มร.รอย ออกุสตินัส กุนารา
ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อยจำกัด (มหาชน) ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชนเดินหน้านำหลักสูตรความรู้ทางการเงิน“ตังค์โต Know-how” ถ่ายทอดผ่านระบบออนไลน์อย่างต่อเนื่อง สู่เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ และผู้นำชุมชนต้นแบบเพื่อขยายองค์ความรู้สู่ผู้ประกอบการชุมชนชูบริหารการจัดการหนี้ และวินัยการออมเป็นเกราะการเงินต้านภัยโควิด-19 อีกทั้งยังเป็นการบริหารจัดการการเงินอย่างยั่งยืนในระยะยาวหลังภัยโควิด โดยมีผู้เข้าอบรมครั้งล่าสุด 275 ราย จาก 49 จังหวัดประกอบด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอ คณะกรรมการศูนย์จัดการกองทุนชุมชนต้นแบบ และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน(ส่วนกลาง)
มร.รอย ออกุสตินัส กุนารา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารไทยเครดิตฯ เผยว่า“ในยุคโควิดนี้ หรือแม้กระทั่งในชีวิต ประจำวันความรู้ทางการเงินถือว่าเป็นสิ่งสำคัญยิ่งโดยเฉพาะด้านการบริหารจัดการหนี้ และเงินออม สำหรับใช้ยามฉุกเฉิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาหลักในหลักสูตรตังค์โต Know-how ที่ได้ถ่ายทอดสู่ผู้นำชุมชนในรูปแบบเทรน-เดอะเทรนเนอร์ โมเดล เพื่อส่งต่อองค์ความรู้สู่ผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชน โดยเงินออมในสัดส่วนจำนวนเท่าต่อค่าใช้จ่ายทั้งหมดของแต่ละสายวิชาชีพ อาจมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความมั่นคงของแต่ละสายงาน เช่น อาชีพข้าราชการที่มีความมั่นคงในอาชีพสูง ควรมีเงินออมฉุกเฉิน 3 เท่าของค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่หากเป็นมนุษย์เงินเดือน มีความมั่นคงในอาชีพรองลงมา ต้องมีเงินออมฉุกเฉินถึง 6 เท่า ในขณะที่อาชีพอิสระ อย่างพ่อค้าแม่ค้ารวมถึงผู้ประกอบการรายย่อย เกษตรกรฟรีแลนซ์ต่างๆ ควรเตรียมไว้ถึง 12 เท่า และต้องใส่ใจในการบริหารจัดการหนี้สิน อย่างมีระบบ มีขั้นตอน ทั้งหนี้นอกระบบ และในระบบ โดยพิจารณาจากวงเงินกู้ยืม ระยะเวลาดอกเบี้ย เป็นต้น รวมถึงการสร้างอาชีพเสริมจากความสามารถพิเศษ จากงานอดิเรก เพื่อเพิ่มรายได้ ทั้งนี้ เพื่อการอยู่รอดในภาวะวิกฤตต่างๆ และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน”
ทรงพล วิชัยขัทคะ (ที่ 2 จากซ้าย)
ด้าน นายทรงพล วิชัยขัทคะ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาทุนและองค์กรการเงินชุมชนกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยเผยว่าทางกรมฯ ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพศูนย์จัดการกองทุนชุมชนต้นแบบด้านการบริหารจัดการหนี้ “สำนึกดีแผนดีบริหารหนี้ได้” ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนอันเป็นที่ทราบกันดี เรื่องภาวะหนี้สินครัวเรือนของพี่น้องประชาชนนั้นเป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศ ทางกรมฯ จึงได้ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ความยากจน
ลดความเหลื่อมล้ำ โดยได้ขอความร่วมมือจากธนาคารไทยเครดิตฯ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่มีองค์ความรู้ในด้านการเสริมสร้างทักษะทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยถ่ายทอดองค์ความรู้นี้ให้แก่คณะกรรมการศูนย์จัดการกองทุนชุมชนซึ่งเป็นผู้นำชุมชนได้รับความรู้ในเรื่องของการบริหารจัดการหนี้และการบริหารเงินทุนให้งอกเงย จากการที่ผู้ประกอบการรายย่อยในชุมชนได้เข้าร่วมการปรับโครงสร้างหนี้ หนึ่งครัวเรือนหนึ่งสัญญากับศูนย์จัดการกองทุนชุมชนซึ่งได้รับงบประมาณจากรัฐบาลเพื่อสนับสนุนอาชีพแก่ ผู้ที่ร่วมโครงการ โดยคาดหวังว่าการอบรมสร้างความรู้ทางการเงิน จะช่วยรู้วิธีแก้ไขปัญหาหนี้สินเพิ่มแนวคิดในการสร้างรายได้และหาอาชีพเสริม เพื่อสร้างความมั่นคงในครัวเรือนและในชุมชน
“จากการอบรมออนไลน์ที่ผ่านๆ มาประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีผู้เข้าอบรมไปแล้วร่วม 400 ราย จาก 49 จังหวัดต่างพึงพอใจในหลักสูตรตังค์โต Know-howที่มีมาตรฐานตามหลักวิชาการ เป็นหลักสูตรเข้าใจง่าย สนุกสนาน และคณะวิทยากรจากธนาคารฯ มีความเป็นมืออาชีพ ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของโครงการได้เป็นอย่างดีทางกรมจึงวางแผนขยายการอบรมความรู้ทางการเงินสู่หน่วยงานอื่น อันได้แก่ กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ซึ่งมีอยู่ประมาณ20,000 แห่ง ทั่วประเทศในปี 2565 โดยจะขอความร่วมมือจากทางธนาคาร ผู้เป็นมืออาชีพเป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ทางการเงิน อันเป็นภารกิจที่ทางกรมมีหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน ให้พี่น้องประชาชนในทุกภูมิภาค ได้มีองค์ความรู้ทักษะในเรื่องการบริหารจัดการหนี้และการวางแผนทางการเงินที่ดี”
บรรยากาศการอบรมตังค์โต Know-how สู่ผู้นำชุมชน
ผู้บริหารธนาคารไทยเครดิตฯ กล่าวเพิ่มเติมถึงการให้ความร่วมมือในอนาคตกับกรมการพัฒนาชุมชน โดยพร้อมลงพื้นที่นำความรู้ด้านการบริหารการเงินและการบริหารจัดการหนี้สินสู่ชุมชนทั่วประเทศ ผ่านหลักสูตรตังค์โต Know-how นอกเหนือจากการเปิดอบรมแบบเฟซบุ๊คไลฟ์ สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยของธนาคาร และผู้สนใจทั่วไป โดยได้ไลฟ์สดทุกวันพุธในสัปดาห์ที่ 1 และ 3 ของทุกเดือน อีกทั้งยังได้ตระเตรียมหลักสูตรการวางแผนการเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือนโดยเริ่มตั้งแต่ วัยเริ่มต้นทำงานจนกระทั่ง สร้างครอบครัวถึงวัยเกษียณ โดยจะมีการอบรมผ่านไลฟ์สดทุกสิ้นเดือน ประเดิม 30 กันยายนนี้
“ธนาคารไทยเครดิตฯเป็นธนาคารแรกที่เห็นความสำคัญของผู้ประกอบการรายย่อย บุคคลตัวเล็กๆ ผู้ซึ่งเป็นฐานรากเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้ปรัชญา Everyone Matters ใครไม่เห็น เราเห็น ที่ธนาคารยึดมั่นมาโดยตลอด ที่มุ่งมั่นสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและเติบโตทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ด้วยการส่งเสริมให้ลูกค้าทุกคนมีความรู้และวินัยทางการเงิน อันเป็นอาวุธหลักที่จะทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยนำไปปรับใช้และเอาตัวรอดในวิกฤตต่างๆ รวมถึงเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน” มร.รอย กล่าวปิดท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจหลักสูตรตังค์โต Know-how สามารถเข้าชมได้ที่เฟซบุ๊คตังค์โต Know-how by Thai Credit, เว็บไซต์www.tcrbank.com หรือโทร.02-6975454
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี