กระทรวงอุตสาหกรรม หนุนสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ พัฒนาผู้ประกอบการ ยกระดับผ้าไหมท้องถิ่น ขอนแก่น นครราชสีมา สุรินทร์ สกลนคร 4 จังหวัดภาคอีสาน พร้อมเปิดคอลเลคชั่นใหม่ “มัดทอใจ มรดกผ้าไทย ร่วมสมัย” สร้างมูลค่าเพิ่มไม่ต่ำกว่า 50 % ตั้งเป้าสร้างโอกาสทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ
นางวรวรรณ ชิตอรุณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการยกระดับพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและผ้าพื้นเมืองโดยสนับสนุนให้สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งเป็นหน่วยงานเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอด้วยการออกแบบเชิงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมสู่อีสานแฟชั่นซึ่งมีสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา สุรินทร์ และสกลนครเป็นหน่วยร่วมดำเนินการ โดยตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562 (ระยะที่1) ได้พัฒนาองค์ความรู้ด้านการออกแบบ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์สิ่งทอและผ้าทอพื้นเมือง เพื่อทำให้ผู้ประกอบการสิ่งทอและเครื่องแต่งกายผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและสามารถเข้าสู่ตลาดใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมุ่งเน้นเพิ่มโอกาสในการจ้างงานและสร้างรายได้ในท้องถิ่น ก่อให้เกิดเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการพัฒนาต่อยอดการดำเนินธุรกิจให้กับกลุ่มผู้ประกอบการสิ่งทอและวิสาหกิจชุมชน ขับเคลื่อนต่อเนื่องจนถึงปี 2564 (ระยะที่3) โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ ผู้ประกอบการและวิสาหกิจกว่า 1,515 คน ได้รับการฝึกอบรมเข้าปฏิบัติการและมีการพัฒนา ผ้าไหมมัดหมี่ลวดลายใหม่เป็นผลิตภัณฑ์ชุดเสื้อผ้าและAccessories กว่า 120 ผลิตภัณฑ์โดยมุ่งเน้นการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าเพิ่มและแตกต่างผสมผสานกับเทคโนโลยี และการส่งเสริมด้านการตลาด
นายชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอกล่าวเสริมว่า การดำเนินโครงการในปี 2564 นี้ได้มีการศึกษาวัฒนธรรมและวิถีท้องถิ่นเพื่อนำมาสร้างลายมัดหมี่แบบใหม่ที่ทันสมัยแต่รักษาไว้ซึ่งอัตลักษณ์ท้องถิ่น พร้อมนำวัสดุเส้นด้ายคลอลาเจน ที่มีคุณสมบัติกักเก็บความชุ่มชื่นให้แก่ผิว มาทอร่วมกับผ้าไหม และออกแบบตัดเย็บโดยดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาดกลุ่มใหม่ๆ โดย “มัดทอใจ : มรดกผ้าไทยร่วมสมัย” (Mud Tor Jai: Modern Heritage Thai Textile) ในคอลเล็คชั่นปี 2021 คือ “Modern Legacy Thai Silk” แบ่งออกเป็น 3 แนวคิด 4 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่
1.The Mystery of Love:จังหวัดสุรินทร์ และนครราชสีมา ลวดลายผ้าไหมแนวคิด “ถิ่นช้างใหญ่” เอกลักษณ์ประจำจังหวัดสุรินทร์ โดยใช้รูปทรงใบหู รอยยับย่น ลายเส้นของผิวหนังช้างที่หนาแต่ละเอียดอ่อนและการใช้แนวคิด “ปราสาทหินพิมาย” ของจังหวัดนครราชสีมาโดยการนำรูปทรงเรขาคณิตของซุ้มประตู ชั้นระเบียงขั้นบันไดของปราสาทลวดลายผ้าไหมมัดหมี่ใช้การย้อมสีจากธรรมชาติโทนสีดำสีเทาถ่าน และเฉดสีน้ำเงินกรมท่า เพื่อสื่อถึงห้วงอารมณ์ความรู้สึกของผู้หญิงสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายผ้าไหมของจังหวัดสุรินทร์ตกแต่งด้วยผ้ากำมะหยี่เนื้อละเอียดเสริมลุคให้ดูโดดเด่น สร้างความหรูหราให้กับผู้หญิงและการถ่ายทอดรูปแบบการผสมผสานระหว่างผ้าไหมของจังหวัดนครราชสีมากับผ้าตาข่ายเนื้อโปร่ง สะท้อนบุคคลิกภาพของผู้หญิงสวยเทห์ได้เป็นอย่างดี
2. The Glory of Sunset Delight :จังหวัดสกลนคร และขอนแก่นลวดลายผ้าฝ้ายแนวคิด “อาคารโบราณหมู่บ้านท่าแร่” ที่จังหวัดสกลนคร โดยใช้ลวดลายจากอาคาร บ้านโบราณ ระเบียง หรือซุ่มประตู ผ่านมุมมองใหม่ และการใช้แนวคิด “ไดโนเสาร์ภูเวียง” ของจังหวัดขอนแก่น โดยการนำลักษณะรูปร่างซากดึกดำบรรพ์รูปทรงชั้นหิน และใช้เทคนิคพิเศษทอแบบเกาะล้วงให้เกิดพื้นผิวทั้งเรียบและขรุขะเสมือนชั้นหิน ลวดลายผ้าไหมมัดหมี่ใช้การย้อมสีธรรมชาติในโทนสีครีมน้ำตาล และโทนสีน้ำตาลหลากหลายเฉดทั้งสีเข้มและสีอ่อน เพื่อสื่อถึงความมีอิสระ การมีชีวิตเบิกบาน สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายผ้าฝ้ายของจังหวัดสกลนคร ถ่ายทอดรูปแบบชุดวินเทจ ลักษณะแขนเสื้อตุ๊กตา หรือการจับจีบที่ปกเสื้อและกระโปรง เสริมลุคผู้หญิงให้มีความสุภาพอ่อนน้อม และผ้าไหมอีรี่ของจังหวัดขอนแก่นถ่ายทอดผ่านการตกแต่งด้วยเข็มขัดที่เอว หรือกระเป๋าบนเสื้อและกระโปรง สะท้อนถึงบุคคลิกภาพของผู้หญิงแกร่งได้เป็นอย่างดี
3. ESAN Fashion Yong Thai :ผ้าไหมและผ้าฝ้ายมัดหมี่เป็นผ้าลวดลายดั้งเดิม ได้แก่ ผ้าไหมมัดหมี่แคนแก่นคูน ของจังหวัดขอนแก่น ผ้าไหมหางกระรอก ของจังหวัดนครราชสีมา ผ้าไหมมัดหมี่โฮล ของจังหวัดสุรินทร์ และผ้าฝ้ายมัดหมี่สะเก็ดธรรม ของจังหวัดสกลนครโดยเน้นการแปรรูปผ้าไทยดั้งเดิมจากท้องถิ่นให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ ถ่ายทอดรูปแบบการตัดเย็บการประยุกต์ความเป็นไทยและผสมผสานกับแนวตะวันตก เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
ในภาพรวมโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอด้วยการออกแบบเชิงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมสู่อีสานแฟชั่น ปีงบประมาณ 2564 มุ่งเน้นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์สิ่งทอผ่านการพัฒนาและออกแบบในความเป็นไทย บนพื้นฐานของความคิดสร้างสรรค์และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ผสานเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มมูลค่า เพื่อให้สามารถสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยได้ถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้ประกอบการผ้าพื้นเมือง 345 คน มีการพัฒนาผ้าไหมลวดลายใหม่เป็นผลิตภัณฑ์ชุดเสื้อผ้า Accessories 44 ผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ “มัดทอใจ : มรดกผ้าไทยร่วมสมัย” โดยมีมูลค่าสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 50% รวมทั้งสร้างความร่วมมือแฟชั่นระดับภูมิภาคและเชื่อมโยงการผลิต เพื่อเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทย และสร้างโอกาสทางการตลาดอาเซียน+3
ทั้งนี้ไดเผยแพร่โดยการจัดส่งหนังสือรวบรวมผลิตภัณฑ์ผ้าไหม (LookBook) ให้ผู้ประกอบการสิ่งทอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดหรือรับชมผลิตภัณฑ์ผ้าไหมได้ที่
LookBook : www.thaitextile.org/th/insign/downloadsrc.preview.57.html
VDO :www.youtube.com/watch?v=1weFHDfUXeA&list=PLYA6polLopmlul7Frr4f7dwt0W-EmiAhI&index=2
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายนโยบายและแผน สำนักผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ
โทร. 0 2713 5492 – 9 ต่อ 241 รายละเอียดเพิ่มเติม www.thaitextile.org FB : Thailand Textile Institute
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี