เผยโฉมพระบรมรูปคู่ “ความทรงจำแห่งรัก ในหลวงรัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ผลงานจิตรกรชื่อดัง “ชูศิษฐ์ วิจารณ์โจรกิจ” เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโควิด-19และผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่ยากไร้ถวายเป็นพระราชกุศลมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ชูศิษฐ์ วิจารณ์โจรกิจ จิตรกรชื่อดังที่มีฝีมือน่าจับตามองแห่งศตวรรษที่ 20 ของเมืองไทย เตรียมจัดทำผลงานรีโปรดักชั่นพระบรมรูปคู่ “ความทรงจำแห่งรักในหลวงรัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่จะมาถึงในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2565 สุดพิเศษคือการทำงานประติมากรรมลอยตัวลายเถากุหลาบซึ่งศิลปินได้ปั้นขึ้นมาเป็นครั้งแรกเพื่อประดับอยู่บนกรอบทองที่ชูศิษฐ์ได้ออกแบบดีไซน์ขึ้นโดยเฉพาะเพื่อให้งดงามเข้ากับผลงานชิ้นล่าสุดของเขา โดยเปิดรับจองเพียงจำนวน 50 คู่เท่านั้น ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับความกรุณาจาก รศ.นพ.กฤษณ์ จาฏามระ หัวหน้าศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถเพื่อมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ให้จัดทำโครงการการกุศลจัดหารายได้เพื่อสมทบทุนการจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ให้แก่ “โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์” เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในภาวะวิกฤติเร่งด่วนในขณะนี้ ตลอดจนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่ยากไร้ แก่มูลนิธิศูนย์มะเร็งเต้านมเฉลิมพระเกียรติ โดยเปิดจองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ชูศิษฐ์ วิจารณ์โจรกิจ
พระบรมรูปคู่ “ความทรงจำแห่งรักในหลวงรัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวง” ชูศิษฐ์ ได้วาดพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงด้วยโครงสีทองพื้นชมพูอันเป็นโทนสีแห่งความอบอุ่นเลอค่า เราจะสังเกตเห็นการวาดแววพระเนตรและพระพักตร์ด้วยความละเมียดละไม งดงามลึกซึ้งราวกับมีชีวิต ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นซิกเนเจอร์สำคัญในการทำงานศิลปะของเขาที่หาตัวจับยาก การเน้นมิติของรายละเอียดในการวาดเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์ ที่มีการทับซ้อนแทรกสีหลายเลเยอร์ ประกอบกับการจรดพู่กันการสานเส้นอย่างประณีตเพื่อเพิ่มความโปร่งบางและการทิ้งตัวให้กับฉลองพระองค์กรองทองทรงสะพักอันบอบบางซับซ้อน อีกทั้ง เสน่ห์ของบรรยากาศของสีที่มีความฟุ้งฝัน ล่องลอย ซ้อนด้วยเกล็ดแสงระยิบระยับ ถือเป็นอีกหนึ่งสุนทรียภาพแห่งความงามที่ยากจะละสายตามอง ส่วนประติมากรรมลายเถากุหลาบที่ผูกร้อยไว้ด้วยริบบิ้นบนกรอบทองนอกจากจะเพิ่มความหวานและสง่างามให้กับผลงานแล้ว ยังมีความหมายอันลึกซึ้งที่แสดงถึงความรักอันงดงามของทั้งสองพระองค์ที่ผูกพันอย่างไม่มีวันเสื่อมคลายปราศจากกาลเวลา ในขณะที่ริบบิ้นซ้อน 3 ชั้นผูกปมสลักสัญลักษณ์เลขไทยเพื่อแสดงความรักและน้อมรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9
ประวัติของจิตรกรผู้สร้างสรรค์ผลงานชิ้นละเมียดนี้ ย้อนกลับไปดูเส้นทางศิลปะของ ชูศิษฐ์ เมื่ออาจารย์ถวัลย์ ดัชนี และ อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต (ศิลปินแห่งชาติ) ได้ให้
คำแนะนำและคำสอนที่มีคุณค่า อันเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตเส้นทางการทำงานศิลปะของเขา ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขาเดินทางกลับไปศึกษาต่อในต่างประเทศ โดยเน้นการเรียนเฉพาะทางในมหาวิทยาลัยและอะเทลิเย่อันโด่งดัง ซึ่งทำให้ ชูศิษฐ์ เชี่ยวชาญการวาดภาพที่ผสานด้วยความรู้และเทคนิคโอลด์มาสเตอร์ การใช้อารมณ์ บรรยากาศแห่งการใช้สีราวกับการผสมผสานระหว่างอารมณ์ของศิลปะเรอเนอซองส์มาสู่โลกตะวันออก ในภาพแต่ละภาพของเขาจึงหาที่ติมิได้ ด้วยทฤษฎีการทำงานศิลปะอย่างโอลด์มาสเตอร์ นอกจากปรัชญาความคิดอันล้ำลึกแล้วยังแฝงไว้ด้วยจิตวิญญาณในการสร้างสรรค์ยังสามารถถ่ายทอดความรู้สึกผ่านมิติการสัมผัสและเทคนิควิธีการที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวที่น่าค้นหาอันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของโลกศิลปะ
ชูศิษฐ์ ไม่เพียงมีชื่อเสียงเฉพาะในเมืองไทย ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนเขาคือศิลปินไทยคนแรกที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดวาดภาพลายเส้นจาก “อเมริกัน อาร์ติสท์ แมกกาซีน” ที่ได้รับการยอมรับในแวดวงศิลปะมานานกว่า 70 ปี และได้รับการคัดเลือกเข้าเป็น อาร์ติสท์เมมเบอร์ ของ แคลิฟอร์เนียอาร์ตคลับ สมาคมศิลปะชื่อดังอันดับต้นๆ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยความสามารถด้านศิลปะทำให้ชูศิษฐ์ได้รับทุนจาก Leslie T. Posey Foundtion เดินทางไปศึกษาปริญญาโทในสาขาจิตรกรรมที่ New York Academy of Art ขณะกำลังศึกษาอยู่ที่สหรัฐอเมริกานี่เอง ชูศิษฐ์ ยังได้รับเกียรติให้เป็น 1 ใน 7 ศิลปินร่วมแสดงในงาน Painting From the Past ที่จัดโดย The Metropolitan Museum of Art พิพิธภัณฑ์ระดับโลกที่มหานครนิวยอร์ก ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของจิตรกรไทยตัวเล็กๆ
ต่อมาในปีพ.ศ.2558 เป็นปีที่ชูศิษฐ์กลับมาเมืองไทย โดยตั้งปณิธานกับตนเองไว้ว่า เขาจะทำงานศิลปะตอบแทนคุณแผ่นดิน ด้วยการเป็นคอนทิบิวส์สร้างสรรค์ผลงาน Royal Portraits โดยผลงานของเขาได้รับอัญเชิญขึ้นเป็นปกนิตยสารที่มีชื่อเสียงของเมืองไทย ตลอดจนคิวเรท 2 นิทรรศการศิลปะอันยิ่งใหญ่แห่งปีของเมืองไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยรายได้จากการจัดงานสมทบทุนมูลนิธิอานันทมหิดล และเขายังได้รับเกียรติบัตรแห่งความดี โดยเป็นกรรมการตัดสินผลงานภาพวาดในหัวข้อ “สมเด็จพระเทพฯในดวงใจ”เพื่อมูลนิธิเด็ก CCF อีกด้วย
ในปีพ.ศ.2561 ชูศิษฐ์ยังได้รับเกียรติ ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 300 ไฮ ไฟเออร์ -Thailand’s New Establishment โดยนิตยสาร Prestige (ไทยแลนด์) ถึง 2 ปีซ้อน เค้ายังมีผลงานการออกแบบสัญลักษณ์ให้กับการประกวดระดับโลกอย่าง Miss Universe 2018 และ Miss Universe Thailand 2019 ที่แฝงอัตลักษณ์แห่งความเป็นไทยเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนี
พันปีหลวง และ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ที่ได้รับความชื่นชมจากทั่วโลกว่าทีมงานกองประกวดของประเทศไทยเป็นโฮสต์ที่จัดงานประกวดที่ดีที่สุดในโลกเป็นเสียงร่ำลือมาจนถึงบัดนี้ชูศิษฐ์ยังคงส่งต่อสิ่งดีๆ ด้วยการทำโครงการ “อาร์ติสท์ ทอล์ก วิทยากรสอนน้อง” โดยมอบความรู้ด้านศิลปะ ตลอดจนมอบทุนและอุปกรณ์การศึกษาเพื่อส่งเสริมน้องๆ นักศึกษาศิลปะให้เติบโตไปยังเส้นทางของเขา รางวัลและโอกาสดีต่างๆ ที่มาสู่ ชูศิษฐ์ วิจารณ์โจรกิจไม่ใช่แค่ความโชคดีแต่เป็นเพราะฝีมือฉกาจและการทุ่มเท ใส่ใจละเมียดละไมในการสร้างสรรค์ผลงานภาพวาดของเขานั่นเอง
สำหรับผู้สนใจจองภาพรีโปรดักชั่นพระบรมรูปคู่ “ความทรงจำแห่งรัก” ฯลฯ ฝีมือ ชูศิษฐ์ วิจารณ์โจรกิจ ขนาด 45x54.5 เซนติเมตร (Limited Edition) พร้อมด้วยความพิเศษ งานประติมากรรมลอยตัวลายเถากุหลาบอันงดงามซึ่งศิลปินได้ปั้นขึ้นมาเป็นครั้งแรกเพื่อประดับอยู่บนกรอบทองขนาด 64.5x84 เซนติเมตร ที่เขาได้ออกแบบดีไซน์ด้วยตนเอง โดยเปิดรับจองเพียงจำนวน
50 คู่ สามารถสั่งจองได้ที่ Facebook : มูลนิธิศูนย์มะเร็งเต้านมเฉลิมพระเกียรติ, Line Official : @qscbcfoundation และโทร. 065-2394591
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี