แม้ตัวเองจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติโควิด-19 เชฟกิ๊ก-กมล ชอบดีงาม ทายาทรุ่นที่ 3 ของร้านอาหารจีนแต้จิ๋วระดับตำนาน “ร้านเลิศทิพย์” ที่มีประวัติยาวนานกว่า 60 ปี เจ้าของตำแหน่ง Iron Chef Thailand 2558 และ Top Chef Thailand ก็ยังเดินหน้าช่วยเหลือสังคมมาอย่างต่อเนื่องล่าสุด จับมือกับดีเจบุ๊คโกะ จัดทำอาหารกล่องชวนรับประทานจัดส่งให้กับทีมกู้ภัย รวมทั้งที่ศูนย์อพยพจากเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติกจากถังเคมีขนาด 2 ตัน ระเบิด ภายในบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ในพื้นที่ ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ด้วยความรู้สึกที่ว่า“พี่น้องกู้ภัยต้องได้กินของดี” ขณะที่ตลอดเดือนกรฎาคม นี้ กำลังอยู่ระหว่างการจัดส่งอาหารให้กับแคมป์คนงานก่อสร้างที่ถูก ศบค. สั่งปิด ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
เชฟกิ๊ก-กมล ได้รวมตัวกับเพื่อนเชฟจัดทำอาหารกล่องวันละ 1,000 กล่อง ส่งตรงให้กับคนงานที่ต้องถูกกักตัวในแคมป์ หลังจากที่ ศบค. สั่งปิดแคมป์ก่อสร้างและห้ามเคลื่อนย้ายคนงานในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และจะจัดส่งอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือน กระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไฟไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติกจากถังเคมีขนาด 2 ตัน ระเบิด เชฟกิ๊กจึงต้องเพิ่มจำนวนข้าวกล่องเป็นวันละ 1,400 กล่อง อย่างเร่งด่วน เพื่อจัดส่งไปให้ทีมกู้ภัยและผู้ประสบภัยในศูนย์อพยพได้ทานอาหารอร่อยฝีมือเชฟด้วย
“ก่อนจะเริ่มลงมือทำอาหารแจกได้นั้น จะต้องเตรียมตัวและวางแผนให้ดี เพราะแคมป์ที่ได้รับผลกระทบมีมากกว่าที่เห็น จึงจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบจำนวนมาก โดยตั้งเป้าทำข้าวกล่องให้ได้วันละ 1,000 ชุด ซึ่งออเดอร์ในแต่ละวันจะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ได้รับมา สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจร่วมสนับสนุนวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ หรือไข่ ผักต่างๆ เชฟและทีมงานยินดีรับและจะแจ้งเมนูในแต่ละวันให้ทราบ เพื่อไม่ให้วัตถุดิบที่ได้รับมาเสียเปล่า เมนูที่จัดทำก็มี อาทิ ข้าวกะเพราเนื้อแบบเกียวโต, ข้าวหมูมะนาวเฮอาและข้าวไก่เปรี้ยวหวานฮ่องกง เป็นต้น
เราเริ่มแจกอาหารและน้ำดื่มแล้วตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หากแคมป์ไหนขาดแคลนหรือประชาชนคนใดที่ได้รับความเดือดร้อนก็สามารถทักมาบอกความต้องการได้หากพื้นที่ใดไม่มีอาหารเพียงพอ สามารถแจ้งเราได้ เราจะพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกคนได้อิ่ม เพราะตอนนี้เราลำบากกันทุกคนไม่ใช่เพียงแค่ร้านอาหารเท่านั้น แต่ทุกสาขาอาชีพได้รับผลกระทบกันหมด แทนที่เราจะนั่งเฉยๆ ผมก็คิดว่าตอนนี้เราพอมีกำลังก็เลยอยากช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนกว่า จึงเกิดโปรเจกท์นี้ขึ้น
สำหรับแคมป์คนงานและชุมชนที่ยังขาดความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นอาหารกล่อง น้ำดื่มยารักษาโรค ข้าวสาร อาหารแห้ง สิ่งของที่จำเป็น รวมถึงผู้ที่พร้อมจะบริจาควัตถุดิบในการทำอาหาร สามารถส่ง Direct Message หาเชฟได้ที่อินสตราแกรม chef_gigg_kamol และที่ bookko นะครับ
ส่วนการทำอาหารกล่องจัดส่งให้กับทีมกู้ภัยและผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติกนั้น เราทุกคนก็เห็นแล้วว่า พี่ๆ น้องๆ ทีมกู้ภัยทำงานหนักกันขนาดไหนผมจึงอยากให้ทุกคนได้กินของดี เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆ จากพวกเราที่สามารถจะทำได้ ซึ่ง ดีเจบุ๊คโกะมาช่วยผมในโครงการนี้”
กับมุมมองต่อสถานการณ์ของธุรกิจร้านอาหาร ท่ามกลางวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ เชฟกิ๊กมองว่า แม้อนาคตวิถีชีวิตด้านการรับประทานอาหารจะเปลี่ยนไป โดยผู้คนจะระวังเรื่องสุขอนามัยมากขึ้น ส่งผลให้กิจการสั่งและส่งอาหารถึงพักอาศัยหรือที่ทำงาน (Delivery) เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายแล้วผู้คนก็ยังต้องการสังคม ดังนั้น การรับประทานอาหารที่ร้านก็จะยังมีอยู่ต่อไป เพราะเป็นการพบหน้าครอบครัว เพื่อนฝูงอีกทั้ง การได้คุยเรื่องอาหารกับเชฟหรือผู้ที่ทำอาหารนั้นขึ้นมา จะยิ่งทำให้มีอรรถรสในการรับประทานอาหารมากขึ้น
“เชฟอยากฝากถึงผู้ประกอบการร้านอาหารและทุกๆ คนว่า ไม่อยากให้มองทุกปัญหาที่เจอเป็นทางตัน แต่อยากให้มองว่าปัญหาคือสิ่งทดสอบที่เข้ามาเพื่อให้เราปรับตัว ในความโชคร้ายของปัญหานี้ได้ปลุกพลังในตัวของทุกคนได้ดึงความสามารถในตัวออกมาให้เราต้องฝึกฝนฝีมือ ทั้งที่เมื่อก่อนเราคิดว่าเราทำได้อย่างเดียว แต่พอมีปัญหาขึ้นเรากลับมีทักษะ มีความสามารถอื่นเข้ามาร่วมด้วย นี่แหละคือความโชคดีในปัญหาที่เจอ” เชฟกิ๊ก กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี