เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า สเปนเป็นชาติที่มีกีฬาชนิดหนึ่งที่เป็นที่ชื่นชอบและมีชื่อเสียงของประเทศนั่นคือ การสู้วัวกระทิง นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาเยือน Valencia สถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่น่าสนใจและต้องเยือนให้ได้ก็คือ Bull Fighting Museum หรือมิวเซียมการต่อสู้วัวกระทิงนั่นเอง
การสู้วัวกระทิงเกิดขึ้นครั้งแรกในคริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยจัดเป็นเทศกาลใหญ่มีกฎระเบียบมากมายในการต่อสู้ การสู้วัวกระทิงจึงเป็นศิลปวัฒนธรรมชั้นสูงของสเปน มาทาดอร์ หรือนักสู้วัวกระทิง ซึ่งเป็นพระเอกของการต่อสู้จึงเป็นเสมือนหนึ่งอัศวินของสนามแข่ง พวกเขาจะเป็นฮีโร่ของสนามในแต่ละวันหรือเป็นเหยื่อก็ขึ้นกับฝีมือร่วมกับดวงในวันนั้นๆ ด้วย ในยุคแรกของการสู้วัวกระทิง มาทาดอร์จะนั่งบนหลังม้าก่อนที่จะกลายเป็นนักสู้บนภาคพื้นดิน ส่วนผู้ชมก็จัดเป็นองค์กรเพื่อการกุศลทางด้านศาสนาหรือโรงพยาบาล ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 19 การสู้วัวกระทิงถูกกำหนดแบบแผนมากขึ้นและมีกฎเกณฑ์ตายตัวจนกลายเป็นมืออาชีพ
วัวที่ถูกนำมาต่อสู้จะถูกเลี้ยงดูให้แข็งแรงอย่างดีในฟาร์มที่อยู่ภายในบริเวณใกล้เคียงกับสนามแข่ง สายพันธุ์วัวที่ถูกคัดเลือกอย่างดีที่สุดมาจากการผสมจากหลากหลายพื้นที่ทั่วทั้งสเปนโดยบางสายพันธุ์สามารถติดตามย้อนหลังไปนานถึง 3 ศตวรรษ วัวที่ถูกคัดเลือกจะได้รับการเลี้ยงด้วยนมแม่ถึงอายุ 8-10 เดือนหลังหย่านมจะได้รับการเลี้ยงในฟาร์มตามทุ่งหญ้าและถูกทำตำหนิด้วยเหล็กเพื่อบ่งบอกตัวตนด้วย 3 คุณลักษณะคือ สายพันธุ์ ลำดับการเกิด และปีเกิด นอกจากการทำตำหนิด้วยเหล็กที่น่องแล้ว ยังมีการทำตำหนิที่หูอีกด้วย หลังอายุ 2 ปี วัวจะถูกคัดเลือกว่าเหมาะกับการเป็นวัวต่อสู้หรือไม่ด้วยการทดสอบความกล้าหาญของมัน ตัวที่เหมาะสมจะได้รับการเลี้ยงดูเพื่อต่อสู้โดยอายุที่จะเข้าต่อสู้ได้ คือวัวอายุ 4-5 ปีเท่านั้น ส่วนตัวที่ไม่เหมาะสมจะถูกขายเข้าตลาด
มาทาดอร์ ซึ่งเป็นพระเอกของการแสดงนั้นต้องเป็นหัวหน้าทีม เขาจะมีผู้ช่วยอีก 3 คนเพื่อทำให้การแสดงสง่างามแม้เขาจะเป็นผู้เผชิญหน้ากับวัวแต่ผู้เดียวก็ตาม ไม่เพียงเขาต้องเผชิญความตายอย่างโดดเดี่ยว เขายังต้องแสดงความกล้าหาญความเฉลียวฉลาด และท่วงท่าที่สง่างามในการต่อสู้ นักสู้วัวกระทิงในอดีตจะฝึกฝนจากรุ่นพี่ และเป็นผู้ช่วย แต่ปัจจุบันพวกเขาสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนเพื่อฝึกฝนอย่างจริงจังแล้ว พวกเขาจะได้รับการฝึกฝนโดยให้สามารถต่อสู้และฆ่าวัวอายุน้อยๆ โดยเริ่มจาก 2-3 ปีก่อนเมื่อเรียนชั้นสูงขึ้นก่อนจบการศึกษา
มิวเซียม Bullfighting Valencia ที่ก่อตั้งขึ้น ณ ตำแหน่งชานเมืองเมื่อเวลาก่อตั้งนั้นเป็นประตูที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกำแพงเมือง ในช่วงที่ก่อสร้างใหม่ๆ นั้น สนามสู้วัวกระทิงซึ่งทำจากกระเบื้องและไม้ที่จุได้ 20,000 คนนี้มีขนาดวงนอก 108 เมตร และวงใน 52 เมตรแต่ในปี 1967 เทศบาลเมืองได้ทำการปรับปรุงโดยเปลี่ยนส่วนที่ทำจากไม้ให้เป็นปูนและลดจำนวนแถวของผู้ชมลง 3 แถวร่วมกับปรับปรุงทางเข้าใหม่ให้ดูหรูหรามากขึ้น ในปี 2010 เทศบาลเมืองได้ปรับปรุงสนามใหม่อีกโดยขยายส่วนที่นั่งให้กว้างขึ้นทำให้จำนวนที่นั่งลดลงไปมากถึง 2,500 ที่นั่ง จนเหลือเพียง 10,500 ที่นั่งเท่านั้น
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะไม่เพียงได้ชมสนามแข่งจริงเท่านั้น ยังจะได้ชมมิวเซียมที่เล่าเรื่องราวประวัติเกี่ยวกับการสู้วัวกระทิง และได้ดูภาพถ่ายและประวัติของมาทาดอร์สุดหล่อฝีมือฉกาจหลายคน รวมทั้งชุดแต่งที่สง่างามสมกับเป็นศิลปะประจำชาติสเปนที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์อย่างแท้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี