Christ and the Adulteress by Lucus Cranach
นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสเยือน Museum of Fine Arts Budapest จะได้มีโอกาสศึกษางานศิลปะที่มีความหลากหลายแบบที่มีระยะเวลายาวนานหลายศตวรรษ เริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ผลงานที่ถูกรังสรรค์ในช่วงเวลานี้มักเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนา อาทิ ฉากต่างๆ จากในคัมภีร์ไบเบิ้ล หรือเรื่องราวชีวิตของนักบุญ หรือภาพเหมือนของนักบุญแต่ละองค์โดยเคยจัดแสดงไว้ในโบสถ์หรือตามบ้านของคหบดีต่างๆ งานจิตรกรรมเหล่านี้ถูกใช้เป็นตัวแทนที่จับต้องได้จึงมีไว้เพื่อเสริมสร้างศรัทธาระหว่างอธิษฐานหรือสวดมนต์อาทิ ฉากพระคริสต์ถูกทรมานชีวิตของพระนางมารี และความทุกข์ทรมานของนักบุญองค์ต่างๆ
มานุษยวิทยาและการเคลื่อนไหวทางด้านสติปัญญาที่เริ่มต้นจากอิตาลีได้แผ่ขยายขึ้นไปในยุโรปเหนือตั้งแต่ครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 15 ซึ่งส่งอิทธิพลโดยตรงต่อศิลปะ การศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์และการสร้างโลกได้กลายเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญต่อการสร้างงานศิลป์โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานจิตรกรรม ศิลปินหลายคน อาทิ Albrecht Durer, Hans Baldung ได้ใช้เนื้อหาที่เกี่ยวเนื่องกับจริยธรรมและการถากถางไม่ว่าจะเป็นสงครามระหว่างเพศมาเป็นหัวข้อในการรังสรรค์งาน แต่หลังจากที่ Martin Luther ได้เสนอทฤษฎีของเขาในปี 1517 ส่งผลให้งานศิลปะที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนาลดทอนจำนวนลงพร้อมๆ ไปกับปฏิรูปศาสนา ศิลปินคนแรกที่เสนอผลงานแนวใหม่ทั้งจิตรกรรมและแกะสลักให้สอดคล้องกับแนวคิดของ Martin Luther ก็คือ Lucas Cranach the Elder
Head of St. John the Baptist by Lucus Cranach
แม้ Cranach จะเป็นผู้เชื่อแนวทางปฏิรูปของ Luther แต่เขาก็ยอมรับงานจากศาสนจักรโดยใช้งานที่ถูกจ้างตีความตามความเห็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น The Annunciation to Joachim ภาพเรื่องราวของ Anne and Joachim ครอบครัวของพระนางมารีที่มีอยู่ว่า เดิมนั้นทั้งคู่ไม่มีลูก Joachim ทุกข์ทรมานใจมากจึงหนีไปอธิษฐาน พระบิดาจึงได้ปรากฏพระกายขึ้นและบอกกับเขาว่าเขาจะมีลูกที่มาจากพระเจ้าในไม่ช้าซึ่งเขาต้องให้ชื่อว่ามารี ภาพนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจและศรัทธาอย่างเปี่ยมล้นว่าคำอธิษฐานจะได้รับการสดับฟังและได้รับคำตอบเสมอ ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพระเจ้าอันเป็นจุดเริ่มต้นของการไถ่บาป ส่วนภาพ Christ and the Adulteress ที่พระเยซูจับแขนผู้หญิงที่เล่นชู้ด้วยสายพระเนตรที่เยือกเย็นพร้อมกับคำกล่าวของพระองค์ที่ว่าใครไม่เคยทำผิด ขว้างหินใส่เธอได้เลยก็แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสายตาของผู้กล่าวหาที่กระเหี้ยนกระหือรือจะเอาผิดซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นฐานความเชื้อของลัทธิ Luttheranism หรือการปฏิรูปที่สื่ออย่างโจ่งแจ้งว่าความรอดเกิดขึ้นจากพระคุณเท่านั้น นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะมีโอกาสยลงานของ Cranach อย่างเต็มอิ่มอีกทั้งห้อง อาทิ Old Man and Young Woman,Salome with Head of St. Johnthe Baptist, The MysticMarriage of St. Catherine of Alexandria และ The Virginnursing the Child
ยิ่งกว่านั้น นักท่องเที่ยวยังจะได้ชื่นชมกับงานแกะสลักไม้ German School ของคริสต์ศตวรรษที่ 15 ที่สวยที่สุดชิ้นหนึ่งด้วยนั่นคือ The Death of the Virgin การสิ้นพระชนม์ของพระนางมารีที่ล้อมรอบด้วยนักบุญ 12 องค์ที่อยู่ในอากัปกิริยาต่างๆอาทิ กำลังอ่านพระคัมภีร์ กำลังจ้องมองด้วยดวงตาที่สงบ และกำลังอธิษฐานซึ่งกลายเป็นต้นแบบของการส่งผู้วายชนม์กลับสู่อ้อมกอดของพระเจ้าอีกต่างหากด้วย หลังจากนักท่องเที่ยวจบทัวร์ส่วนนี้ บางคนอาจรู้สึกว่าเรากำลังอยู่ในเยอรมนีหรือเปล่าเนี่ย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี