วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568
สารสกัดลำไยไทยมีผลในทางการแพทย์มาตั้งแต่โบราณกาล สามารถใช้ดักจับเชื้อไวรัสเช่น โควิด-19 ไวรัส HIV ไวรัสเชื้อเริมได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ที่สำคัญคืองานวิจัยชิ้นนี้ได้ผลดีมาก และสามารถช่วยเหลือชาวสวนลำไยได้อีกด้วย
รายการไลฟ์ วาไรตี สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย นำคุณไปสนทนากับ ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ จากภาควิชาเภสัชกรรมปฏิบัติ คณะเภสัชศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงความมหัศจรรย์ของสารสกัดเข้มข้นจากลำไยไทยในการดักจับเชื้อไวรัสต่างๆ ไม่ให้เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของมนุษย์
อาจารย์ครับ นวัตกรรมชิ้นล่าสุดของอาจารย์เกิดขึ้นได้อย่างไรครับ คิดค้นนานแค่ไหน มีชื่อว่าอะไรครับ
ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ : ยังไม่ได้ตั้งชื่อเป็นทางการเลยค่ะ แต่เรียกเบื้องต้นว่าสเปรย์ลำไย งานวิจัยชิ้นนี้เกิดขึ้นมาได้ประมาณ 2 ปีแล้วค่ะโดยเกิดมาจากการกลับไปค้นคว้าตำราแพทย์แผนไทยถึงฤทธิ์ทางยาของลำไยไทย เนื่องจากจำได้ว่าลำไยของเรามีฤทธิ์ทางยาโดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับการป้องกันไวรัส ต้านการอักเสบ เพิ่มภูมิคุ้มกัน เมื่อเจอความจริงข้อนี้จึงกลับไปค้นคว้าและทำวิจัยอย่างลึกซึ้งก็พบว่าสารสกัดเข้มข้นจากลำไยของเรามีผลที่น่าทึ่งมาก เพราะสามารถดักจับด้วยการเคลือบผนังโพรงจมูกและลำคอ โดยสร้างตัวห่อหุ้มเชื้อไวรัสโควิด-19 ในโพรงจมูกและลำคอของมนุษย์ได้ดีมาก เขามีกลไกป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าสู่ร่างการของมนุษย์โดยผ่านการหายใจ โดยทั่วไปเชื้อไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายของคนได้ง่ายด้วยการหายใจ เราจึงนำสเปรย์ตัวนี้ฉีดพ่นเพื่อเคลือบเยื่อบุผิวในโพรงจมูก เชื้อไวรัสจึงเกาะติดไม่ได้ เชื้อจึงหลุดออกมา นี่คือหลักการทำงานเบื้องต้นของสเปรย์ตัวนี้ แต่ขอย้ำว่าเชื้อไวรัสที่ถูกหุ้มห่อไม่ได้ตายนะคะ เพราะฉะนั้นเราต้องระมัดระวังการจับต้องสัมผัสเขาด้วย เพราะอาจจะนำเชื้อไวรัสกลับเข้าไปในร่างกายได้อีกย้ำว่าสเปรย์ตัวนี้ไม่ได้ฆ่าไวรัสนะคะ เพราะฉะนั้นเมื่อเราพ้นสเปรย์ในโพรงจมูกแล้ว เวลามีน้ำมูก หรือสารคัดหลั่งไหลออกมาก็ต้องระวังเชื้อไวรัสที่ไหลออกมาให้ดีด้วย ต้องนำไปทำลายให้ดี ดังนั้นเมื่อเราพ่นสเปรย์แล้วก็ยังต้องล้างมือให้สะอาด ต้องสวมหน้ากากอนามัย ต้องเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างน้อย 1 เมตร เหมือนเดิม ขอย้ำว่างานวิจัยตัวนี้มาจากสร้างตั้งต้นคือลำไย เหตุที่สนใจลำไยไทยเพราะมีผลทางยาที่ดีมาก และเป็นผลผลิตที่หาได้ง่ายมากในบ้านของเรา และที่สำคัญคือเวลาเห็นลำไยออกมามากๆ แล้วราคาตกต่ำมาก ก็คิดอยากจะช่วยเหลือชาวสวนลำไยจึงคิดว่าน่าจะนำลำไยไปผลิตเป็นผลผลิตอื่นๆ นอกจากรับประทานเป็นผลไม้เท่านั้น เราทำการทดลองสารสกัดเข้มข้นจากลำไยใน Lab ที่ประเทศออสเตรีย ซึ่งเขาเชี่ยวชาญด้านทดสอบเชื้อไวรัส แล้วพบว่าสารตัวนี้มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อHIV และเชื้อเริมได้ดีมาก เพราะตอนที่ทดสอบเบื้องต้นนั้นยังไม่มีการระบาดของโควิด-19แต่เมื่อพบว่าเขาจัดการกับเชื้อไวรัส HIV ได้ดีก็จึงนำมาทดลองกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็พบว่าได้ผลดีมาก ต้องบอกว่าแรกๆ ก็ตกใจมากที่เห็นว่าสารสกัดธรรมชาติของลำไยมีฤทธิ์ต้านไวรัสสูงมาก ทั้งๆ ที่ใช้ความเข้มข้มต่ำมาก แล้วพบอีกว่าถ้าใช้ความเข้มข้นสูงกลับให้ผลดีน้อยกว่าความเข้มข้นต่ำ
สารตั้งต้นสำหรับผลิตสเปรย์ตัวนี้นอกจากช่วยป้องกันไวรัสเข้าสู่ร่างกายผ่านระบบทางเดินหายใจแล้วยังสามารถช่วยให้ชาวสวนลำไยมีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วยนะครับ
ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ : ประเด็นช่วยเหลือชาวสวนลำไยนี่แหละสำคัญมากเลยค่ะ เพราะเราเห็นว่าลำไยไทยดกมาก มากเสียจนขายได้ราคาถูกมาก ขอย้ำว่าลำไยไทยมีคุณภาพทางยาดีวิเศษจริงๆ ค่ะ หาผลผลิตสำหรับทำสารสกัดเข้มข้นได้ง่ายด้วย เมื่อเรานำลำไยสดไปแปรรูปโดยใช้เทคโนโลยีที่ค่อนข้างซับซ้อนแล้วได้สารสกัดที่เราต้องการแล้ว ก็นำไปสู่การคิดค้นสูตรสำหรับผลิตสเปรย์ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดนี้เราทำได้เรียบร้อยแล้ว มีผู้ทำสูตร มีบริษัทผลิต ทีนี้ก็รอแค่ผู้ร่วมลงทุนผลิตให้ออกมาสู่ท้องตลาด เมื่อเรารู้ฤทธิ์ทางยาของลำไยแล้วเราก็ทำงานได้ง่ายมากขึ้น โดยการทดสอบในระดับต่างๆ อย่างครอบคลุม เช่น ทดลองระดับหลอดทดลอง ไล่เรื่อยไปถึงระดับทดลองในเซลล์เพาะเลี้ยง และทดลองทดสอบในทางคลินิก ซึ่งในระดับคลินิกนี้ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบมากที่สุด เพราะทดลองกับคนจริงๆ ซึ่งคนที่อยู่ในกระบวนการทดลองทดสอบก็มีสภาวะแวดล้อมและตัวปัจจัยหลากหลายกันไป เช่น คนที่อยู่ในสภาวะเสี่ยงกับการสัมผัสเชื้อไวรัสโควิด-19มากๆ และคนสูงอายุ รวมถึงคนที่มีโรคประจำตัวบางชนิด ซึ่งต้องระมัดระวังการทดสอบสูงมากเพราะตัวทดลองมีความหลากหลาย ล่าสุดเราส่งผลการทดลองทดสอบให้คณะกรรมการจริยธรรมทางการแพทย์และเภสัชกรรมพิจารณาแล้วหลังจากนี้เราก็จะเข้าสู่ขั้นถ่ายทอดเทคโนโลยี พูดง่ายๆคือเข้าสู่กระบวนการผลิตเพื่อนำจำหน่ายต่อไป
อีกนานไหมครับ กว่าจะผลิตออกจำหน่ายในท้องตลาดได้
ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ : ก็ไม่น่าจะนานมากนักนะคะ คือเราทำการศึกษาทางคลินิกแล้ว เมื่อถึงกระบวนการถ่ายทอดเทคโนโลยี และตรวจสอบมาตรฐาน เมื่อผ่านทั้งหมดก็เข้าสู่กระบวนการผลิตได้ ส่วนในขั้นตอนการผลิตที่ปลอดเชื้อนั้น ก็ต้องให้บริษัทที่ชำนาญการในเรื่องปลอดเชื้อทำ เมื่อทำได้มาตรฐานทุกอย่างก็ต้องขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งก็ขึ้นว่าผลิตเป็นสเปรย์สำหรับพ่นคอหรือพ่นจมูก หากพ่นคอก็ไม่ยากเท่ากับพ่นจมูก เพราะเรากินลำไยกันอยู่แล้ว ดังนั้น การทำสเปรย์พ่นคอไม่ต้องใช้เวลานานนัก คิดว่า 3-4 เดือนก็จบสมบูรณ์แต่ถ้าทำสเปรย์พ่นจมูกก็ต้องมั่นใจว่าพ่นแล้วไม่เกิดการระคายเคืองใดๆ ซึ่งอาจใช้เวลานานกว่าทำสเปรย์พ่นคอสักระยะหนึ่ง
![]()
สเปรย์ตัวนี้ใช้กับคนได้ทุกเพศวัยไหมครับ
ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ : สเปรย์ตัวนี้ไม่มีสารเคมีใดๆ ไม่ใช่แอลกอฮอล์ เมื่อสเปรย์เป็นสารจากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ คือมีเพียงน้ำเกลือกับสารสกัดลำไยเท่านั้น จึงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ สารสกัดตัวนี้ไม่ได้ผลิตเพื่อฆ่าเชื้อไวรัส เพราะฉะนั้นจึงไม่ทำให้เชื้อดื้อยาหรือเชื้อกลายพันธุ์ แต่สารสกัดตัวนี้เป็นแค่เพียงตัวห่อหุ้มเชื้อไวรัส-19 เท่านั้น มันจึงออกฤทธิ์ทางกายภาพด้วยการห่อหุ้มเชื้อไวรัสไว้ ดังนั้นเชื้อจึงไม่ดื้อยา ส่วนที่ถามว่าใช้ได้กับใครบ้าง ก็ตอบว่าใช้ได้กับทุกคนทุกเพศทุกวัย ไม่ต้องกลัวปัญหาเรื่องตัวยาตีกันด้วย
หากมีผู้สนใจร่วมผลิต เช่น อาจเข้ามาร่วมลงทุนผลิต หรือร่วมในกระบวนการผลิตอื่นๆ จะติดต่อได้อย่างไรบ้างครับ
ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ : ตอนนี้ทางเรากำลังมองหาผู้ประกอบการที่สามารถรับถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อนำไปสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ เรามี know how ให้พร้อมแล้ว ผู้ที่เจรจากับเราเรียบร้อยแล้ว สามารถนำไปผลิตได้ตามมาตรฐาน แล้วนำไปขึ้นทะเบียนที่สำนักงานอาหารและยา และจำหน่ายได้ พูดง่ายๆ คือ เราเตรียมทุกอย่าง
ในเรื่องสูตร และการผลิตไว้เรียบร้อยแล้วเหลือเพียงเลือกสรรผู้ร่วมลงทุนเพื่อการผลิตเป็นสินค้าเท่านั้น และที่สำคัญคือผลิตภัณฑ์นี้ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์แฟชั่น เพราะสามารถใช้ได้เป็นระยะเวลายาวนานมาก เพราะสามารถใช้พ่นเพื่อห่อหุ้มเชื้อไวรัสต่างๆ ได้ เช่น ไวรัสเชื้อไข้หวัดต่างๆ ที่ติดต่อโดยการเข้าสู่ร่างกายทางโพรงจมูกระบบทางเดินหายใจ ช่องลำคอ ซึ่งสเปรยตัวนี้สามารถใช้ฉีดพ่นได้ทั้งลำคอและโพรงจมูกผู้ที่สนในร่วมลงทุนสามารถติดต่อพูดคุยได้ที่ภาควิชาเภสัชกรรมปฏิบัติ คณะเภสัชฯ จุฬาฯ ในวันเวลาราชการค่ะ หมายเลขโทรศัพท์ 02-2188403ขอเชิญชวนคนไทยที่สนใจร่วมผลิตสเปรย์ตัวนี้มาคุยกันได้ค่ะ ขอเรียนให้ทราบว่าสเปรย์ตัวนี้เป็นที่สนใจมากในกลุ่มยุโรป เพราะเขาใช้ยาพ่นจมูกเป็นประจำ และเป็นที่แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์นี้เป็นที่ต้องการของคนในวงกว้าง ดังนั้นผู้สนใจร่วมลงทุนน่าจะหาตลาดได้ไม่ยาก
![]()
เงินลงทุนต้องใช้ประมาณกี่สิบหรือกี่ร้อยล้านบาทครับ
ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ : ไม่น่าใช้เงินเกิน หลักร้อยล้านบาทนะคะ เพราะเราไม่จำเป็นต้องสร้างโรงงานใหม่ เรามีโรงงานที่พร้อมผลิตแล้ว เรามีสูตรแล้ว เราผู้ผู้สกัดสารจากลำไยได้แล้ว ทุกอย่างมีพร้อมแล้ว รอแค่ผู้ร่วมลงทุนที่เข้าใจงานวิจัยเท่านั้น ขอเรียนเตือนว่า ผู้ที่ดูรายการนี้แล้ว อย่าเข้าใจผิดคิดว่านำน้ำลำไยเข้มข้มไปผสมกับน้ำเกลือแล้วฉีดเข้าโพรงจมูกนะคะ ห้ามทำเป็นอันขาด เพราะจะเกิดการติดเชื้อได้แน่นอนเนื่องจากน้ำลำไยมีน้ำตาล ดังนั้นหากฉีดเข้าโพรงจมูกรับรองติดเชื้อแน่นอน ขอย้ำว่า เราต้องการผู้ร่วมงานที่เข้าใจงานวิจัยจริงๆ และสามารถทำการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ได้ หากสนใจสามารถเข้ามาคุยกันได้ ยังไม่ต้องตัดสินใจร่วมลงทุน เพราะการลงทุนผลิตมีหลายปัจจัย มีหลายขั้นตอน ขอเรียนว่าที่ภาควิชามีงานวิจัยอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมาก เรายินดีต้อนรับทุกท่านที่สนใจนำงานวิจัยคุณภาพไปสู่การผลิตเพื่อจำหน่ายในตลาด เราตั้งใจสร้างนวัตกรรมให้ประเทศไทย เพื่อให้มีผลผลิตที่ให้คุณประโยชน์กับมนุษย์ทุกคน
คุณจะได้พบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ รายการ ไลฟ์ วาไรตี ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ NBT กดหมายเลข 2 และชมรายการย้อนหลังได้ที่YouTube ไลฟ์ วาไรตี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี