พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประสูติเมื่อวันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2500 ณ โรงพยาบาลกายส์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นพระธิดาพระองค์ใหญ่ของหม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ กิติยากร กับท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี (ยุคล) กิติยากร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศเฉลิมพระนาม พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2534
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจด้านต่างๆ ทรงแบ่งเบาพระราชภาระพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ในการเสด็จแทนพระองค์ไปทรงประกอบพระกรณียกิจต่างๆ จนลุล่วงด้วยดีสมกับที่ทรงวางพระราชหฤทัยตลอดมา
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงเป็นผู้เปี่ยมด้วยพระเมตตา และพระกรุณา ทรงอุทิศทั้งกำลังพระวรกายและกำลังทรัพย์ บรรเทาความทุกข์ และอำนวยสุข เพื่อความอยู่ดีมีสุข เพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดี แก่ประชาราษฎร์มาโดยตลอด ทรงเป็นองค์อุปถัมภิกาโครงการอาสากาชาดฟื้นฟูสุขภาพถึงบ้าน เพื่อให้การรักษาผู้เจ็บป่วยเรื้อรัง ทรงพระอุตสาหะเสด็จเยี่ยมผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในสถานสงเคราะห์ ทรงเป็นกำลังสำคัญในโครงการให้การสงเคราะห์แก่ผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ทั้งประทานพระอนุเคราะห์แก่คนไข้โรคนี้หลายราย ประทานพระอนุญาตให้จัดตั้ง “กองทุนพระวรราชาทินัดดามาตุ เพื่อลดการติดเอดส์จากแม่สู่ลูก” และ “กองทุนพระวรราชาทินัดดามาตุสำหรับผู้ติดเอดส์สภากาชาดไทย” และพระกรณียกิจอื่นอีกเป็นอเนกประการโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฐานะที่ทรงริเริ่มและทรงรับเป็นองค์นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ “มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก” สภากาชาดไทย พระองค์ได้ทรงงานอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิดเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติให้สามารถกลับมีชีวิตที่เป็นปกติสุข รวมทั้งช่วยเหลือดูแลในด้านต่างๆ เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้หลังประสบภัยพิบัติ ด้วยพระหฤทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตาธรรม
ทั้งนี้ รศ.ดร.นายแพทย์พิชิต สุวรรณประกร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย กล่าวว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงติดตามผลการดำเนินงานในทุกโครงการของมูลนิธิ ด้วยพระองค์เอง ทรงมีรับสั่งถึงสิ่งที่พระองค์ทรงประทับใจว่า ทางมูลนิธิได้รับภูมิปัญญาหลายๆ แบบ สามารถที่จะทำงานอย่างครบวงจร ตั้งแต่การเฝ้าระวังภัย การอพยพหลบภัย ต่อยอดไปถึงการยังชีพ การประทังชีพ จากนั้นไปดูเรื่องที่อยู่อาศัย พร้อมกันนี้ดูในเรื่องของการฟื้นฟูอาชีพด้วย
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ รับสั่งว่า ในการฟื้นฟูอาชีพภูมิปัญญาไทย ซึ่งเราจะต้องเทิดทูนไว้เหนือหัวคือ ภูมิปัญญาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งการจะฟื้นฟูได้เร็วที่สุด คือการนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนำมาใช้ ในการทำเศรษฐกิจพอเพียงเราหวังว่าคนจะประหยัด แต่ขณะเดียวกันต้องเรียนรู้เพื่อให้สร้างรายได้ขึ้นมาได้ แต่ต้องมีการขยายอย่างระมัดระวัง ด้วยการพึ่งพาตนเอง เปลี่ยนกระบวนการ เปลี่ยนวิถีชีวิต เปลี่ยนวิธีผลิต ซึ่งการเปลี่ยนทั้ง 3 รายการนี้ต้องผสมผสานกัน การเปลี่ยนวิธีผลิตต้องผลิตอะไรที่มีคุณค่ามากขึ้น ปลอดภัยขึ้นทั้งตัวเอง และผู้บริโภค
การฟื้นฟูอาชีพแบบเศรษฐกิจพอเพียง คือการพอกิน เหลือกิน และเหลือใช้ จากนั้นนำออกมาขาย เป็นการสอนให้เขารู้จักการเริ่มต้นที่ถูกและไม่เสี่ยง อาทิ ผงขัดฟันสมุนไพร ซึ่งเป็นผงขัดฟันภูมิปัญญาดั้งเดิม แล้วนำมารวมกับสูตรที่ประทานให้ เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งชาวบ้านทำใช้เอง คุณภาพดี ทางมูลนิธิฯ รับมาช่วยขายให้ โดยที่เขาไม่ต้องลงทุนอะไร
นอกจากนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ยังประทานสูตรอาหาร เพื่อฟื้นฟูผู้ประสบภัยพิบัติ โดยเริ่มต้นให้เขาผลิตอาหารกินเอง ซึ่งในกระบวนการนี้ต้องเลี้ยงปลาภายใน 45 วัน เขาถึงจะกินปลาได้ มูลนิธิมีโครงการ 45 วัน ผลิตอาหารกินเองได้ อย่าง “น้ำพริกปลาดุก” สูตรจากตำรับอาหารเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ที่พระองค์ประทานสูตรอาหารให้ ซึ่งก็มีรสชาติที่อร่อย อีกทั้ง ยังมีภูมิปัญญาไทยที่เป็นวิทยาศาสตร์ อย่าง ข้าวไรซ์ เบอร์รี่ (rice berry) ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ผสมระหว่างข้าวหอมนิล กับข้าวหอมมะลิ ที่ถือว่าเป็นโภชนบำบัด ธัญโอสถ โดยปกติข้าวจะมีน้ำตาลสูง แต่ข้าวชนิดนี้จะมีน้ำตาลต่ำ เหมาะสำหรับหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า “ผลพลอยพอเพียง” เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง คือ กินไม่ทัน ใช้ไม่ทัน นำออกมาจำหน่าย เพื่อเริ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง และในขณะเดียวกันมีการทำเรื่องเกษตรอินทรีย์ วัสดุพื้นฐานสำหรับทำในเกษตรอินทรีย์ ที่ทำในช่วงทำกิน เมื่อใช้ไม่หมด ทางมูลนิธิก็นำไปจำหน่ายให้
ทำให้เขาสามารถเข้าสู่อาชีพได้
รศ.ดร.นายแพทย์พิชิต สุวรรณประกร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย กล่าวอีกว่า ทางมูลนิธิจะพยายามทำทุกๆ อย่างให้ครบวงจรตามพระประสงค์ของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ที่มีพระประสงค์อย่างแรงกล้าที่จะดูแล ปัดเป่า ทั้งในด้านจิตใจ กำลังใจ ด้านเทคโนโลยีต่างๆ ให้กับประชาชนทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ ทั่วประเทศ
ในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ วันที่ 13 กรกฎาคม 2556 ขอถวายพระพรให้ทรงพระเกษมสำราญ ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง และเป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรชาวไทยตลอดกาลนาน
ศุภมังคลาธิษฐาน
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๖
พระดั่งดวงรัชนีศรีประเทศ ทรงประเวศทั่วทุกถิ่นรินความสุข
ทุกก้าวบาทประลาตเข็ญเร้นความทุกข์ ราษฎร์เปี่ยมปลุกบุกบั่นสู้สรรพภัย
คือมิ่งขวัญมวลมารดาถ้วนทารก เทียบอุทกปกชราพาสดใส
แทนพระเนตรพระกรรณสรรสุขใจ น้ำพระทัยเปี่ยมพระคุณกรุณา
เชิญศักดิ์สิทธิ์อธิษฐานวารมงคล สรรพกุศลผลนิมิตทุกทิศา
เป็นขวัญจิตสถิตเสถียรเทียนคู่ฟ้า ดุจเพ็ญเดือน “เพื่อนพึ่ง(ภาฯ)”แจ่มหล้าเทอญ
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
ข้าพระพุทธเจ้าคณะหนังสือพิมพ์แนวหน้า
นายประยอม ซองทอง ศิลปินแห่งชาติ ร้อยกรอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี