รายงานโดยสำนักงานลูกเสือโลกภูมิภาคแอฟริกา กรุงไนโรบี
https://www.scout.org/ar/scouts-in-africa-respond-to-covid-19
นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ในทวีปแอฟริกา ลูกเสือแอฟริกันในประเทศต่างๆได้ลงมือทำกิจกรรมต่างๆ ตามอุดมคติของลูกเสือ ที่จะ “ช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ” โดยใช้วิธีการและความริเริ่มอย่างหลากหลาย เพื่อช่วยชุมชนของตนให้รอดพ้นจากอันตรายและผลกระทบของโรคระบาดโควิดอันร้ายแรง สถานการณ์ดังกล่าวกระทำโดยใช้มาตรการด้านสุขภาพตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกและรัฐบาลของประเทศต่างๆ ที่ให้เว้นระยะห่างทางสังคม และอยู่ที่บ้าน มาตรการดังกล่าวทำให้ลูกเสือไม่สามารถจัดชุมนุมและทำกิจกรรมอย่างที่เคยปฏิบัติตามปกติได้
องค์กรลูกเสือแห่งชาติของประเทศต่างๆ (NSOs) และกลุ่มลูกเสือหลายองค์กรที่มีความคิดและมีความปรารถนาที่จะทำความดีเสมอไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม ได้ริเริ่มทำโครงการรับมือโควิด-19 ระดับชุมชนด้วยการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ในแนวหน้าอย่างแข็งขัน เปิดรณรงค์สร้างความตระหนักในอันตราย บรรจุและแจกจ่ายสบู่ น้ำยาฆ่าเชื้อ และหน้ากากอนามัย ตั้งจุดล้างมือชุมชน จัดบริการช่วยซื้อของใช้ของชำและไปทำธุระให้ผู้ด้อยโอกาส แจกจ่ายอาหารให้ประชาชนผู้ยากไร้ สิ่งที่ลูกเสือประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาคแอฟริกาได้ดำเนินการเกี่ยวกับโควิดไปแล้ว สรุปได้ดังต่อไปนี้
ข่าว โควิดระบาดหนักในแอฟริกา https://www.france24.com/en/20200324-coronavirus-curfews-in-senegal-and-ivory-coast-lockdown-in-south-africa (France 24 ภาษาอังกฤษ)
ประเทศบอตสวานา (Botsawana) ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่กลางแอฟริกาตอนใต้ มีเหมืองเพชร ทองคำและยูเรเนียม เคยเป็นดินแดนอารักขาของอังกฤษ ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนพื้นเมืองผิวดำเผ่า ทสวานา ลูกเสือในเมืองฟรานซิสทาวน์ ร่วมกับกลุ่มพยาบาล ได้เดินทางไปยังที่จอดรถเมล์และแท็กซี่เพื่อให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโควิดและวิธีการล้างมือหรือฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสม โดยใช้โปสเตอร์ของกระทรวงสาธารณสุขที่เมืองหลวงกาโบโรเน ลูกเสือบอตสวาน่าได้ร่วมมือกับสถานีวิทยุท้องถิ่นเพื่อส่งข้อความสร้างความรู้และข้อควรปฏิบัติของชุมชนด้วยพื้นเมืองภาษาทสวานา
ประเทศเคปเวิร์ด หรือ กาบูเวร์ดี (Cape Verde , Cabo Verde) ซึ่งเป็นหมู่เกาะ ที่เคยเป็นภูเขาไฟใกล้ฝั่งแอฟริกาตะวันตกในมหาสมุทรแอตแลนติกเคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส และศูนย์กลางการค้าทาสสมัยก่อน ลูกเสือร่วมกับหน่วยกาชาดช่วยครอบครัวด้อยโอกาสรับมือกับช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ด้วยการจัดหาสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้พวกเขา
ประเทศโกตดิวัวร์ (Cote d’Ivoire) หรือ ไอวอรี่โคสต์ ซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ประชากรนอกจากชนพื้นเมืองแล้ว ก็มีคนเชื้อสายฝรั่งเศส สเปน เลบานอน และเวียดนาม ลูกเสือจากสมาคมต่างๆได้ร่วมในการริเริ่มสร้างความตระหนักรู้ต่างๆ ซึ่งรวมถึงการรณรงค์ทางออนไลน์ภายในชุมชนของพวกเขา ชมวิดีโอได้ที่ https://web.facebook.com/ScoutUnionist/videos/162913634788119
สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (Democratic Republic of Congo) เดิมชื่อประเทศซาอีร์ เคยเป็นอาณานิคมของเบลเยี่ยม ประชากรส่วนใหญ่เป็นชนพื้นเมืองเผ่าตุ๊ตซี่ สำนักงานลูกเสือแห่งชาติคองโก ได้จัดทำและเผยแพร่แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับวิธีที่ลูกเสือสามารถมีส่วนร่วมในการตอบสนองต่อการแพร่กระจายของโควิด มีการระดมลูกเสือวิสามัญ โรเวอร์และอาสาสมัครที่เป็นผู้ใหญ่ในการดำเนินการบริการชุมชนและการสนับสนุนบริการด้านสุขภาพในท้องถิ่น เผยแพร่ข้อมูลและรณรงค์สร้างความตระหนักเกี่ยวกับมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัย พวกลูกเสือวิสามัญโรเวอร์ได้ช่วยเหลือที่พักพิงชั่วคราวและอาหารสำหรับเด็กเร่ร่อนด้วย
ประเทศแกมเบีย (Gambia) ซึ่งเป็นประเทศเล็กสุดในแอฟริกา ตั้งอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำแกมเบีย เคยเป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกส และอังกฤษ ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามลูกเสือจากกลุ่ม คอมโบสเกาท์ ได้สร้างความตระหนักรู้เพื่อช่วยให้ชุมชนรับมือกับผลกระทบของโควิด และปรับตัวให้เข้ากับการอยู่ที่บ้านเพื่อให้ประเทศสามารถเอาชนะการแพร่ระบาดได้
ประเทศกานา (Ghana) ซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และเป็นแหล่งการค้าทาสในสมัยก่อน ลูกเสือของกลุ่มอชันติ ร่วมมือกับ บริษัทไก่ย่างเคนตักกี้ KFC ประจำกานาจัดหาอาหารและน้ำดื่มให้กับครอบครัวที่เปราะบางและขัดสน พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกลูกเสือ ลูกเสือแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและเตือนผู้คนให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคม ล้างมือบ่อยๆ หรือใช้เจลทำความสะอาดมือ
ประเทศเคนยา (Kenya) ซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ สำนักงานลูกเสือแห่งชาติเคนยา จัดรณรงค์โครงการ #ลูกเสือหยุดโควิด #ScoutsStoppingCoronavirus เพื่อสนับสนุนรัฐบาลในการสร้างความรู้เกี่ยวกับวิธีการหยุดการแพร่กระจายของโควิด โดยเน้นการล้างมือ การเว้นระยะห่างทางสังคม การแจกสบู่ทำเองและเจลล้างมือฟรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น ลูกเสือเป็นส่วนหนึ่งของความคิดริเริ่มจากหน่วยราชการท้องถิ่นเพื่อที่จะให้เยาวชนมีส่วนร่วมกิจกรรมปลุกจิตสำนึกของลูกเสือได้เป็นที่สนใจของสื่อวิทยุกระจายเสียงระดับประเทศ ลูกเสือได้ร่วมมือกับธุรกิจในท้องถิ่นเพื่อแจกจ่ายน้ำยาฆ่าเชื้อฟรี ช่วยบรรจุอาหารบรรเทาทุกข์ของรัฐบาลเพื่อแจกจ่ายให้กับสมาชิกในชุมชนที่อ่อนแอ และมีโครงการที่เรียกว่า "ยื่นมือช่วยเหลือ" เพื่อสนับสนุนความคิดริเริ่มที่มีเป้าหมาย 100 ครอบครัวในค่ายผู้ลี้ภัย
ประเทศมาลาวี (Malawi) ซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เคยเป็นแหล่งค้าทาสในสมัยก่อน เมื่อมีรายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกในประเทศมาลาวีสำนักงานลูกเสือแห่งชาติได้ออกแบบและดำเนินการรณรงค์สร้างความตระหนักเพื่อเสริมความพยายามของรัฐบาล พวกลูกเสือพากันออกไปที่ถนนพร้อมข้อความเกี่ยวกับโรคระบาดโควิด เมื่อพบว่าคนในพื้นที่ชนบทจำนวนมากไม่ทราบหรือมีความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับโรคนี้ คณะลูกเสือจึงดำเนินการรณรงค์ต่อ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับมวลชนในหมู่บ้านทั่วประเทศ
ประเทศมาลี (Mali) ซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ลูกเสือใช้สื่อมวลชนเพื่อสร้างความรู้ต่อประชาชน ด้วยการส่งข้อความเชิงป้องกันและรณรงค์การล้างมือ โดยร่วมมือกับสื่อท้องถิ่น อาสาสมัคร และองค์กรประชาสังคมภายใต้นโยบาย "ร่วมกันต่อต้านโควิด-19" นอกจากนั้นลูกเสือมาลียังได้ผลิตและจำหน่ายหน้ากากป้องกันโควิดอีกด้วย
ประเทศมอริเชียส (Maurius) ซึ่งเป็นประเทศที่เป็นเกาะกลางมหาสมุทรอินเดีย ด้านตะวันออกของเกาะมาดากาสการ์เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ สำนักงานลูกเสือแห่งชาติเปิดตัวโครงการ ลูกเสือล้างมือ (Scouts Handwashing Challenge)โดยทำวิดีโอล้างมือขณะท่องคำสัญญาของลูกเสือหรือร้องเพลงลูกเสือที่ชื่นชอบ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมเทคนิคการล้างมือที่เหมาะสมในหมู่ประชาชนทั่วไป ดูวิดีโอได้ที่ https://web.facebook.com/mauritiusscouts/videos
ประเทศโมซัมบิก (Mozambique) อดีตอาณานิคมของโปรตุเกส ลูกเสือนำความรู้สู่ชุมชน โดยเฉพาะคนชรา ถึงวิธีการป้องกันตนเองจากโควิด-19 ลูกเสือดำเนินการแคมเปญโซเชียลมีเดียเพิ่มเติมเกี่ยวกับโควิด และวิธีทำหน้ากากจากวัสดุที่มีอยู่ ด้วยความร่วมมือกับยูนิเซฟ นอกจากนั้น ลูกเสือยังผลิตเจลทำความสะอาดมือและแจกจ่ายให้กับสาธารณชนอีกด้วย
ประเทศนามิเบีย (Namibia) ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชนพื้นเมืองผิวดำ เผ่า โอวัมโบ คาวานโก และ คาพริเวียน และราวร้อยละ 10 เป็นชนผิวขาวเชื้อสายเยอรมัน และอังกฤษ เคยเป็นเมืองขึ้นของเยอรมัน ลูกเสือนามิเบียได้ทำการเผยแพร่ข้อความแห่งความรักและความสามัคคีเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนอยู่บ้านและเตือนลูกเสือ ได้เตรียมพร้อมที่จะรับใช้ชุมชนของพวกเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้ เตรียมให้พร้อม เตรียมให้พร้อมไว้“Be Prepare!”
ประเทศไนเจอร์ (Niger) ประเทศตอนกลางทวีปแอฟริกาที่ไม่มีทางออกทะเล ต้องขนส่งสินค้าทางทะเลผ่านประเทศไนจีเรีย เช่นการซื้อข้าวจากประเทศไทย เคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในประเทศยากจนที่สุดในโลกในฐานะส่วนหนึ่งของการป้องกันโควิด-19 หน่วยลูกเสือของไนเจอร์ได้แจกจ่ายชุดล้างมือและหน้ากากป้องกันให้กับกลุ่มสตรีตามด้วยกิจกรรมสร้างจิตสำนึกด้านมาตรการป้องกัน COVID-19
ประเทศไนจีเรีย (Nigeria) ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในแอฟริกา (กว่า200 ล้านคน) เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ซื้อข้าวและเม็ดพลาสติกจากประเทศไทย สำนักงานลูกเสือแห่งชาติไนจีเรีย ได้ผลิตและเผยแพร่วีดิทัศน์เพื่อให้คำแนะนำแก่ลูกเสือและประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่พวกเขาสามารถนำมาใช้เพื่อป้องกันตนเองและผู้อื่นจากการติดเชื้อหรือการแพร่กระจายของโรคโควิด-19
รวันดา (Rwanda) ประเทศเล็กๆกลางทวีปแอฟริกา เคยเป็นอาณานิคมของเยอรมนี ที่เคยมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวพื้นเมืองเผ่าตุตซี่ ราว ล้านคน โดยชนเผ่าฮูตู เมื่อพ.ศ. 2537 สำนักงานลูกเสือแห่งชาติรวันดา กำลังดำเนินการรณรงค์สร้างความตระหนักทางออนไลน์และออฟไลน์เพื่อให้ชุมชนเว้นระยะห่างทางสังคมโดยการอยู่บ้าน ส่งเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจ และแนวทางปฏิบัติในการป้องกันโควิด-19 เช่น การล้างมือ การหลีกเลี่ยงการจับมือกัน และการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด
ประเทศเซเนกัล (Senegal) ประเทศมุสลิมซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสนานถึง 300 ปี คณะลูกเสือเซเนกัล ร่วมกับนายกเทศมนตรี เขตสุขภาพ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ร่วมมือกันและช่วยจัดตั้งคณะกรรมการท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องเพื่อรับมือกับโรคระบาด พวกเขายังติดตั้งจุดล้างมือในตลาดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศด้วย ลูกเสือยังสนับสนุนช่องทางการสื่อสารของรัฐบาลด้วยการสร้างข้อความที่มีประสิทธิภาพซึ่งสอดคล้องกับคนหนุ่มสาวและดำเนินการออกอากาศข้อความออนไลน์
ประเทศเซเชลส์ (Seychelles) ซึ่งเป็นหมู่เกาะ ในมหาสมุทรอินเดีย เหนือเกาะมาดากาสการ์ แหล่งผลิตปลาทูน่ากระป๋องใหญ่ระดับโลก เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ คณะลูกเสือเซเชลล์ได้เข้าช่วยเหลือหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นในการคัดแยกและเตรียมการบริจาคเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ยากไร้ที่สุดในชุมชน
ประเทศแอฟริกาใต้ (South Africa) ซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ คณะลูกเสือได้สร้างเวปเพจที่พวกเขาแบ่งปันข้อมูลที่ช่วยในการให้ความรู้และปกป้องอาสาสมัครและเด็ก เยาวชน และชุมชนที่พวกเขาให้บริการลูกเสือวิสามัญ โรเวอร์ช่วยทำธุระ และจัดการซื้อของสำหรับผู้ที่ไม่สามารถออกไปข้างนอกได้และส่งไปถึงถึงหน้าบ้าน การปิดโรงเรียนทำให้ ลูกเสือวิสามัญได้ทำการช่วยเหลือเด็กๆ ในด้านวิชาการด้วย พวกเด็กๆ ลูกเสือสำรองได้ส่งบัตร "ขอบคุณ" ทางไปรษณีย์ เพื่อแสดงความกตัญญูต่อผู้คนในแนวหน้าในการต่อสู้กับโรคระบาดโควิด
ประเทศซูดานใต้ (South Sudan) ประเทศกลางทวีปแอฟริกาที่เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ คณะลูกเสือช่วยต่อสู้กับข่าวปลอมเกี่ยวกับโควิด-19 โดยเผยแพร่ข้อมูลข้อเท็จจริงจากกระทรวงสาธารณสุข และสนับสนุนให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันที่กำหนด
ประเทศแทนซาเนีย (Tanzania) ดินแดนต้นกำเนิดปลานิล ซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของเยอรมนี ทีมสื่อสารของคณะลูกเสือแทนซาเนีย ดำเนินการรณรงค์ออนไลน์เพื่อให้มวลชนตระหนักถึงวิธีดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากโควิด-19 ในภาษาสวาฮิลีในท้องถิ่น ดูวิดีโอได้ที่ https://web.facebook.com/TanzaniaScouts/videos/641714233063756
ประเทศโตโก (Togo) ซึ่งเคยเป็นเมืองขึ้นของเยอรมันและอังกฤษ ลูกเสือแห่งโตโกได้สร้างความตระหนักในหมู่ประชากรเกี่ยวกับโควิด โดยอธิบายว่าโรคติดต่อได้อย่างไรและจะป้องกันได้อย่างไรเพื่อต่อสู้กับข้อมูลที่ผิด พวกเขายังผลิตและแจกจ่ายหน้ากากฟรีให้กับประชาชนเพื่อช่วยป้องกันตนเองจากโรค
ประเทศแซมเบีย (Zambia) ซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ หน่วยลูกเสือแซมเบียร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อช่วยเตือนมวลชนถึงวิธีหลีกเลี่ยงการติดหรือแพร่โรคโควิด-19 ทำความสะอาดตลาดและให้ความรู้แก่ผู้ขายและผู้ซื้อ
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี