นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบงานแนว Art Nouveau ไม่เพียงต้องเยือน Gyorgy Rath Villa เท่านั้น สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่เป็น The must ซึ่งอยู่ใกล้กันที่ต้องเยือนให้ได้ไม่เช่นนั้นถือว่าพลาดโอกาสทองก็คือ Roth Museum มิวเซียมที่ตั้งชื่อตาม Miksa Roth ศิลปินชาวฮังกาเรียนที่มีชื่อเสียงในการสร้างสรรค์งานโมเสกและกระจกสีที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลป์ของฮังการี เขาเกิดวันที่ 26 ธันวาคมปี 1865 และเริ่มฝึกงานกับ Zsigmond Roth บิดาผู้ก่อตั้งร้านกระจกสีตั้งแต่ปี 1855 แม้บิดาและปู่ของเขาทำอาชีพกระจกสีมาแต่แรก แต่เขามิได้ต้องการเพียงแค่ค้าขายด้วยทักษะปกติ หลังจากเรียนรู้การทำกระจกสีจากครอบครัว เขาก็เริ่มออกเดินทางไปทั่วยุโรปตะวันตกเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งจากเยอรมนี เบลเยียม ฝรั่งเศส และเลยไปจนถึงอังกฤษก่อนกลับมาฮังการีเพื่อดูแลกิจการ
หลังกลับมาทำงาน เขาได้ส่งงานเข้าประกวดหลายครั้ง และได้รับรางวัลเหรียญเงินในนิทรรศการ Paris World ในปี 1900 ได้รับเหรียญเงินในงานนิทรรศการ Turin World ในปี 1902 รวมทั้งรางวัลที่หนึ่งในนิทรรศการ St. Louis World ที่สหรัฐในปี 1904 ด้วย เขาจึงกลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกในด้านกระจกสีจนได้รับเชิญไปสร้างผลงานทั้งในประเทศและนอกประเทศมากมาย อาทิ งานกระจกสีของเขาที่รัฐสภาในปี 1896, Gresham Palace และ Buda Castleงานโมเสกตรงทางเดินของโบสถ์ St’Stephenงานโมเสกตรงชั้นหนึ่งของ Franz LisztMusic Academy นอกจากนี้เขายังมีผลงานระดับนานาชาติโดยเป็นผู้ตกแต่งโดมแก้วขนาด 1,500 ตารางฟุต ที่ TeatroNational ในเม็กซิโก กระจกสีที่ Hugh Brown Villa เมืองบอสตัน จิตรกรรมกระจกที่โบสถ์ Fageborg กรุงออสโล นอร์เวย์ โบสถ์ St.Michael of Kosice สโลวาเกีย รวมทั้ง Royal Palace of the Netherrlands
ในยุค Belle Epoque หรือยุครุ่งเรืองทางด้านประวัติศาสตร์ศิลป์ของฝรั่งเศสที่เริ่มต้นราวทศวรรษที่ 1870 จวบจนก่อนเริ่มสงครามโลกครั้งที่หนึ่งอันถือเป็นยุคทองของยุโรปนั้น Miksa Roth ถือเป็นมือหนึ่งทางด้านกระจกสีของโลกในช่วงเวลานั้นส่งผลให้เศรษฐานะเขาดีขึ้นมาก เขาจึงซื้อบ้านจาก Samuel Gelb ช่างทำเฟอร์นิเจอร์บนถนน Nefelejcs โดยจ้าง Samu Pecz เป็นสถาปนิกออกแบบซึ่งก็คือ Work Institute of Imperial and Royal Stained Glass and Mosaic Artist Miksa Roth Museum จวบจนปี 1939 ห้องทั้งสามที่ปัจจุบันยังจัดแสดงอยู่นั้นประกอบด้วยห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องอ่านหนังสือ เป็นส่วนที่ Roth ออกแบบเองทั้งการตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ซึ่งสะท้อนตัวตนของเขาที่มีความสมถะแต่มีรสนิยม อาคารอิฐที่ตั้งอยู่กลางสนามหญ้าเป็นสถานที่ซึ่งเป็นที่ทำงานของคนงานเกี่ยวกับกระจกสีและโมเสก 20 กว่าคน และยังเคยเป็นที่ตั้งของ KEK-ContemporaryArchitecture Center ซึ่งปัจจุบันย้ายไปแล้ว
นักท่องเที่ยวที่มาเยือน Roth Museum จะได้มีประสบการณ์กับงานจิตกรรมบนกระจกและงานโมเสกจากทั้งฝีมือของ Roth เองที่ได้รับอิทธิพลจากงานของEdward Burne-Jones และ William Morris ศิลปินยุคก่อน Raphaelโดยเน้นส่วนโค้งส่วนเว้าตามแบบธรรมชาติ แต่ใช้สีสันสดใสซึ่งทำให้สถานที่ที่ได้รับการตกแต่งมีความสดชื่นซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เห็นตัวอย่างความสดใสได้จากบ้านของเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่ติดถนน รวมทั้งงานของจิตรกรอื่นที่ Roth หาซื้อมาด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี