เชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม
ทำไมต้องเนื้อออสซี่! เปิด 4 เหตุผลเด็ดที่คนรักเนื้อและเชฟดังจากทั่วโลกเลือกใช้เนื้อออสเตรเลียปรุงอาหาร พร้อมแนะนำเมนูยั่วน้ำลายสูตรเด็ดจากเชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม ที่ใครๆก็ทำเองได้ที่บ้านด้วยเนื้อวัวออสเตรเลียจาก True Aussie Beef
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สองผู้บริหารของ Meat & Livestock Australia นำโดย วาเลสกาผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ สเปนเซอร์ วิตเทกเกอร์ผู้จัดการฝ่ายการพัฒนาตลาดประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ร่วมกับ เชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม แบรนด์แอมบาสซาเดอร์True Aussie Beef จัดกิจกรรมงานเลี้ยงอาหารสุดเอ็กซ์คลูซีฟในรูปแบบ Virtual Chef’s Table นำเสนอข้อมูลเชิงลึกและคุณสมบัติที่ทำเนื้อวัวออสเตรเลียมีคุณภาพสูงและเต็มเปี่ยมด้วย “คุณสมบัติอันโดดเด่นตามธรรมชาติ” ที่ทำให้คนรักเนื้อตัวจริงหวนกลับมาหาเนื้อออสเตรเลียครั้งแล้วครั้งเล่า
ทั้งสองผู้บริหารได้กล่าวถึงเหตุผลที่พิสูจน์ว่าเหตุใดนักชิมชื่อดังต่างยกย่องเนื้อวัวออสเตรเลียมีคุณภาพยอดเยี่ยมที่สุด นั่นก็คือ ด้วยคุณสมบัติเนื้อที่มีไขมันต่ำ ความชุ่มฉ่ำที่ยากจะต้านทาน ไปจนถึงความนุ่มนวลของเนื้อสัมผัสและรสชาติเข้มข้นที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ คงเป็นคำตอบที่ไม่อาจปฏิเสธได้
ความลับที่ทำให้เนื้อวัวออสเตรเลียรสเลิศได้เช่นนั้น เกิดจากการเลี้ยงดูวัวในสภาพแวดล้อมธรรมชาติซึ่งเปี่ยมด้วยอากาศบริสุทธิ์ ทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ ผสานกับมรดกทางภูมิปัญญาที่ตกทอดกันมารุ่นสู่รุ่นในกระบวนการทำฟาร์มปศุสัตว์บนแนวคิดยั่งยืน โดยใช้ผ่านกระบวนการแปรรูปเนื้อวัวให้น้อยที่สุดและปราศจากการเติมสารปรุงแต่งใดๆ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์เนื้อวัวที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและรสเข้มข้นตามธรรมชาติ และทำให้คอเนื้อทั่วโลกต่างเลือกคัดเนื้อวัวจากออสเตรเลียมาปรุงเป็นเมนูโปรดขึ้นโต๊ะอาหารเสมอมา
ขณะที่มรดกทางภูมิปัญญาในการทำฟาร์มปศุสัตว์ของออสเตรเลีย เพื่อการผลิตเนื้อวัวคุณภาพสูงที่บริโภคได้อย่างปลอดภัยแก่นักชิมทั่วโลก ทำให้ออสเตรเลียกลายเป็นแหล่งผลิตเนื้อวัวเกรดพรีเมียมในอุดมคติ โดย Meat & Livestock Australia (MLA) องค์กรซึ่งก่อตั้งโดยกลุ่มผู้ผลิตได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนา รวมถึงทำการตลาดเพื่อสร้างความสำเร็จระยะยาวแก่อุตสาหกรรมเนื้อแดงออสเตรเลีย MLAยังทำหน้าที่นำเสนอสาระข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อแดงออสเตรเลีย เพื่อให้ผู้บริโภคและเชฟทั่วโลกมีความเข้าใจที่มากยิ่งขึ้นถึงองค์ประกอบที่ทำให้เนื้อออสเตรเลียกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมไปทั่วโลก
เมนู Beef Sando
ด้าน เชฟแพม-พิชญา อุทารธรรมแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ True Aussie Beefประจำประเทศไทย กล่าวว่า ด้วยคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้บริโภคทั่วโลกจะหลงรักเนื้อวัวคุณภาพสูงจากออสเตรเลีย ทุกวันนี้ผู้คนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้นว่าอาหารที่พวกเขากินมีแหล่งผลิตจากไหน เพราะเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและรสชาติอาหารโดยตรง ซึ่งเนื้อวัวออสเตรเลีย คือตัวเลือกอันดับหนึ่งของเธอ เพราะมีคุณภาพที่ดีสม่ำเสมอและรสชาติระดับพรีเมียม
สำหรับเมนูที่เชฟแพมนำเสนอผ่าน Virtual Chef’s Table คือ Beef Sando, House Mustard Mayo, Chili Sauce, House Kyokotsu Sauce ซึ่งใช้เนื้อส่วนใบพาย (Oyster Blade) MB 6/7* เป็นวัตถุดิบ โดยเนื้อใบพาย คือกล้ามเนื้อที่อยู่ข้างใต้หัวไหล่ของวัว ซึ่งต้องใช้ส่วนนี้เพราะเมื่อปรุงแล้ว เนื้อเยื่อเกี่ยวพันจะละลายคอลลาเจนเข้าไปในเนื้อ ทำให้เนื้อย่างมีรสชาติหอมเข้มข้นและนุ่ม เนื้อส่วนใบพายยังสามารถนำมาหั่นทอดในกระทะเพื่อปรุงเป็นสเต๊กหรือหั่นเป็นลูกเต๋าแล้วตุ๋นโดยใช้เวลานานได้
วัตถุดิบ : คัตสึซอส ประกอบด้วยขิง 50 กรัม กระเทียม 60 กรัม น้ำตาลทรายแดง20 กรัม ซอสมะเขือเทศ 200 กรัมวูสเตอร์ซอส 160 กรัม น้ำผึ้ง 12 กรัม ซอสถั่วเหลืองสูตรลดเกลือ 12 กรัม เกลือ 4 กรัม เนื้อวัว เนื้อใบพายแฟลตไออ้อนจากออสเตรเลีย MB 6/7* หนัก 1 ½ ปอนด์ (หั่นเป็นชิ้นละ 6 ออนซ์ 4 ชิ้น)เกลือ 1 ½ ช้อนชา (แยกไว้) พริกไทย 1 ช้อนชา(แยกไว้) แป้ง½ ถ้วย ไข่ 1 ฟอง (ตอกไว้ให้เรียบร้อย) นม ¼ ถ้วย เกล็ดขนมปัง 1 ½ ถ้วยกระเทียมผง ¼ ช้อนชา น้ำมันกาโนลาสำหรับผัด 2 ถ้วยขนมปังโทสต์หั่น 8 ชิ้น
ขั้นตอนการปรุง ขั้นตอน 1 : ค่อยๆ ใช้ค้อนทุบเนื้อแฟลตไออ้อนแต่ละชิ้นให้เหมาะสมขนาดของขนมปัง โดยทุบให้แต่ละชิ้นหนาประมาณ ½ นิ้ว ปรุงรสเนื้อสเต๊กด้วยเกลือ 1 ช้อนชา และพริกไทย ½ ช้อนชา สามารถลอกขอบขนมปังออกได้ตามความชอบขั้นตอน 2 : เตรียมทำขนมปังโดยใช้ชาม 3 ใบชามใบแรกใช้ผสมแป้งกับเกลือและพริกไทยที่เหลือ ชามใบที่สองตีไข่ผสมกับนม ส่วนชามใบที่สามใส่เกล็ดขนมปังเตรียมไว้ ขั้นตอน 3 : คลุกเนื้อสเต๊กกับแป้ง เขย่าเศษแป้งส่วนเกินออก จุ่มลงในไข่ที่ตีไว้ แล้วคลุกเนื้อสเต๊กบนเกล็ดขนมปังให้ทั่วทั้งสองด้านพักสเต๊กแฟลตไออ้อนบนตะแกรง ช่วงที่รอหันไปเตรียมซอส ขั้นตอน 4 : ผัดขิงกับกระเทียมให้ส่งกลิ่นหอม เติมส่วนผสมที่เหลือลงไปและเคี่ยวให้ข้น ขั้นตอน 5 : อุ่นน้ำมันในกระทะก้นลึก(เหมือนหม้อแบบดัตช์หรือกระทะเหล็กหล่อขนาดใหญ่) เมื่อน้ำมันร้อนถึง 375°F วางเนื้อสเต๊กลงไป 2 ชิ้น ทอดด้านละ 90 วินาทีหรือจนกว่าเนื้อสเต๊กจะเป็นสีน้ำตาลทองและให้อุณหภูมิในชิ้นเนื้อสูงถึง 130°F จะให้ความสุกระดับ medium-rare นำสเต๊กขึ้นพักบนตะแกรง 5 นาทีก่อนเสิร์ฟ ขั้นตอน 6 :นำเนื้อใบพายออสเตรเลียที่ปรุงวางบนขนมปังที่ทาซอสแล้ว โปะหน้าด้วยขนมปังชิ้นที่สอง แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟ
ท้ายสุด เชฟแพมกล่าวว่า ทุกคนอาจจะสงสัยว่าค่า MB คืออะไร? ค่า MB (Marbling) คือระดับชั้นไขมันลายหินอ่อนที่แทรกในชั้นกล้ามเนื้อของวัวตามธรรมชาติ ซึ่งชั้นไขมันลายหินอ่อนจะช่วยเพิ่มความชื้นและรสชาติให้กับเนื้อวัว เมื่อปรุงแล้วจะช่วยให้เนื้อมีความชุ่มฉ่ำมากยิ่งขึ้น ยิ่งเนื้อวัวเกรดสูงจะยิ่งมีชั้นไขมันลายหินอ่อนแทรกตัวอยู่หนาแน่นมาก เนื้อจากออสเตรเลียจะถูกแบ่งเกรดจากระบบการประเมินชั้นไขมันลายหินอ่อนโดย AUS-MEAT ตั้งแต่ระดับ 0 (ปราศจากชั้นไขมันลายหินอ่อนที่มองเห็นได้) ไปจนถึงระดับ 9 (ปรากฏชั้นไขมันลายหินอ่อนหนาแน่น) หากเราใช้เนื้อที่มีชั้นไขมันลายหินอ่อนมากปรุงอาหาร ก็จะได้เมนูเนื้อที่มีรสชาติที่เข้มข้นขึ้นด้วย
คนรักเนื้อสามารถตามไปซื้อเนื้อวัวออสเตรเลีย “True Aussie Beef” ได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ และร้านจำหน่ายเนื้อคุณภาพสูง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ True Aussie Beef ได้ที่ https://www.trueaussiebeefandlamb.com.au/
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี