ทุนการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ต้องการเล่าเรียนให้สำเร็จ หากต้องขาดเงินทุนการศึกษา ก็คือการตัดอนาคตการศึกษาของคนยากคนจนไปโดยปริยาย
ไลฟ์ วาไรตี สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย นำคุณไปสนทนากับ แพทย์หญิงกานต์มณี ทินะ อดีตนักศึกษาแพทย์ผู้ได้รับทุนการศึกษาจาก มูลนิธิคุณแม่ลี้กิมเกียวตั้งคารวคุณ
การเรียนด้านแพทยศาสตร์ของคุณหมอ ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต้องใช้เงินทุนการศึกษาในแต่ละภาคการศึกษาเป็นจำนวนมากแค่ไหนครับ
พญ.กานต์มณี : โดยเฉลี่ยในแต่ละภาคการศึกษาใช้เงินทุนประมาณ 2 หมื่นบาทรวมค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตรก็ตกประมาณ2 แสน 4 หมื่นบาท แต่ก็มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าตำราภาษาอังกฤษ ค่าซื้อตำราพิเศษเพื่อใช้เพิ่มพูนความรู้ด้านการแพทย์ และบางครั้งต้องใช้เงินสำหรับการเรียนเพิ่มเติม เช่น ภาษาอังกฤษ ซึ่งล้วนต้องใช้เงินทั้งสิ้น ดังนั้นหากนักศึกษาแพทย์รายใดประสบปัญหาเงินทุนการศึกษาก็จะพบอุปสรรคในการเรียนและการใช้ชีวิต ซึ่งอาจทำให้เรียนไม่สำเร็จได้ บางคน
อาจจะเห็นว่าเงินเพียง 2-3 แสน เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก แต่สำหรับคนที่มีฐานะยากจนแล้ว เงินจำนวนนี้ถือว่ามีมูลค่ามากมายมหาศาล และเกินกว่ากำลังของเขาจะหามาได้ ดังนั้นทุนการศึกษาจึงจำเป็นมากสำหรับคนยากจนที่มีโอกาสได้เข้าศึกษาในคณะแพทย์ และคณะทันตะรวมถึงคณะเภสัชฯ ด้วย
คุณหมอได้รับทุนนี้โดยผ่านมหาวิทยาลัยหรือผ่านโครงการใดครับ
พญ.กานต์มณี : หมอได้รับเงินทุนผ่านโครงการแพทย์สตรี โดยเบื้องต้นก็สมัครผ่านคณะแพทย์ เมื่อหมอเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 หลังจากเห็นประกาศการให้ทุนโดยโครงการแพทย์สตรี แล้วต่อมาภายหลังจึงมาทราบว่ามูลนิธิคุณแม่ลี้กิมเกียว คือ ผู้มอบทุนการศึกษาให้กับหมอ โดยผ่านโครงการแพทย์สตรี อันที่จริงในคณะแพทย์ มีทุนการศึกษามากพอสมควร ซึ่งแต่ละทุนก็จะมีเงื่อนไขแตกต่างกันไป แต่หากจะพูดจริงๆแล้วก็ยังถือว่านักศึกษาแพทย์หลายคนยังขาดแคลนทุน และต้องการได้รับทุนการศึกษาอยู่ค่ะ สำหรับทุนที่หมอได้รับมีข้อกำหนดน้อยมากคือ เมื่อจบการศึกษาแล้วต้องไปทำงานในจังหวัดที่ไม่ใช่กรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑลรอบๆ กรุงเทพฯ หมอจึงเลือกจังหวัดน่าน เพราะหมอเป็นคนน่านค่ะ
หากคุณหมอไม่ได้รับทุนการศึกษา จะต้องประสบปัญหาใดในระหว่างการเรียนแพทย์บ้างครับ
พญ.กานต์มณี : คือครอบครัวของหมอเป็นข้าราชการ มีรายได้ไม่มากนัก คุณแม่ทำงานเพียงคนเดียว ส่วนคุณพ่อเสียชีวิตไปตั้งแต่หมอยังเด็ก การเรียนแพทย์ในมหาวิทยาลัยของรัฐอาจจะดูว่าไม่แพงเท่ากับเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน แต่การต้องใช้เงินสำหรับเรียนและกินอยู่เดือนละเป็นหลักหลายพันถึงหลักหมื่นคือปัญหาใหญ่ของคนมีรายได้น้อย เพราะการเรียนแพทย์ต้องใช้ตำรามาก ตำรามีราคาแพงส่วนค่าเทอม ค่าหอพักก็สูงพอสมควร และยังต้องซื้ออุปกรณ์การเรียนด้วย แต่ที่สำคัญคือการที่เราต้องใช้เงินเพื่อซื้อตำราสำหรับเพิ่มพูนความรู้ให้ตัวเอง เพื่อให้เรียนให้ดีที่สุด
คุณหมอสำเร็จการศึกษาโดยได้เกียรตินิยมด้วยนะครับ
พญ.กานต์มณี : ค่ะ ได้เกียรตินิยมอันดับสองค่ะ หมอเป็นนักศึกษาแพทย์โครงการแพทย์ชนบทค่ะ โครงการแพทย์ชนบทมีเงื่อนไขการทำงานของหมอที่อยู่ในโครงการนี้คือต้องออกไปทำงานในโรงพยาบาลชนบท ซึ่งเป็นเรื่องที่หมอเห็นด้วยมาก เพราะชนบทของไทยนั้นขาดแคลนหมออย่างมาก ปัญหานี้แก้มาตั้งนานแล้ว แต่ก็แก้ไม่ได้ โรงพยาบาลที่หมออยู่นี้มีทั้งหมด 30 เตียง มีหมอทั้งหมด 4 คน
คนไข้ส่วนใหญ่ของโรงพยาบาลเชียงกลางคือคนกลุ่มไหนครับ ส่วนใหญ่เข้ามารับการรักษาด้วยโรคอะไรครับ
พญ.กานต์มณี : คนไข้ส่วนมากเป็นชาวไร่ชาวนาชาวสวน ส่วนมากได้รับอุบัติเหตุจากทำงาน และจำนวนไม่น้อยมีอาการเจ็บป่วยเพราะการทำงาน เช่น อาการปวดตามร่างกายอย่างรุนแรง แล้วก็มีบางรายเข้ามาคลอดลูก ส่วนปัญหาโควิด-19 นั้น ล่าสุดไม่มีแล้ว แต่เคยเกิดปัญหานี้อย่างมากเมื่อประมาณครึ่งปีที่ผ่านมาแต่หมอและพยาบาลทุกคนก็ช่วยกันให้ความรู้กับชาวบ้าน จนล่าสุดเชียงกลางไม่มีปัญหาโควิด-19 อีกแล้ว
ขอกลับไปถามเรื่องทุนการศึกษากับการช่วยให้สังคมไทยมีหมอทันตะ เภสัชฯ ออกไปช่วยเหลือคนที่อยู่ในเขตทุรกันดาร เรื่องนี้หมออยากจะฝากข้อคิดอะไรให้กับคนในสังคมไทยบ้างครับ
พญ.กานต์มณี : ก่อนอื่นต้องขอกราบขอบพระคุณผู้ให้ทุนการศึกษาทุกคนค่ะ เพราะทุนการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับคนมีฐานะยากจนที่ได้เข้าไปเรียนหมอ ทันตะ เภสัชฯอันที่จริงสำคัญกับทุกคณะวิชานะคะ แต่สำหรับหมอแล้ว หมอมองว่าการเรียนจบแพทย์ต้องใช้หนังสือหนังหาจำนวนมาก ต้องใช้อุปกรณ์เพื่อการศึกษาอีกมากด้วย การเรียนแพทย์โดยไม่มีตำรา และไม่มีอุปกรณ์ไม่สามารถทำให้สำเร็จเป็นแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถที่แท้จริงได้ คนที่ฐานะยากจนนั้นมีอุปสรรคในการเรียนมากกว่าคนที่มีความพร้อมด้านฐานะ ต้องให้มีสติปัญญาไม่ต่างกัน ก็ยังมีอุปสรรคอย่างแน่นอน ดังนั้นการที่มีผู้ช่วยสนับสนุนทุนการศึกษาให้จึงเท่ากับช่วยลดความเครียดในการเรียนและการดำเนินชีวิตของนักศึกษาแพทย์ได้อย่างมากที่สุด
คุณหมอได้รับทุนจากมูลนิธิคุณแม่ลี้กิมเกียว โดยผ่านสมาคมแพทย์สตรี สมาคมนี้มีภารกิจสำคัญอะไรบ้างครับ
พญ.กานต์มณี : สมาคมแพทย์สตรี เน้นด้านการหาทุนให้นักศึกษาแพทย์สตรี รวมถึงแพทย์ผู้ชายด้วย โดยมีเป้าหมายหลักคือเมื่อผู้ได้รับทุนสำเร็จการศึกษาแล้วต้องไปทำงานในชนบท ซึ่งวัตถุประสงค์สอดคล้องกับมูลนิธิคุณแม่ลี้กิมเกียว ที่ต้องการให้แพทย์ออกไปทำงานรับใช้คนในชนบท เพื่อให้คุณภาพชีวิตคนในชนบทดีขึ้น ซึ่งเราจะพบว่ามีผู้ให้ทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาแพทย์ที่เน้นการให้แพทย์ออกไปทำงานในชนบทอยู่หลายทุนเช่นกัน โดยส่วนใหญ่กำหนดว่าผู้สำเร็จการศึกษาแล้วต้องทำงานใช้ทุนในชนบทสามปี จึงจะมีสิทธิ์ไปเรียนต่อเพื่อหาความรู้เพิ่มเติม แล้วเมื่อเรียนต่อเพิ่มเติมจบแล้วก็ควรจะต้องกลับไปทำงานในโรงพยาบาลต่างจังหวัดต่อไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่แพทย์ชนบทยอมรับมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วค่ะ เพราะโดยส่วนตัวต้องการดูแลคนไข้ในเขตห่างไกลความเจริญ เพราะคนไข้กลุ่มนี้เดินทางเข้าไปรับการรักษาโรคในโรงพยาบาลประจำจังหวัดได้ค่อนข้างยาก เพราะอยู่ห่างไกลบางคนอยู่บนเขาบนดอยสูง บางคนอยู่ในเขตที่ไม่มีถนน เดินทางไม่สะดวก การที่หมออยู่ในโรงพยาบาลขนาดเล็กซึ่งอยู่ในเขตชนบท จึงสามารถเป็นที่พึ่งของคนไข้ในยามฉุกเฉินได้ค่ะเช่นตัวอย่างมีคนไข้คลอดลูก แต่เด็กอยู่ในสภาพไม่กลับหัว แต่ใกล้คลอดมากแล้ว จะส่งไปโรงพยาบาลที่ใหญ่กว่าก็ไม่ทันการณ์ ก็ต้องรับคนไข้นี้ไว้ แล้วใช้การปรึกษาด้วยระบบ tele-medicine กับหมอในโรงพยาบาลประจำจังหวัด และแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้คนไข้ปลอดภัยสูงสุด นี่คือความภาคภูมิใจของแพทย์ชนบทค่ะสุดท้ายนี้หมอขอกราบขอบพระคุณทุกหน่วยงานทุกองค์กร และทุกคนที่เห็นความสำคัญของการผลิตบุคลากรด้านสาธารณสุขของไทย แล้วมอบทุนการศึกษาให้กับนิสิตนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนจนทำให้พวกเขาสำเร็จการศึกษาแล้วออกไปรับใช้สังคมได้ หมอขอกราบขอบพระคุณ และขอเชิญชวนให้ท่านที่มีความพร้อมด้านทุนทรัพย์โปรดช่วยให้ทุนการศึกษากับนิสิตนักศึกษาที่กำลังศึกษาในคณะแพทย์ ทันตะ และเภสัชฯพยาบาล รวมถึงคณะอื่นๆ ด้วย แต่ที่เน้นด้านสาธารณสุขมาก ก็เพราะหมอเห็นว่าคนไทยในเขตทุรกันดารยังขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์อีกมาก
คุณจะได้พบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ รายการ ไลฟ์ วาไรตีออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์NBT กดหมายเลข 2 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ไลฟ์ วาไรตี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี