สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงพระกรุณาพระราชทานลายผ้าบาติก ในโอกาสเปิดการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” กิจกรรมประกวดผ้าลายพระราชทาน ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวีฯ โครงการส่งเสริมภูมิปัญญาและพัฒนาศักยภาพผ้าไทย ระดับภาค พื้นที่ภาคกลาง โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดีกุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน เป็นประธานในการประกวดฯ ร่วมด้วยนายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรมนายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมหม่อนไหม ทีมคณะกรรมการ นำโดย นายศิริชัย ทหรานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย นายธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย นายกุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหารของนิตยสารโว้ก ประเทศไทย นางสาวรติรสภู่วิภาดาวรรธน์ และคณะ ณ โรงแรมแคนทารี โฮเทล อยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
การประกวดครั้งนี้ ถือเป็นปฐมฤกษ์ โดยเริ่มต้นจากภาคกลาง เพื่อคัดเลือก 75 ผ้าพื้นถิ่น จาก 4 ภูมิภาค เข้าตัดสินในระดับประเทศ โดย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จะเสด็จเป็นประธานการตัดสิน ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 และนับเป็นมิ่งมงคลยิ่งต่อการเริ่มต้นกิจกรรมการประกวดโดยพระองค์ได้พระราชทานแบบผ้าบาติกลายพระราชทาน 3 ลาย ด้วยทรงมีพระประสงค์ให้ประชาชนใช้เวลาว่างในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้านให้เป็นประโยชน์ มีรายได้เสริม และสร้างสรรค์งานศิลปะเพื่อจรรโลงจิตใจในยามวิกฤติ ได้แก่ ผ้าบาติกลายพระราชทาน “ปาเต๊ะร่วมใจเทิดไท้เจ้าหญิง” สื่อถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์วิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่งดงาม, ผ้าบาติกลายพระราชทาน “ท้องทะเลไทย” ด้วยแรงบันดาลพระทัยในการอนุรักษ์สัตว์ทะเลและสิ่งแวดล้อมของท้องทะเลไทย ทรงจุดประกายความคิดเพื่อให้ผู้คนเกิดจิตสำนึกในการหวงแหนและรักษาทรัพยากรทางทะเลไทยอันมีค่า และผ้าบาติกลายพระราชทาน “ป่าแดนใต้” สื่อถึงวิถีชีวิตและธรรมชาติของภาคใต้ที่มีเอกลักษณ์ ด้วยทรงพระดำริให้เป็นการจุดประกายความคิดในเรื่องของการอนุรักษ์ป่าฝนเขตร้อนที่มีระบบนิเวศอันอุดมสมบรูณ์
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมุ่งมั่นที่จะสืบสานพระราชปณิธานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านและภูมิปัญญาไทยเพื่อฟื้นฟูมรดกงานศิลป์ล้ำค่าของแผ่นดินไทยอย่างแท้จริง ด้วยพระอัจฉริยภาพทรงต่อยอดผสมผสานมุมมองด้านแฟชั่นที่ร่วมสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งการสืบสานอัตลักษณ์ เรื่องราวประจำภูมิภาค เป็นคุณูปการอย่างยิ่งแก่ปวงชนคนไทยไม่ว่าจะในชนบทและเมือง พระราชทานแบบลายผ้า ชื่อลาย “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” แก่พสกนิกรชาวไทยอันเป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัดถึงพระปรีชาสามารถในด้านการออกแบบ ทำให้พสกรนิกรชาวไทยกล้าที่จะออกจากกรอบความคิดที่มีต่อผ้าไทยแบบดั้งเดิม คุณูปการที่เกิดขึ้นจึงไม่เพียงแต่วงการทอผ้าเท่านั้น แต่ยังต่อยอดไปถึงการสร้างคุณค่าในงานหัตถกรรม หัตถศิลป์ประเภทอื่นๆ อีกด้วย
“ด้วยน้ำพระทัยอันเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาทำให้ช่างฝีมือ กลุ่มทอผ้าผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ยังคงสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนเลี้ยงดูครอบครัว แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้ฝ่าฟันไปได้อย่างมั่นคง จึงนำมาซึ่งความซาบซึ้งจนมีคำกล่าวถึงสิ่งที่พระองค์ได้พระราชทานว่า “เปรียบเสมือนน้ำทิพย์ที่หยาดลงในทะเลทราย” และด้วยพระวิริยอุตสาหะของพระองค์ที่เสด็จพระราชดำเนินไปยังหัวเมืองทั้ง 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ถึง 2 รอบ พระองค์ได้มีพระกรุณาแนะแนวทางการพัฒนาและยกระดับให้กลุ่มหัตถกรรมทั้งหลายได้เพิ่มความประณีต ใส่ฝีมือ ใส่ลูกเล่นลงไป ผลงานที่ปรากฏในวันนี้จำนวน 197 ผืน ในส่วนของภาคกลาง และ 3,215 ผืน จากทั่วประเทศ จึงเป็นดั่งดอกผลของความมหัศจรรย์ที่พระองค์ได้พระราชทานไว้”
ทั้งนี้ การประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ”ตามโครงการส่งเสริมภูมิปัญญาและพัฒนาศักยภาพผ้าไทยระดับภาค เป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความภาคภูมิใจที่ กรมการพัฒนาชุมชน สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ และทุกภาคีเครือข่าย ได้มีโอกาสน้อมนำแนวพระราชดำริในวิถีของการวิจัยและพัฒนา หรือ R&D ผ้าไทยให้ได้รับการยกระดับและคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มทอผ้าทั้งหลายได้พัฒนาฝีมือ ค้นหาเทคนิควิธีการในการผลิตผ้าไทยให้ดีขึ้น เหมาะสมแก่การตัดเย็บเสื้อผ้าสมัยใหม่ เหนือล้ำไปกว่าการมุ่งหวังผลแพ้ชนะคือการสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง องค์อุปถัมภ์แห่งศิลปาชีพไทย ที่ทรงริเริ่มนำหัตถกรรมพื้นถิ่น เสน่ห์ของงานฝีมือดั้งเดิม และวิถีชีวิตให้กลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้ชาวบ้านอย่างมั่นคง
ตลอดทั้งเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนกรกฎาคม 2564 กรมการพัฒนาชุมชน จะมีการดำเนินการประกวดโดยเริ่มจากระดับภาคไปสู่ระดับประเทศ ทั้งนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในพื้นที่ภาคกลางเป็นจุดแรก จากนั้นไปภาคใต้เป็นจุดที่ 2 ระหว่างวันที่ 13-14 มิถุนายน2564 จังหวัดนครศรีธรรมราช จุดที่ 3ภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 17-18 มิถุนายน 2564 จังหวัดเชียงใหม่ และสุดท้ายจุดที่ 4 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี ต่อด้วยการประกวดในรอบ Semi Final รอบตัดสิน 75 ผืนสุดท้าย ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ณ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร และประกาศผลรอบตัดสิน 75 ผืนสุดท้าย ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 สำหรับการประกวดในระดับประเทศ รอบตัดสินจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 กรกฎาคม 2564 ณ ทรูไอคอนฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี