อกว่าเป็นอีกส่วนที่สำคัญไม่ว่าจะนำมาอยู่ในรูปแบบ New Form หรือ Re-Construction ต้องทำให้สต็อกมีชีวิตใหม่ขึ้นมาด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำเสื้อผ้าเก่ามาดีไซน์เป็นชิ้นงานใหม่ เป็นต้น ผู้ประกอบการต้องมองถึงคุณค่าของแบรนด์ที่อยากส่งต่อ ต้องศึกษาภาพรวมทั้งอุตสาหกรรมแฟชั่น แล้วนำมาสู่การพลิกแพลงผลงานให้มีคุณค่า ทำให้สินค้าเป็นที่ยอมรับ ควบคู่ไปกับความอยู่รอดของบริษัท นอกจากนั้น ต้องมีความสามารถบริหารจัดการสต็อก ทำให้มีเงินหมุนเวียนได้ ซึ่งป้าตือเล่าถึงกรณีศึกษาของแบรนด์หนึ่งว่า ทุกครั้งที่ทำคอลเลคชั่นจะไม่ใช้เงินทุนที่ได้จากกำไรของคอลเลคชั่นที่ผ่านมา แต่จะตั้งงบประมาณแยกขึ้นมาสำหรับแต่ละโปรเจกท์เพื่อควบคุมกำไรขาดทุนและวิธีการทำงานได้ง่ายกว่า ทำให้สามารถมีเงินสำรองไว้รันธุรกิจต่อไปได้
เทคนิคที่สาม-Passion ต้องชัด ความอินเตอร์ต้องมี โดย ฟอร์ด-กุลวิทย์เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหาร Vogue Thailand กล่าวว่า ผู้ประกอบการต้องแสดงออกถึง Passion ของตนเองให้ชัดเจน เอาจุดแข็งออกมานำเสนอแฟชั่น คือ เรื่องการดีไซน์ทุกองค์ประกอบ มันคือการขายผลงานการออกแบบ ไม่ใช่แค่เรื่องของงานผ้า เช่น หากวัสดุมีเรื่องราว มีจุดเด่นก็ควรส่งเสริมคุณค่าของวัสดุที่นำมาใช้ สื่อสารถึงที่มาของสินค้าโดยแสดงออกถึงความจริงใจ การแสดงตัวตนที่ชัดเจน ต้องมีคู่ไปกับความเป็นอินเตอร์เสมอ ถือเป็นการสร้างเสน่ห์ให้กับคอลเลคชั่น ไม่ใช่แค่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายแล้วเกิดการซื้อเท่านั้น แต่ต้องเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมให้เกิด Community ของผู้ที่ใช้สินค้าของเรา
เทคนิคที่สี่-เครื่องมือออนไลน์ ไม่ใช่แค่ขาย แต่ใช้บริหารข้อมูลลูกค้า โดยเหล่ากูรูยังแนะนำให้ผู้ประกอบการใช้ทักษะการสื่อสารที่ถูกต้อง โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์นำเสนอสินค้าด้วยวิธีการใหม่ๆไม่จำเป็นต้องเน้นขายสินค้าเสมอไป แต่ควรเปลี่ยนมาสนองตอบความต้องการของลูกค้าให้ได้มากกว่า โดยเริ่มจากศึกษาข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า ทำสถิติลูกค้า Active ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงฉับไวจนต้องวางแผนกันแบบเดือนต่อเดือน โดยป้าตือได้แนะนำเทคนิคครองใจลูกค้าจากประสบการณ์ด้านออนไลน์ของตนเองว่า ต้องค่อยๆ สร้างฐานลูกค้าจากกลุ่มคนทั่วไปให้รู้จักแบรนด์ของเราก่อน แล้วจับเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เพราะหากเริ่มต้นจากกลุ่มเล็กและนำเสนอเฉพาะกลุ่มจะทำให้ลูกค้าส่วนมากคิดว่าแบรนด์นี้ไม่ได้ทำมาเพื่อตัวเขา แบรนด์นี้ก็จะไม่ได้รับความสนใจต่อไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ผู้ประกอบการสามารถเก็บข้อมูลและศึกษาข้อมูลลูกค้าได้จากช่องทางออนไลน์
เพียงเริ่มต้นก็อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาที่ทั้ง 15 แบรนด์แฟชั่นไทย ต้องนำไปใช้และปรับปรุงพัฒนางานของตน แต่จะเป็นไปตามคอนเซ็ปต์ที่วางไว้ ตรงใจลูกค้าอย่างเราๆ ได้แค่ไหน ต้องเตรียมติดตามบนเวที LINE FASHION ANNUALE 2021 รันเวย์แบบไฮบริดครั้งแรกของไทยในเดือนกรกฎาคมนี้และสำหรับผู้ประกอบการแฟชั่นที่อยากได้รับความรู้เพื่อร่วมพัฒนาแบรนด์ของตัวเองไปด้วยกัน สามารถรอติดตามชมซีรี่ส์เรียลิตี้Behind the Stage-LINE FASHION ANNUALE 2021 ผ่าน LINE TV และติดตามความเคลื่อนไหวของงานได้ทาง LINE Official Account : LINE for Business (@linebizth)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี