ถึงแม้ว่ามะเร็งปอดยังคงครองสถิติต้นๆ ของโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทยในแต่ละปี ด้วยจำนวนผู้ป่วยใหม่ 23,713 รายต่อปี หรือ 2.7 คนต่อชั่วโมง ซึ่งการนำเสนอสถิติผู้ป่วยในที่นี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดความตระหนกหรือตื่นกลัว แต่จำนวนผู้ป่วยรายใหม่และอัตราการเสียชีวิตที่สูงขึ้นนี้ จะเป็นโอกาสในการสร้างการรับรู้ใหม่และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคมะเร็งปอดในยุคปัจจุบัน โดยถือโอกาสในเดือนพฤศจิกายนซึ่งเป็นเดือนแห่งการสร้างความตระหนักรู้และเข้าใจมะเร็งปอด (World Lung Cancer Awareness Month) มาเป็นช่วงเวลาในการให้ข้อมูลและสร้างการรับรู้ใหม่ว่า “มะเร็งปอด ไม่น่ากลัวอย่างที่คุณคิด”
รู้หรือไม่ มะเร็งปอดมีสองชนิดใหญ่ๆ ด้วยกัน ซึ่ง 85% ของมะเร็งปอดที่พบบ่อยในผู้ป่วยมะเร็งแต่ละปีคือ มะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก (Non-small cell lung cancer) ในขณะที่อีก 15% ของผู้ป่วยมะเร็งปอดที่พบเป็นชนิดเซลล์เล็ก (Small cell lung cancer) ที่มีการเจริญเติบโตเร็วและแพร่กระจายกว่าชนิดเซลล์ไม่เล็ก ในขณะที่วิทยาการและเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยในปัจจุบันก้าวหน้าไปมากกว่าเมื่อสิบปีก่อน ปัจจุบันมีการวินิจฉัยมะเร็งปอดด้วยการสแกนคอมพิวเตอร์ (CT Scan) การสแกนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) และล่าสุดผ่านการสแกนด้วย PET Scan รวมถึงเทคนิคการส่องกล้องทางหลอดลม และการเจาะตรวจชิ้นเนื้อ ทำให้การตรวจวินิจฉัยมะเร็งปอดในปัจจุบันมีความรวดเร็ว ซึ่งส่งผลดีโดยตรงต่อผู้ป่วยในการเข้ารับการรักษาได้เร็วยิ่งขึ้น
อนึ่ง ปัจจุบันยังมีการค้นพบว่ามะเร็งปอดสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย โดยสาเหตุหลักมาจากการสูบบุหรี่ แต่อย่างไรก็ตาม อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้รวมถึงพันธุกรรมและยีนในร่างกายที่เกิดจากการกลายพันธุ์ไปโดยไม่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมแต่อย่างใด โดยมากจะพบในคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่หรือเลิกบุหรี่ไปแล้วตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป รวมทั้งความผิดปกติของยีน ได้แก่ การกลายพันธุ์ของยีน EGFR ซึ่งพบได้บ่อยในคนไทย โดยพบประมาณ 50% รวมทั้งความผิดปกติของยีนอีกชนิดหนึ่ง คือ การสลับที่ของยีน ALK พบได้ประมาณ 5-10% และยังมียีนที่ผิดปกติชนิดอื่นๆ อีกสามชนิด คือ มีการสลับที่ของยีน ROS และ NTRK และการกลายพันธุ์ของยีน BRAF แต่ความผิดปกติของยีนในสามชนิดหลังนี้พบน้อยกว่าโดยมีเพียงชนิดละ 4% เท่านั้น
นวัตกรรมแนวทางการรักษามะเร็งปอดมีการพัฒนาไปมากในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกในการรักษาและทางรอดให้กับผู้ป่วยมากขึ้น โดยการผ่าตัดยังเป็นทางเลือกหลักในการรักษามะเร็งระยะเริ่มแรก ซึ่งกระบวนการผ่าตัดในปัจจุบันก็มีความทันสมัยและปลอดภัยมากขึ้น และในการรักษามะเร็งปอดระยะลุกลามในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาใช้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ซึ่งมีอยู่ไม่กี่ชนิดและมีผลข้างเคียงค่อนข้างมากกับผู้ป่วย ในขณะที่ปัจจุบันการรักษามะเร็งปอดระยะลุกลามมีทางเลือกมากขึ้น
รศ.พญ.ธัญนันท์ ใบสมุทร (เรืองเวทย์วัฒนา) สาขาวิชามะเร็งวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์
โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า “มะเร็งปอด ไม่น่ากลัวอย่างที่คุณคิด เพราะปัจจุบันมียาเคมีบำบัดกลุ่มใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายชนิดซึ่งผลข้างเคียงน้อยกว่ากลุ่มเก่า และยังมีการพัฒนายารักษามะเร็งกลุ่มใหม่ๆ เช่น การรักษาแบบตรงจุด หรือ แบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy) และการรักษาด้วยยากระตุ้นภูมิคุ้มกันและเม็ดเลือดขาวในร่างกาย (Immunotherapy) เป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วยมะเร็งปอดบางรายอีกด้วย”
ฉันทนา วันอ้น หนึ่งในผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะลุกลามที่ผ่านการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด และพบว่ามะเร็งลุกลามไปยังกระดูกในระหว่างการให้เคมีบำบัด เผยว่า “การได้รับข้อมูลเกี่ยวกับโรคและการรักษาที่ถูกต้อง ครบถ้วนนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ป่วยในปัจจุบัน เพราะข้อมูลจะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจเกี่ยวกับโรคและอาการของตัวเอง ทั้งยังสามารถวางแผน ตัดสินใจร่วมกับหมอในการเลือกทางรักษาที่เหมาะกับตัวเองได้นอกจากนี้ การรักษาที่มีผลข้างเคียงน้อย ยังมีส่วนช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น เมื่อเราสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทำงานได้ดูแลตัวเองได้ ดูแลครอบครัวได้ ก็จะมีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคต่อไป และจะยิ่งมีสุขภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย”
ปัจจุบัน ฉันทนา ได้รับการรักษาด้วยยาแบบมุ่งเป้า โดยเธอและครอบครัวอยู่ร่วมกับมะเร็งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
สิบเดือน ซึ่งก่อนหน้านี้แพทย์ได้ประเมินว่าเธออาจมีชีวิตอยู่ได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น และเพื่อเป็นการสร้างความรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง กลุ่มผู้ป่วยโดยมูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง กลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับมะเร็งโดย Thai Lung Cancer Group จึงได้ใช้เวลาในเดือนแห่งการสร้างความตระหนักรู้มะเร็งปอดนี้ ในการจัดสองกิจกรรมเพื่อสร้างความตระหนักรู้และเข้าใจเกี่ยวกับมะเร็งปอด ได้แก่ การจัดเสวนาให้ความรู้ในหัวข้อ “มะเร็งปอดไม่น่ากลัวอย่างที่คิด” เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งปอด การวินิจฉัย และแนวทางการรักษามะเร็งปอดในยุคปัจจุบัน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งวิทยา ไปเมื่อวันที่21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมรณรงค์ Healthy Lung Healthy You “สร้างกำลังปอด ส่งกำลังใจ ให้ผู้ป่วยมะเร็งปอด”
โดยกิจกรรมรณรงค์นี้เพื่อให้ผู้ป่วยมะเร็งปอด และบุคคลทั่วไปได้ร่วมกันฝึกบริหารปอดด้วยกิจกรรมเป่าลูกบอลและเป่าเทียน โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามและร่วมกิจกรรมรณรงค์พร้อมลุ้นรางวัลต่างๆ มากมายได้จาก Facebook Page : Thai Stronger Than Cancer ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://thaicancersociety.com/lung-cancer-hub
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี