ในยามที่ตำรวจบุกเข้ามาทำลายบ้านหลังนี้ทุกคนหนีกระเจิงหมด ยกเว้นคุณชายคึกฤทธิ์กับหมาชื่อเสือไบที่เผชิญหน้ากับบุกรุก เสือไบหมอบเตรียมพร้อมอยู่แทบเท้าคุณชายคึกฤทธิ์ คล้ายบอกว่า “แน่จริงมึงเข้ามา”
ไลฟ์ วาไรตีสัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย ขอนำคุณย้อนกลับที่บ้านซอยสวนพลู ของศาสตราจารย์ พลตรี หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 13 ของไทย เพื่อนำคุณไประลึกถึงความรักต่อสุนัขของ หม่อมหลวง รองฤทธิ์ ปราโมช (บุตรคุณชายคึกฤทธิ์) ผู้เพิ่งจากโลกนี้ไปเมื่อปลายเดือนมิถุนายน และร่วมสนทนากับ หม่อมหลวงวิสุมิตรา ปราโมช (บุตรีคุณชายคึกฤทธิ์) ผู้เชิญชวนให้เราไปสัมผัสบ้านซอยสวนพลู (หมายเหตุบทสัมภาษณ์เกิดขึ้นเมื่อสามปีเศษมาแล้ว)
กราบขอความกรุณาท่านทั้งสองช่วยเล่าความสำคัญของบ้านซอยสวนพลู หรือบ้านเรือนไทยของอาจารย์คึกฤทธิ์ ให้รับทราบด้วยครับ และขอทราบว่ายังเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้หรือไม่ครับ
ม.ล.วิสุมิตรา : เฉพาะสถานที่แห่งนี้น่าจะมีอายุเกินร้อยปีแล้วค่ะ ส่วนบ้านเรือนไทยหลังนี้พวกเราเรียกว่ากระต๊อบ (หัวเราะ) เป็นบ้านหลังเล็กๆของอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยคนที่ 13 แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ที่ท่านรัก เป็นบ้านที่อยู่แบบสมถะ ท่านไม่ได้สะสมสมบัติมากมาย ไม่มี painting collection อยู่แบบง่ายๆ ไม่ฟู่ฟ่า ท่านไม่สะสม แต่ท่านชอบแจก ใครขออะไร ท่านก็ให้ ท่านซื้อเรือนเก่าหลังนี้หลังจากเจ้าของเดิมเขารื้อลง แล้วนำมาปรุงใหม่ให้เหมือนเดิมมากที่สุด บ้านหลังนี้คือที่อยู่และที่ทำงานของท่าน เป็นสถานที่หารือเพื่อแก้ปัญหาการบ้านการเมืองมาหลายครั้ง แล้วก็เคยถูกบุกทำลายมาในยุคหนึ่ง ปัจจุบันเราเปิดให้คนทั่วไปเข้าชม และอนุญาตให้เช่าใช้พื้นที่เพื่อจัดงานมงคล เคยมีหลายคู่มาจัดงานหมั้น งานแต่งที่นี่ งานสังสรรค์รื่นเริง คนจากซีกโลกตะวันตกที่เคยมาต่างชอบบ้านหลังนี้มาก เพราะมีประวัติศาสตร์ และมีบรรยากาศเป็นธรรมชาติแท้ๆ ทั้งที่ตั้งตั้งอยู่กลางกรุงเทพฯ เราเปิดให้เข้าชมทุกวัน เก็บค่าเข้าชมเพียง 20 บาทเท่านั้น เก็บราคาเดียวทั้งคนไทยและต่างชาติ เปิดตั้งแต่ 9 ถึง 16 นาฬิกา
ม.ล.รองฤทธิ์ : อยากจะเรียนให้ทราบว่าค่าเข้าชมบ้านที่จ่ายมา 20 บาท ถูกใช้เป็นค่าอาหารสุนัขและปลาที่น่ารักในบ้านนี้ เจ้าของบ้านไม่ได้นำไปเข้าพกเข้าห่อตัวเองเลย แต่ก็มีบางท่านชอบใจบ้านหลังนี้ ก็มาขอใช้สถานที่จัดงานต่างๆ ซึ่งก็ทำให้พอมีรายได้มาใช้เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมดูแลบ้านหลังนี้ได้บ้าง แต่เราก็ไม่ได้คิดค่าเช่าที่แพงเหมือนกับคนอื่นเขาคิดกัน
หลายคนอาจอยากจะมาขอใช้สถานที่นี้จัดงาน แต่เขาเกรงว่าเขาเป็นคนธรรมดาไม่มีชื่อเสียงโด่งดัง เกรงจะไม่ได้รับการต้อนรับ
ม.ล.รองฤทธิ์ : มาได้เลยครับ ไม่ต้องมี ชื่อเสียงอะไร ขอให้เป็นคนดีสุจริตน่ารักเท่านั้น ไม่ต้องกลัวอะไรครับ เราต้อนรับเท่าเทียมกันทุกคน ที่นี่เป็นประชาธิปไตยมากครับ ไม่ถือชั้นวรรณะใดๆ นอกจากบ้านเรือนไทยแล้ว ข้างหลังบ้านยังมีสวนต้นไม้ขนาดกะทัดรัด มีบึงน้ำเล็กๆ น่ารักด้วย
ผู้เข้าชมสามารถขึ้นไปชั้นบนของเรือนไทยได้ใช่ไหมครับ
ม.ล.วิสุมิตรา : ได้ค่ะ เราอนุญาต เที่ยวชมได้ตามสบาย หลายคนชอบต้นไม้ ดอกไม้ที่คุณชายท่านนำมาปลูกไว้ เราก็พยายามเก็บรักษาบำรุงดูแลให้ดีที่สุด ที่มหัศจรรย์คือบัวสามสี ที่ชื่อฉลองขวัญ หรือ King of Siam มีสีสันสวยงามมาก เราตั้งชื่อเพื่อเทิดพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และเราพยายามทำบ้านหลังนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่านด้วย แต่ในบ่อปลูกบัวนี้ มีปลาแรดเผือกชอบมาแทะเล็มใบบัวอ่อนเป็นประจำ คงจะอร่อยก็ได้ (หัวเราะ) ที่เห็นแหว่งๆ ก็ฝีปากเขาทั้งนั้น ส่วนคางคกก็ชอบสระนี้ เพราะมีขอบคอนกรีต เขาชอบใช้เป็นที่ส่งเสียงร้องเพลงคอนเสิร์ตให้เราฟัง เขาชอบบ่อนี้เพราะกระโดดขึ้นลงได้สะดวก (หัวเราะ)
เรียนถาม ม.ล.รองฤทธิ์ถึงเรื่องสุนัขกับบ้านสวนพลูครับ เพราะหลายคนที่ทราบเรื่องนี้ดี ก็จะคิดถึงเรื่องสั้นของอาจารย์คึกฤทธิ์ ชื่อมอม อ่านแล้วน้ำตาไหลทุกครั้ง เรียนถามว่าอาจารย์ท่านมีสุนัขตัวโปรดชื่ออะไรครับ
ม.ล.รองฤทธิ์ : ตัวโปรดของท่านจริงๆ คือเสือไบ เป็นสุนัขไทยพันธุ์ทาง แสนรู้มาก จงรักภักดีสุดๆ ตอนตำรวจบุกเข้ามาทำลายบ้านหลังนี้คนอื่นๆ และหมาตัวอื่นๆ หนีกระเจิง ยกเว้นคุณชายกับเสือไบที่เผชิญหน้ากับตำรวจ เสือไบหมอบเตรียมพร้อมอยู่หน้าท่าน จ่องเขม็งไปยังผู้บุกรุก คล้ายบอกว่า มึงแน่จริง มึงเข้ามา นี่สิคือเพื่อนแท้ของคนในยามยาก ที่ฝรั่งเรียก man best friendsเสือไบไม่ทิ้งคุณชายในยามเดือดร้อน ท่ามกลางเสียงตะโกนเอะอะ เผาแม่งเลย เผาแม่งเลย
เรียนถามว่าท่านอาจารย์คึกฤทธิ์เคยเล่าให้ฟังไหมครับว่าทำไมรักสุนัข
ม.ล.รองฤทธิ์ : ไม่เคยเล่านะ แต่ตั้งแต่ผมจำความได้ บ้านหลังนี้ไม่เคยขาดหมาเลย มีหมามาตลอด แต่ละตัวก็มีบุคลิกต่างๆ กันไป แต่น่ารักดีทุกตัว บ้านนี้มีทั้งหมาพันธุ์ไทยแท้ พันธุ์ผสม และหมาฝรั่งก็มี เรียกว่ามีเยอะเลยแหละ
นอกจากเสือไบแล้วมีอีกตัวหนึ่งที่คนพูดถึงเยอะคือสามสี กรุณาช่วยเล่าเรื่องสามสีให้ฟังด้วยครับ
ม.ล.รองฤทธิ์ : สามสีเป็นหมาตลก เขาเป็นสุนัขพันธุ์น่าจะบาสเซ็ตฮาวด์ ชอบทำท่าทางตลก เหมือนตัวตลกของบ้าน ชอบนอนหงายท้อง กลิ้งไป
กลิ้งมา น่าเอ็นดู
ทราบว่าตัวของ ม.ล.รองฤทธิ์ก็ชอบเลี้ยงสุนัขเช่นกัน แล้วทราบว่ามีวันหนึ่งที่ไปรับประทานอาหารอยู่แถวๆ ริมถนนที่ศรีราชา แล้วก็มีใครไม่ทราบโยนลูกสุนัขตัวโตพอประมาณออกมานอกรถ แล้วสุนัขก็ตกไปอยู่ในอ้อมแขนของท่าน ขอความกรุณาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังด้วยครับ
ม.ล.รองฤทธิ์ : ใช่ ใครก็ไม่รู้โยนลูกหมาตัวโตพอสมควรออกมาแล้วมันก็ลอยมายังเราพอดี ด้วยนิสัยของเราที่เป็นคนไว เห็นอะไรลอยมาก็คว้าหมับทันที มันก็มาอยู่ตรงพุงเรา ปรากฏเป็นลูกหมาตัวโตนิดหน่อย เราก็กอดมันไว้ มันก็ใจเต้นตุบๆดีที่ไม่กัดเรา แต่เขาน่าจะรู้ว่าเราไม่เป็นอันตรายกับเขา ถ้าไม่มาที่เรา รับรองมีหวังหัวกระแทกพื้นคอหักแน่ๆ เราก็จึงเอาเขามาเลี้ยงไว้ ตั้งชื่อว่าโนริ
มีอีกรายหนึ่งชื่อน้าทุย รายนี้มีที่มาน่าสนใจมาก กรุณาช่วยเล่าให้ฟังด้วยครับ
ม.ล.รองฤทธิ์ : น้าทุยเป็นเพศผู้ มีที่มาคือวันหนึ่งเราพาหมาไปโรงพยาบาลสัตว์ของจุฬาฯ แล้วก็มีคุณหมอถามว่า หม่อมหลวงรองฤทธิ์ค่ะ ต้องการรับหมาไปอุปการะอีกสักตัวไหมคะ เราได้ฟังแล้วก็ตอบไปด้วยความเร็วว่า ได้ครับ ทั้งๆ ที่ตอนแรกก็งงๆ ว่าจะเอาไปทำอะไร แต่ปากก็รับไปทันทีที่มีผู้ร้องขอ จึงตอบว่า เอามาเถอะครับ สุดท้ายน้าทุยก็มาอยู่กับเรา แล้วเราก็ไม่เคยเสียใจที่นำเขามา เพราะเขาคงต้องมาพึ่งใบบุญเราตอนที่เราพาเขามาบ้านครั้งแรกก็นั่งกอดมาตลอดทาง พอมาถึงบ้านเขาก็มองแบบอ้อนวอนว่าขอเข้าไปอยู่ด้วย เราก็บอกเขาว่าน้าทุยเอ๋ยอยู่ตรงนี้นะตรงนี้เป็นที่ของน้าทุยมีห้องมีหับให้นอนสบาย มีผ้าปูรองนอน เขาก็ว่าง่าย เรานั่งอยู่กับเขาสักพัก พอเขาหลับเราก็เดินออกไป ตั้งแต่วันนั้นเขาก็อยู่ที่ตรงนั้นตลอด ไม่สร้างเรื่องราวอะไรให้เราเลยนี่แหละความฉลาดแสนรู้ของหมาไทย พูดรู้เรื่อง ไม่ดื้อ แถมจงรักภักดีมาก เขาอยู่ง่าย กินนอนง่าย เชื่อฟังเจ้าของ
มีสุนัขหลายตัว เขาแย่งกันเป็นเจ้าของ หม่อมหลวงรองฤทธิ์ไหมครับ อิจฉาแย่งความรักจากเจ้าของกันไหมครับ
ม.ล.รองฤทธิ์ : สุนัขเขาจัดระบบ seniority เขารู้ว่าใครมาก่อนมาหลัง ตัวมาก่อนจะอยู่ใกล้เรามากกว่าตัวมาหลัง เขาไม่มีเรื่องมีราวกัน ถ้าเป็นหมาในบ้านเขาจะรู้กันเอง แต่ถ้ามีหมาจากนอกบ้าน เช่นจากบ้านของพ่อบ้านเข้ามา เขาจะหวงที่มากจะไม่ยอมให้เข้ามา เวลาเห็นหมาจากที่อื่นเข้ามาจะทำขนคอตั้งชันทันที เหมือนบอกว่า นี่ถิ่นของกู อย่าแหยมเข้ามานะเว้ย
ย้อนไปถามตอนที่เสือไบของอาจารย์คึกฤทธิ์จะตายนั้น หม่อมหลวงรองฤทธิ์เห็นอาการเขาไหมครับ เป็นอย่างไรบ้าง
ม.ล.รองฤทธิ์ : เสือไบป่วยมานานก่อนจะตาย ทุกครั้งเมื่อคุณชายเข้าไปหาเขา เขาจะพยายามตะเกียกตะกายทรงตัวขึ้นมา ทั้งๆ ที่เจ็บมาก แต่ก็ดีใจที่เห็นท่าน ท่านก็เข้าไปลูบตัวลูบหัวเขา นั่งอยู่กับเขา เขาก็สงบลง เพราะรู้ว่าเจ้านายมาอยู่ด้วยแล้ว ช่วงนั้นท่านเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้อยู่กับเสือไบตลอดเวลา แต่เมื่อท่านกลับมาถึงบ้าน ท่านก็ต้องไปดูแลเขาใกล้ชิด ตอนที่เสือไบตาย เราก็คิดว่าหมดเวรหมดกรรม เพราะไม่ต้องทรมาน
เรียนถามอีกเรื่องคือ คนไทยจำนวนมากเข้าใจว่าสุนัขจรเป็นหมาดุร้าย ชอบกัดคนทั้งๆ ที่ไม่เป็นเช่นนั้นเลย ขอความกรุณาม.ล.รองฤทธิ์ช่วยปรับทัศนคติให้คนที่เข้าใจเรื่องนี้ผิดๆ ให้ปรับความเข้าใจด้วยครับ
ม.ล.รองฤทธิ์ : ปกติหมาจรเขาจะไม่กัดใคร แต่เขาจะขี้กลัวด้วยซ้ำไป เขาเจียมตัวมากผิดกับหมามีเจ้าของ สมัยที่ผมสอนอยู่วิทยาลัยช่างศิลป์ ก็มีหมาเข้าไปลี้ภัยอยู่หลายตัว พวกคุณครูที่เคร่งวัฒนธรรมก็มักจะบอกว่า นี่เธออย่าไปยุ่งกับมันมันสกปรก เดี๋ยวมันบ้า มันกัดเอาจะเดือดร้อน ก็เลยตอบไปว่า พวกเธอสังเกตไม่รู้หรือว่าหมาดีหรือบ้า ถ้าแยกไม่ออกก็สมควรถูกมันกัด หมานี่นะมันพูดไม่ได้ก็จริง แต่มันรู้ประสา มันส่งสายตาบอกเราได้ดูออกมามันเป็นมิตรหรือศัตรู ยิ่งถ้าเป็นหมาที่เราคุ้นเคย เคยให้ของมันกิน มันจะดีใจเมื่อพบเรา มันจะวิ่งมาหามาคอย ตามันจะเป็นประกายด้วยความยินดีที่พบคนที่คุ้นเคย เมื่อเราเข้าไปลูบหัวมัน มันก็จะดีใจ ทำตาเป็นประกาย ทำซึ้ง เพราะฉะนั้นฉันจะบอกว่า โอกาสที่หมาจะกัดฉัน มันน้อยกว่าฉันจะกัดเธอเสียอีก บอกอะไรให้ไหม ตอนนี้ฉันกำลังอยากจะกัดเธอนั่นแหละ (หัวเราะ) พูดจริงๆ นะ หมาไทยของเรา รวมถึงหมาอื่นๆ ด้วย เขามีความน่ารักถ้าเราให้ความรักเขา เขาก็จะจงรักภักดีต่อเราตลอดไป ไม่มีวันลืมเราได้เลย
คุณจะได้พบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ รายการ ไลฟ์ วาไรตี ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ NBT กด
หมายเลข 2 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTubeไลฟ์ วาไรตี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี