ศูนย์นโยบายและการจัดการสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ร่วมกับ องค์การอนามัยโลก (WHO) และสำนักงานนโยบายพัฒนาสุขภาพระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข (IHPP)ได้ร่วมเสวนาออนไลน์เรื่อง “เสนอมาตรการลดเค็มลดโรค ลดตาย ในภาวะวิกฤติโควิด-19” เสนอให้รัฐจัดให้มีฉลากคำเตือนหน้าซองบรรจุภัณฑ์อาหารเพื่อมุ่งให้ผู้บริโภคได้มีข้อมูลในการตัดสินใจเลือกบริโภคอาหารที่ไม่เค็ม มีปริมาณโซเดียมต่ำ
Dr. RenuGarg ผู้แทนองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำประเทศไทย กล่าวว่าการบริโภคโซเดียมสูงส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้ความดันโลหิตสูงและเกิดภาวะหัวใจวาย นอกจากยังทำให้เกิดโรคไตและมะเร็งกระเพาะอาหารได้ ปัจจุบันคนไทยบริโภคโซเดียมมากเป็น 2 เท่าเกินกว่าที่ WHO แนะนำ ซึ่งไม่ควรเกินวันละ 5 กรัมโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและวัยหนุ่มสาว พบว่ามีพฤติกรรมบริโภคอาหารรสเค็ม จากข้อมูลอุบัติการณ์เกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกในกลุ่มคนอายุน้อย และ 3 ใน 4 ของประชากรเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง การลดบริโภคโซเดียมจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ของประเทศมาตรการควบคุมการบริโภคโซเดียม อาทิ การห้ามโฆษณา การมีฉลากอาหารที่ชัดเจน การเก็บภาษีอาหารสำเร็จรูป การให้ความรู้แก่ประชาชน โดยจะต้องใช้หลายมาตรการควบคู่กันข้อมูลจากทั่วโลกพบว่าในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ประชาชนมีการบริโภคอาหารฟาสต์ฟู้ดขนม รวมไปถึงอาหารแปรรูปกันมากขึ้น ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงกับการมีโรคไม่ติดต่อ เช่น ความดันโลหิตสูง เป็นโรคประจำตัว ดังนั้นทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และการควบคุมโรคไม่ติดต่อจึงเป็นปัญหาที่ควรหาทางแก้ไขในขณะนี้
ศศิภาตา ผาตีบ นักวิชาการจากสมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าวว่าโรคไตเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย ที่มีสาเหตุมาจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่นความดันโลหิตสูงส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการบริโภคเค็มมากเกินไป จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้ป่วยโรคไตเลือกบริโภคอาหารได้ยากขึ้นจึงต้องบริโภคอาหารแปรรูปอาหารแช่แข็ง อาหารพร้อมทานซึ่งมีปริมาณโซเดียมค่อนข้างสูงและในช่วงวิกฤติโควิด-19 สถานที่ล้างไตหลายแห่งปิดตัวทำให้สำหรับผู้ป่วยมีอาการหนักขึ้นทางสมาคมฯ ได้พยายามเผยแพร่ความรู้เรื่องผ่านเพจของสมาคมฯ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการบริโภคอาหารเค็ม โซเดียมสูง เพราะผู้ป่วยไปฟอกเลือดที่หน่วยบริการได้ลำบากในช่วงนี้
ดร.นพ.ทักษพล ธรรมรังสี ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเด็นนี้น่ากังวลในกลุ่มคนอายุน้อยและกลุ่มชุมชนเมือง มาตรการควบคุมการบริโภคโซเดียมจะต้องพิจารณาความคุ้มค่าและมีประสิทธิผลสูงซึ่งมี 4 มาตรการคือ 1.สนับสนุนให้อุตสาหกรรมอาหารที่มีโซเดียมสูงปรับสูตรอาหาร 2.การควบคุมปริมาณโซเดียมในสถานประกอบการที่ให้บริการอาหาร เช่นโรงเรียน 3.รณรงค์สาธารณะอย่างมีเป้าหมาย และ 4.การติดฉลากอาหารหน้าบรรจุภัณฑ์ประเทศไทยมีการออกฉลากหน้าบรรจุภัณฑ์ ได้แก่ Healthier Choice และฉลาก monochrome GDA แต่ยังไม่ชัดเจนต่อผู้บริโภคจึงเสนอใช้มีการพัฒนารูปแบบฉลากอาหารเพิ่มเติม เช่น ฉลาก GDA ไฟจราจร และ ฉลากคำเตือน ที่มีหลักฐานวิชาการโดยทำคู่กับกลุ่มมาตรการทั้ง 3 อย่างข้างต้นจึงจะเกิดประสิทธิผลในการลดบริโภคเค็ม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี