นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ประสบการณ์แปลกใหม่จากประติมากรรมของ Jeff Koonsและ Richard Serra แล้ว ผลงานอีกชิ้นที่โดดเด่นที่จัดแสดงอยู่ด้านหลังของมิวเซียมก็คือ Mamanของ Louise Bourgeois ศิลปินชาวฝรั่งเศส เธอเกิดในวันคริสต์มาสปี 1911 ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศส เป็นบุตรสาวคนที่สองของครอบครัว พ่อแม่ของเธอเป็นเจ้าของร้านแกลเลอรี่ และขายถ้วยชามโบราณหลังเธอเกิดไม่กี่ปี พ่อแม่ของเธอก็ได้จัดให้ส่วนของชั้นใต้ดินเป็นที่ซ่อมแซมถ้วยชามโบราณ ในปี1930 เธอเข้าเรียนด้านคณิตศาสตร์และธรณีวิทยา
หลังจากมารดาของเธอเสียชีวิตในปี 1932 เธอเลิกเรียนคณิตศาสตร์และเข้าเรียนศิลปะ เมื่อ Fernand Leger นักประติมากรรมชื่อดังในสมัยนั้นเห็นผลงานของเธอจึงแนะนำให้เธอทำงานด้านประติมากรรมแทนที่จะเป็นจิตรกรรม เธอจึงตัดสินใจเดินทางไปที่ปารีสและเข้าศึกษาต่อที่ Ecole des Beaux Arts และฝึกงานที่ Louvre Museum เมื่อเธอได้เรียนเทคนิคการสร้างงานและได้มีประสบการณ์ช่วยจัดนิทรรศการ เธอก็หวนกลับบ้านและไปเปิดร้านการพิมพ์ข้างๆ ร้านเดิมของบิดาซึ่งทำให้เธอได้พบกับ Robert Goldwater ศาสตราจารย์ชาวอเมริกันและแต่งงานกันจนย้ายไปอยู่ที่สหรัฐฯ ในเวลาต่อมา หลังย้ายมาอยู่นิวยอร์กกับสามี เธอก็เข้าเรียนทั้งด้านจิตรกรรม ประติมากรรมและงานพิมพ์ที่Art Students League of New York หลังจบการศึกษา เธอพยายามค่อยๆ สร้างสรรค์ผลงานที่ถ่ายทอดอารมณ์ความยากลำบากในวัยเด็กโดยเริ่มจากงานไม้ เมื่อเธอมีความมั่นใจมากขึ้น เธอก็เริ่มจัดแสดงนิทรรศการเดี่ยว และเข้าร่วมกลุ่มกับศิลปินแนว Abstractชาวอเมริกัน นับจากนั้นเธอเริ่มหันเหออกจากงานไม้และใช้วัสดุอื่นๆ อาทิ หินอ่อน ทองแดง
งานของเธอส่วนใหญ่สะท้อนเรื่องความเจ็บปวดในวัยเด็กจากพ่อที่ทรยศ และแม่ที่มีความรักอย่างเปี่ยมล้น งานของเธอจึงเป็นการเผชิญหน้ากันของความขมขื่น
และความหวานชื่นอย่างหนักหน่วง ปลายทศวรรษที่ 1990 Bourgeois เริ่มใช้แมงมุมเป็นจุดศูนย์กลางของเธอด้วยแนวคิดที่ว่าแมงมุมเป็นสัตว์ที่คอยเก็บกินยุงซึ่งคอยทำร้ายและรังควานชีวิต แมงมุมเป็นตัวแทนของความเข้มแข็ง การปกป้อง และการฟูมฟักแบบเดียวกับแม่ของเธอ แม่เป็นคนฉลาด เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ เพราะแม่เป็นผู้คอยดูแลกิจการ และเลี้ยงดูเธอตั้งแต่ยังเล็ก เธอได้สร้างแมงมุมขนาดใหญ่ด้วยทองแดงออกมามากถึง 6 ตัว จนได้สมญานามว่าเป็นSpiderwoman หรือไอ้แมงมุมตัวเมีย
นักท่องเที่ยวที่ได้สัมผัส Maman ที่มีขนาดสูง 9 เมตร จัดแสดง ณ Guggenheim Museum จะเห็นว่า ตาข่ายใต้ท้องของแมงมุมมีไว้เพื่อปกป้องและจับเหยื่อแสดงถึงความเข้มแข็งและความอ่อนไหวส่วนขาที่ยาวแต่ลีบเล็กก็เป็นตัวแทนของช่องโหว่ที่รุนแรงซึ่งสะท้อนถึงแนวคิดเรื่องแม่ที่เป็นทั้งผู้ปกป้องและเหยื่อในเวลาเดียวกัน งานชิ้นนี้ดูอลังการสมกับเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบแดงที่เธอแสนจะภาคภูมิใจได้จริงๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี