บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม(ประเทศไทย)จำกัด ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เครือข่ายชุมชนผู้ผลิตผ้าขาวม้าทอมือทั่วประเทศ และภาคีเครือข่ายสถาบันการศึกษา และบริษัทภาคเอกชน และยังคงสานต่อโครงการ“ผ้าขาวม้าท้องถิ่น หัตถศิลป์ไทย” ก้าวสู่ปีที่ 5ปีนี้ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ Creative Young Designers โดยมี มีชัย วีระไวทยะ ประธานกรรมการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม(ประเทศไทย) จำกัด, สุทธิพงษ์ จุลเจริญปลัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงมหาดไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมชมนิทรรศการภาพถ่าย IG และผลงานการประกวดออกแบบผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้า หัวข้อ “ผ้าขาวม้ารัก(ษ์)โลก” และยังมีชุมชนผู้ผลิตผ้าขาวม้าทอมือชั้นนำจากทั่วประเทศ 18 ชุมชน นำสินค้ากว่า 200 ผลิตภัณฑ์ และปิดท้ายกับโชว์พิเศษชุด “Pakaoma Next Normal” โดยน้องๆ นักศึกษากว่า 30 ชีวิต มาสร้างชีวิตชีวาให้กับชิ้นงานผ้าขาวม้าผ่าน Dance Performance และแฟชั่นโชว์ผลงานการออกแบบของภาควิชาการออกแบบแฟชั่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ประธานโครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทย กล่าวว่า “โครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทยดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายชุมชนผู้ผลิตผ้าขาวม้าทอมือทั่วประเทศมาจนครบรอบ 4 ปี ที่ผ่านมาคณะทำงานได้รับการสนับสนุนจากกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย สถาบันการศึกษา และภาคีเครือข่ายภาคเอกชนยังผลให้โครงการผ้าขาวม้าฯ เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ช่วยสร้างรายได้และเสริมศักยภาพให้กับชุมชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ปีนี้ได้มีการขยายขอบข่ายความร่วมมือของโครงการฯ ทั้งในด้านการเพิ่มจำนวนสถาบันการศึกษา และการดึงภาคีใหม่ คือ สโมสรฟุตบอลระดับจังหวัด ให้เข้ามาร่วมกันต่อยอดการพัฒนาผ้าขาวม้าทอมือในท้องถิ่นของตน นอกจากจะช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนแล้วยังเป็นโอกาสที่จะสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างคนต่างรุ่นต่างวงการ ส่งเสริมความรักสามัคคีของคนในพื้นที่เดียวกันด้วย”
ด้าน ต้องใจ ธนะชานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดการโครงการฯ เปิดเผยว่า “ด้วยสถานการณ์โควิด-19 เครือข่ายชุมชนผลิตผ้าขาวม้ายังคงความแข็งแกร่งและปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างดี เช่น การนำผ้าขาวม้าทอมือมาผลิตเป็นหน้ากากผ้าปิดจมูก ช่วยทำการตลาดให้ชุมชนขายผ้าขาวม้าผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ชุมชนสามารถพยุงตัวมาได้จนสถานการณ์คลี่คลายลง ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เรายังได้เห็นคนรุ่นใหม่ในชุมชน ผู้ผลิตหลายแห่งที่เข้ามาร่วมสืบสานและพัฒนาต่อยอดผ้าขาวม้าทอมืออย่างเข้มแข็ง ดั่งจะเห็นได้ว่าสินค้าแบรนด์ใหม่ๆ ในปี 2563 และปี 2564 คณะผู้จัดทำโครงการได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งอีกครั้งจากองค์กรผู้สนับสนุนหลักในการต่อยอดโครงการผ่านการทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่ ปีนี้ได้ขยายเครือข่ายไปยัง 6 สถาบันการศึกษาในเครือข่ายEISA (Education Institute Support Activity)ได้แก่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และสโมสรฟุตบอลชั้นนำระดับจังหวัด จำนวน 4 สโมสร ได้แก่ สโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี เอฟซี สโมสรฟุตบอลสุโขทัย เอฟซี สโมสรฟุตบอลโปลิศเทโร และสโมสรฟุตบอลราชบุรี มิตรผล เอฟซี เพื่อออกแบบของที่ระลึกให้แก่สโมสรฟุตบอลและการนำสินค้าผ้าขาวม้าทอมือเข้าวางขายในกิจกรรมต่างๆ ของสโมสร การขยายเครือข่ายในครั้งนี้จะนำไปสู่สายสัมพันธ์แห่งความร่วมมือที่ยั่งยืนในระดับพื้นที่ ตลอดจนความตระหนักรู้ถึงคุณค่าและความงดงามของผ้าขาวม้าต่อไป”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี