วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เราจำเป็นต้องอยู่กับโควิด-19 ให้ได้ เราทุกคนต้องช่วยกัน ผมและรัฐบาลยินดีรับฟังข้อเสนอแนะ และคำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์ เพื่อให้เราก้าวข้ามวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
ไลฟ์ วาไรตี สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย นำคุณไปสนทนากับ ดร.สาธิต ปิตุเตชะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขถึงประเด็นการต่อสู้กับวิกฤติโควิด-19 ในยามวัคซีนขาดแคลน
เรียนถามท่านรัฐมนตรี ปัจจุบันมีผู้ร้องเรียนจำนวนมากว่าไม่สามารถหาที่รักษาโรคโควิด-19 ได้ ท่านจะชี้แจงอย่างไรครับ
ดร.สาธิต : ผมเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชนดี และขอเรียนว่าสถานการณ์ช่วงนี้วิกฤติมาก มีผู้รอตรวจหาเชื้อ และผู้ป่วยรอเตียงจำนวนมาก ทุกวันนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นหลักหมื่น จนเกือบสองหมื่นในบางวัน ส่วนผู้ที่หายป่วยก็มีจำนวนเกือบพอๆ กับผู้ติดเชื้อ แต่ปัญหาใหญ่ในปัจจุบันคือมีผู้ป่วยจำนวนมากยังครองเตียง และต้องได้รับการรักษาเป็นเวลานานจนเกินความสามารถในการรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลในเขตกรุงเทพฯ แล้ว ส่วนผู้ติดเชื้อที่อยู่ในเกณฑ์สีเขียวก็ต้องขอเรียนให้ท่านดูแลอาการตัวเองอยู่ที่บ้าน และไม่เป็นพาหะนำเชื้อไปสู่ผู้อื่น ส่วนกลุ่มสีเหลืองสีส้มก็ต้องเข้าไปรับการดูแลในโรงพยาบาลสนาม ส่วนกลุ่มสีแดงที่อาการหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจ กลุ่มนี้น่าเป็นห่วงมาก คุณหมอคุณพยาบาลพยายามรักษาเต็มความสามารถเรื่องนี้สังคมทราบดีอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่เราพยายามทำคือ ควบคุมไม่ให้กลุ่มสีเหลืองกลายเป็นสีแดง ส่วนสีแดงต้องรักษาให้หายให้ได้ ดังนั้นในสถานการณ์รอตรวจและรอเตียงเช่นนี้ย่อมทำให้ผู้ติดเชื้อเกิดความเครียดและกังวล แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราต้องอยู่กับโรคโควิด-19 ไปอีกระยะหนึ่ง เราจึงต้องป้องกันการแพร่ระบาดทุกวิถีทาง ด้วยการให้ความรู้ที่ถูกต้องกับประชาชนเพื่อป้องกันตัวเอง ส่วนคนมีเชื้อต้องไม่แพร่กระจายเชื้อ ขอให้คนมีเชื้อกักตัวเองในบ้านเป็นอันดับแรก เมื่อเราควบคุมการแพร่กระจายเชื้อได้แล้ว จะทำให้หมอและพยาบาลรักษาผู้ป่วยโรคนี้น้อยลง แต่ประเด็นคือปัญหาต้นน้ำบ้านเราหนักมาก เพราะมีผู้ติดเชื้อจำนวนข้างมาก จึงส่งผลกระทบหนักกับการรักษา และการหาเตียงสำหรับคนป่วยอาการหนัก
.jpg)
ทางการเน้นให้ผู้ติดเชื้อกักตัวเองเพื่อป้องกันการกระจายเชื้อ แต่มีคำถามจากคนติดเชื้อคือ กลัวเชื้อลงปอด กลัวป่วยหนัก บางคนบอกว่ากลัวตาย ท่านรัฐมนตรีจะตอบคำถามนี้อย่างไรครับ
ดร.สาธิต : ระบบสาธารณสุขของเราในช่วงปกติเน้นป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ โดยใช้หลักว่าโรงพยาบาลใดตรวจพบเชื้อต้องรับผู้นั้นไว้รักษา หากรับไว้ไม่ได้ ต้องส่งตัวคนป่วยต่อโดยทันที แต่ระยะหลังโรงพยาบาลหลายแห่งไม่สามารถรับผู้ป่วยโควิด-19 ได้ เพราะเตียงเต็ม ดังนั้นในระยะนี้จึงพยายามให้ความรู้ผู้ติดเชื้อว่า หากติดเชื้ออยู่ในระยะสีเขียว ต้องกักตัวเองที่บ้าหรือ Home Isolation ส่วนหากพบว่าชุมชนใดมีผู้ติดเชื้อมาก ก็ต้องทำ Community Isolationสำหรับผู้ติดเชื้อที่ยังไม่มีอาการ หากไม่ต้องการอยู่บ้าน แล้วต้องการใช้บริการ Hospitel สำหรับผู้มีกำลังทรัพย์เพียงพอก็สามารถเลือกได้ เพราะโรงพยาบาลสนามไม่เพียงพอ สำหรับสถานการณ์วันนี้ขอเรียนว่า กรณีที่หนึ่ง หากผู้ติดเชื้อมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว อายุไม่ถึง 60 ปี ขอให้ท่านใช้ Home Isolation โดยท่านต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้าน จากนั้นบุคลากรทางการแพทย์จะให้คำแนะนำ และให้ยาเบื้องต้นกับท่านแล้วเฝ้าสังเกตอาการเป็นระยะๆ จนมั่นใจว่าท่านไม่ติดเชื้อขั้นรุนแรง ก็มั่นใจได้ว่าท่านปลอดภัยแล้ว แต่หากพบว่าเชื้อลงปอด ต้องนำตัวไปรักษาในโรงพยาบาลทันที กรณีที่สอง สำหรับคนที่อาศัยในกรุงเทพฯ ขณะนี้ กทม. รับนโยบายจากรัฐบาลโดย กทม. ต้องทำ Community Isolationกระจายไปทั้งหมด 50 ศูนย์ ดังนั้นหากมีผู้ใดติดเชื้อเขาสามารถไปขอรับความช่วยเหลือจากศูนย์ต่างๆในเขตของตนเองได้ กรณีนี้สำหรับคนที่มั่นใจว่าอยู่ที่บ้านแล้วไม่มีผู้ดูแล และไม่สามารถดูแลตัวเองได้ แต่การไปศูนย์อาจประสบปัญหาการอยู่รวมกับผู้ติดเชื้อรายอื่นๆ และอาจไม่สะดวกสบายเหมือนอยู่บ้าน การจะขออยู่ใน Community Isolation จะต้องผ่านการตรวจ Antigen Rapid Test ก่อน หากมีผลบวก ให้นำผลไปแจ้งที่ศูนย์จากนั้นเจ้าหน้าที่ต้องตรวจซ้ำด้วยวิธี RT-PCR เพื่อความมั่นใจตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขระหว่างที่รอผล ต้องแยกตัวไว้ก่อน เมื่อผลออกมาเป็นบวก ก็จะรับไว้ใน Community Isolation หากผลเป็นลบก็ขอให้ดูแลตัวเองสักระยะหนึ่ง โดยไม่ออกไปติดต่อใกล้ชิดกับคนอื่นๆ ในระยะ 14 วัน แต่สำหรับผู้ที่ตรวจกับโรงพยาบาลแล้วพบว่ามีเชื้อ บุคลากรทางการแพทย์จะวินิจฉัยอีกทีว่าอยู่ในระยะไหน เพื่อจะให้การดูแลได้เหมาะสมที่สุด
มีคำถามว่าหากในบ้านหลังหนึ่งมีสมาชิก 4 คน สามคนติดเชื้อ แต่อีกคนไม่แน่ใจ เพราะไม่สามารถไปตรวจหาเชื้อที่ไหนได้กรณีนี้จะแนะนำอย่างไรครับ
ดร.สาธิต : สิ่งแรกคือต้องแยกตัวคนติดเชื้อออกก่อน ส่วนคนที่ยังไม่ตรวจ ก็ถือว่ามีความเสี่ยงสูง เพราะอยู่ในบ้านหลังเดียวกับผู้ติดเชื้อ ส่วนคนติดเชื้อนั้น หากไม่มีอาการรุนแรงภายใน 5-7 วัน ก็ยังต้องทำ Home Isolationต่อไป แล้วขอรับยาจากโรงพยาบาล ส่วนคนที่ไม่แน่ใจว่าติดเชื้อหรือไม่ ก็ต้องสังเกตอาการตัวเองตลอดเวลา ต้องแยกตัวเองจากคนอื่นๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน ผมขอยกตัวอย่างมาตรการที่เราใช้กับโรงงานคือ Bubble and Seal คำว่า Seal หมายความว่าเมื่อเราตรวจสุ่มคนจำนวนมากจากโรงงาน แล้วพบว่ามีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ ติดเชื้อ แต่เป็นคนไม่มีโรคประจำตัว และไม่แสดงอาการ เราจะขอให้เขากักตัวเป็นเวลา 14 วัน แต่หากพบคนมีอาการก็จะแยกออกทันที แล้วให้คนที่เหลือซึ่งไม่มีอาการป่วยอยู่ด้วยกันต่อไป แต่ต้องป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด หลักการ Bubble and Seal นี้หลังผ่านไป 28 วันแล้ว เราจะพบว่าคนในกลุ่มนี้80 เปอร์เซ็นต์ จะมีภูมิต้านทานเชื้อ ส่วนอีก20 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเราต้องพยายามหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อฉีดให้ หลักการสำคัญคือ แยกคนติดเชื้อออกก่อน ส่วนคนที่ยังไม่ติดเชื้อแต่เป็นกลุ่มมีความเสี่ยงสูงต้องกักตัวอย่างน้อย 14 วัน ขอย้ำว่าคนมีสุขภาพแข็งแรง หากติดเชื้อแล้วก็ต้องกักตัวด้วย เพราะเจ้าตัวอาจไม่แสดงอาการป่วย แต่สามารถแพร่กระจายเชื้อได้นี่คือสิ่งที่เป็นห่วงมาก ผมขอเรียนว่า เราจำเป็นต้องอยู่กับเชื้อโควิด-19 ไปอีกระยะหนึ่ง คนป่วยที่อาการหนักต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ ส่วนคนที่ติดเชื้อแล้วไม่แสดงอาการก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี ไม่นำเชื้อไปติดคนอื่น ขอย้ำว่าคนเสียชีวิตเพราะโรคนี้เฉลี่ยร้อยละ 2 คนเสียชีวิตส่วนมากมีโรคร้ายแรงประจำตัว โรคนี้รักษาหายได้ครับ ไม่ได้เป็นแล้วตายทุกคน
.jpg)
มีคำถามจากคนที่ถูกเลื่อนนัดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่าพวกเขาจะได้ฉีดวัคซีนเมื่อไรครับ
ดร.สาธิต : รัฐบาลพยายามหาวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือกให้ประชาชนตลอดเวลา แต่ยังหาได้ไม่เพียงพอ แต่ก็พยายามต่อไป เรียนตามตรงว่าปัจจุบันวัคซีนไม่เพียงพอกับความต้องการ แต่รัฐบาลพยายามหาวัคซีนให้ได้เดือนละ 10-12 ล้านโดส ล่าสุดใช้การฉีดวัคซีนสลับ เช่นเข็มแรกเป็นซิโนแวค เข็มสองเป็นแอสตราเซเนกาเพราะพบว่าสร้างภูมิต้านทานได้สูงขึ้นกว่าฉีดแบบเดียวกันสองเข็ม ในเดือนกรกฎาคม สิงหาคมกันยายน เราคาดว่าจะมีวัคซีนประมาณเดือนละ10 ถึง 12 ล้านโดส แต่สำหรับกลุ่มเสี่ยงเช่น 7 โรค และคนแก่ จะให้ฉีดแอสตราเซเนกา2 เข็ม เพื่อป้องกันสายพันธุ์เดลต้า ส่วนวัคซีนทางเลือกโดยโรงพยาบาลเอกชนนั้นอยู่ในขั้นตอนเตรียมการนำเข้า คาดว่าไตรมาสสี่ปีนี้จะได้วัคซีน เรื่องวัคซีนทางเลือกนั้นรัฐบาลพยายามสนับสนุนให้เอกชนนำเข้ามาโดยผ่านกระบวนการที่ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ส่วนบางท่านก็ได้รับวัคซีนทางเลือกคือซิโนฟาร์มจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามยอมรับว่าปัจจุบันวัคซีนยังไม่เพียงพอกับความต้องการ แต่รัฐบาลต้องพยายามหาให้ได้โดยเร็ว ขอย้ำว่ารัฐบาลเน้นความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรก รัฐบาลพยายามฉีดวัคซีนให้กับคนในพื้นที่ระบาดหนักก่อนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ
คาดว่าภายในสิ้นปีนี้รัฐบาลจะฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ครบ 50 ล้านคน หรือ 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรไหมครับ
ดร.สาธิต : ผมมั่นใจว่าทำได้ครับ และเราพยายามทำอยู่ แต่สิ่งสำคัญที่อยากขอร้องก็คือขอให้ทุกคนไม่การ์ดตก ดูแลตัวเองให้ดีสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือให้สะอาดตลอดเวลา ต้องมีวินัยในการดูแลป้องกันตัวเอง เพราะการฉีดวัคซีนไม่ได้หมายความว่าเราไม่ติดเชื้ออีก แต่จะช่วยให้เรามีอาการป่วยไม่รุนแรงหากติดเชื้อ ทุกวันนี้รัฐบาลพยายามหาทางลดจำนวนผู้ติดเชื้อให้ได้มากที่สุด ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนด้วย ขอให้ทุกคนมีระเบียบวินัยในการดูแลป้องกันตัวเอง โดยดำเนินควบคู่ไปกับมาตรการด้านสาธารณสุข
ในกรณีที่พ่อแม่ติดเชื้อ แต่มีลูกเล็กต้องดูแล เรื่องนี้ท่านรัฐมนตรีจะแนะนำอย่างไรครับ เพราะลูกเล็กยังห่างจากพ่อแม่ไม่ได้
ดร.สาธิต : เราทำโรงพยาบาลสนามที่ให้บริการทั้งครอบครัวไว้ครับ ให้พ่อแม่กับลูกเล็กไปอยู่ด้วยกันได้ บางบ้านพ่อแม่ไม่ติดเชื้อ แต่ลูกติดเชื้อ พ่อแม่ก็ต้องยอมไปอยู่กับลูกในโรงพยาบาลสนาม เช่น ที่ดอยสะเก็ด เชียงใหม่และที่ขอนแก่น เรามีโรงพยาบาลสนามสำหรับเด็ก เพราะมีเด็กนักเรียนติดเชื้อมาก เราจึงใช้โรงเรียนเป็นโรงพยาบาลสนาม แล้วให้พ่อแม่ไปดูแลลูกส่วนพ่อแม่บางคนก็รับอาสาดูแลเด็กเล็กคนอื่นๆที่ไม่มีพ่อแม่ไปดูแล เนื่องจากพ่อแม่ไม่สะดวกเพราะติดงาน ขอย้ำว่ารัฐบาลพยายามแก้ปัญหาตามสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจริงตลอดเวลา
ท่านรัฐมนตรีครับ คิดว่าสังคมไทยต้องอยู่กับโควิด-19 อีกนานแค่ไหนครับ
ดร.สาธิต : ตอบยากครับ แต่เราต้องอยู่กับมันให้ได้ เราต้องดูแลตัวเอง และดูแลคนอื่นๆ ด้วย เราไม่รู้ว่ามันจะกลายพันธุ์ไปอีกแค่ไหน แต่เราต้องอยู่กับมันให้ได้ ด้วยการดูแลสุขภาพกายและใจของเราให้ดี ผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้ววิกฤตินี้จะผ่านไป เราจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันขอให้เราทุกคนดูแลตัวเองให้ดี พยายามลดช่วยกันลดความสูญเสียจากโควิด-19 ให้ได้ผมเชื่อว่าทุกปัญหาจะผ่านพ้นไปถ้าเราทุกคนร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือกันและกัน ผมและรัฐบาลยินดีรับฟังคำเสนอแนะ คำวิพากษ์วิจารณ์ทุกอย่าง แต่ขอให้เป็นวิพากษ์ด้วยใจเป็นธรรม เพื่อช่วยกันหาทางออกของปัญหามากกว่าทำลายล้างกันเราต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาของเราทุกคนขอเชิญชวนมาร่วมกันแก้ปัญหานี้อย่างสร้างสรรค์ครับ
คุณจะได้พบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ รายการ ไลฟ์ วาไรตี ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ NBT กดหมายเลข 2 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTubeไลฟ์ วาไรตี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี