นักท่องเที่ยวที่มาเยือน Valencia สถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่ต้องไปเยือนให้ได้ เพราะเป็นจุดถ่ายรูปที่น่าประทับใจ นั่นคือ Quart Towers หรือในภาษาสเปนที่ชื่อ Torres de Quart นี้ เป็นหนึ่งใน 12 ประตูโบราณของกำแพงเมืองที่ล้อมรอบเมือง Valencia ชื่อของประตูมาจากตำแหน่งที่ตั้งของประตูที่อยู่บนถนนซึ่งลากจากกลางเมืองณ Plaza de La Virgen อันเป็นที่ตั้งของมหาวิหาร Valencia กับ Cuart dePoblet หอคอยที่ถูกสร้างขึ้นโดย Pere Bonfill ตั้งแต่ปี 1441 ตามแนวทางศิลปะแบบ Valencian Gothic โดยเลียนแบบมาจาก Torres de Triomphe of the Castel Nuovo เมืองเนเปิล ประเทศอิตาลี ภายใต้การออกแบบของ Guillem Sagrera สถาปนิกชาวโมร็อกโก
กำแพงของหอคอยที่สูงใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายกับหอคอยในเมือง Genoa อิตาลีนี้ มีความแข็งแรงมากจนสามารถที่จะทนทานต่อการรบในสงครามประกาศอิสรภาพจากฝรั่งเศส และสงครามกลางเมือง หอคอยนี้เป็นส่วนที่เหลืออยู่ของกำแพงเก่าร่วมกับ Torres de Serranos ที่อยู่ทางเหนือ ส่วนของประตูทางทิศใต้และทิศตะวันออกได้สูญหายไปตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยคำสั่งของ Cirilo Amoros เพื่อทำการก่อสร้างขยายเมืองใหม่ให้ใหญ่โตขึ้น และเพื่อสร้างงานให้กับประชาชน แม้หอคอยจะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติและยังคงอยู่ แต่กลายเป็นที่ทำรังตามรูต่างๆ บนหอคอยและกำแพงของนกแก้ว และนกอื่นๆ อีกหลายชนิดต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 เทศบาลจึงตัดสินใจซ่อมแซมหน้าบรรณเพื่อให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสเยือนหอคอยแห่งนี้ ไม่เพียงจะได้ถ่ายรูปกับหอคอยขนาดใหญ่แล้ว หากเดินขึ้นไปถึงชั้นบนจะได้เห็นร่องรอยการต่อสู้ตามกำแพงที่ถูกถล่มโดยปืนใหญ่จากสงครามประกาศอิสรภาพด้วย อีกทั้งยังจะได้ถ่ายภาพเมืองทั้งเมืองอย่างจุใจเลยทีเดียว
นอกจากหอคอยแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่ต้องเยือนให้ได้เมื่อมาถึง Valencia ก็คือ City of Arts and Sciences หรือเมืองแห่งศิลปะและวิทยาศาสตร์ หมู่อาคารทางด้านศิลปะและสถาปัตยกรรมที่ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญสมัยใหม่ของ Valencia และเป็น 1 ใน 12 ทรัพย์สมบัติมีค่าสูงของสเปนแห่งนี้ประกอบด้วยมิวเซียม และโรงภาพยนตร์ที่เรียกว่า Hemisferic สถานที่ที่ออกแบบโดย Santiago Calatrava สถาปนิก วิศวกรโครงสร้าง นักประติมากรรมและจิตรกรที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของสเปนผู้ออกแบบสนามกีฬาโอลิมปิกกรุงเอเธนส์ และ Milwaukee Art Museum รวมทั้ง World Trade Center Transportation Hub กรุงนิวยอร์ก และ Felix Candela สถาปนิกสเปนที่ย้ายไปอยู่เม็กซิโกเมื่ออายุได้ 26 ปี ผู้พัฒนาโครงสร้างเปลือกบางที่เรียกว่า Cascarones
โครงการที่เริ่มก่อสร้างในเดือนกรกฎาคม ปี 1996 และเปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 16 เมษายน 1998 ใช้งบประมาณไปมากกว่า 900 พันล้านยูโร มากกว่างบประมาณที่เคยตั้งไว้ถึง 3 เท่านี้ มีหน้าตาเหมือนดวงตาขนาดใหญ่ อาคารที่มีพื้นที่มากถึง 13,000 ตารางเมตรและมีฉายาว่า ดวงตาแห่งความรู้นี้เป็นหัวใจของเมืองแห่งศิลปะและวิทยาศาสตร์ อาคารหน้าตาเสมือนเปลือกตาที่เปิดไปสู่สระน้ำรอบๆ นี้มีความยาว 110 เมตร และกว้าง 55.5 เมตรถูกแบ่งครึ่งด้วยชุดบันไดที่ลงไปยังล็อบบี้คอนกรีตโค้ง ส่วนพื้นที่ใต้ดินจะสว่างไสวอันเป็นผลจากการใช้แผ่นกระจกโปร่งแสงภายในทางเดิน อาคารนี้ใช้สำหรับเป็นโรงภาพยนตร์ที่ฉายภาพยนตร์ IMAX และ 3 มิตินักท่องเที่ยวที่มาเยือน Hemisferic นี้ ไม่เพียงจะได้ถ่ายรูปกับทัศนียภาพรอบๆ ชื่นชมอาคารที่มีรูปร่างแปลกตา ทันสมัย และน่าทึ่งแล้ว ยังสามารถซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมภาพยนตร์เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อีกหลายเรื่อง อาทิAmazon Adventure, Secret of theUniverse, Kaluoka’hina, The Enchanted Reefได้อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี