ตลอด 32 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ซึ่งก่อตั้งโดยผู้บริหารและพนักงานของเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงห่วงใยปัญหาโภชนาการของเด็กนักเรียนและเยาวชนมาดำเนินงานในรูปแบบ“โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน”
จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2532 เพื่อมีส่วนเสริมสร้างโภชนาการที่ดีแก่เด็กและเยาวชนในชนบททุกภาคของประเทศไทย ผ่านกิจกรรมการเลี้ยงไก่ไข่และนำผลผลิตไข่ไก่ มาประกอบอาหารกลางวันสำหรับนักเรียน ผลผลิตไข่ไก่อีกส่วนหนึ่งที่เกินจากการนำมาเป็นอาหารกลางวัน ถูกนำมาบริหารจัดการด้วยการจำหน่ายให้แก่ชุมชน มีรายได้จากการจำหน่ายไข่ไก่นำกลับมาหมุนเวียนเพื่อให้สามารถดำเนินโครงการฯ ไปได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากผลผลิตไข่ไก่ที่เด็กๆ ได้รับประทานตลอดช่วงเปิดเทอมแล้ว มูลนิธิฯ วางโมเดลระบบบริหารจัดการโครงการฯ เพื่อให้แต่ละโรงเรียนสามารถดำเนินโครงการได้อย่างยั่งยืน และยังเป็นเสมือน “ห้องเรียนสังคม” หรือ Social Lab ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ ทั้งด้านการผลิต การจัดการการเลี้ยงไก่ไข่ในเชิงอาชีพ การเลี้ยงไก่ไข่ที่ถูกหลักวิชาการ เรียนรู้เรื่องของการจัดการผลผลิต การทำบัญชี ระบบสหกรณ์ รวมไปถึงการสร้างทักษะอาชีพ จุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ นำไปเป็นทางเลือกอาชีพได้ในอนาคต โดยมีพี่ๆ สัตวบาลจาก บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟ ช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับครูและนักเรียน
เข้าสู่ปีที่ 33 ปัจจุบัน มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ 880 โรงเรียน อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ 231โรงเรียน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 342 โรงเรียน ภาคกลาง 138 โรงเรียน ภาคตะวันออก 56 โรงเรียนและภาคใต้ 113 โรงเรียน โดยมีซีพีเอฟเป็นภาคีเครือข่ายร่วมสนับสนุนโครงการ และหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ หรือ JCC-B (Japanese Chamberof Commerce -Bangkok) บมจ.สยามแม็คโครหรือ Makro เน้นช่วยเหลือโรงเรียนในทุกภูมิภาคที่มีเด็กนักเรียนและเยาวชนที่มีปัญหาทุพโภชนาการภายใต้หลักการในการบริหารจัดการโครงการมีมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เป็นผู้บริหารจัดการโครงการและงบประมาณ อาทิ การสนับสนุนเงินทุนก่อสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ อุปกรณ์การเลี้ยง พันธุ์สัตว์ อาหารสัตว์ และปัจจัยการผลิตและร่วมกับซีพีเอฟคัดเลือกโรงเรียน ถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคนิควิชาการการเลี้ยงไก่ไข่ พร้อมทั้งติดตามประสิทธิภาพการเลี้ยงของแต่ละโรงเรียนเพื่อร่วมแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที
ครูมณี ฦาชา ครูผู้ดูแลโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน โรงเรียนบ้านกุยแหย่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เล่าว่า เริ่มต้นเข้าโครงการเมื่อปี 2553 จาก100 ตัว และเพิ่มการเลี้ยงเป็น300 ตัว ในปัจจุบัน เพื่อนำผลผลิตไข่ไก่สำหรับเป็นอาหารกลางวันของนักเรียน 863 คน ในระดับชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษาปีที่ 3สามารถจัดสรรอาหารกลางวันให้กับนักเรียนได้ทุกคน นอกจากนี้เด็กๆ ได้ลงมือปฏิบัติวิชาการเกษตรเพื่อให้มีประสบการณ์จริง และปรับวิชาการเกษตรเข้าสู่หลักสูตรในวิชาเพิ่มเติมด้วย ขณะที่ชุมชน มีโอกาสซื้อหาไข่ไก่สด สะอาด ปลอดภัยในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด
ประจักสิน บึงมุม ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองเรือ ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า โรงเรียนเข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนมา 1 ปี สิ่งที่ได้รับจากโครงการหลายด้าน คือ นักเรียนมีโภชนาการที่ดีขึ้นจากการที่ได้บริโภคไข่ไก่ เป็นอาหารมื้อกลางวันทุกวันเป็นโครงการที่ส่งเสริมเข้าถึงโปรตีนคุณภาพได้เรียนรู้ และมีทักษะในการเลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้เรียนรู้ว่าการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้สู่การปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้จริงนั้น ต้องมีการบริหารจัดการที่เป็นระบบ มีวิธีการ มีขั้นตอน ซึ่งเราได้รับการถ่ายทอดความรู้และคำแนะนำจากซีพีเอฟและมูลนิธิฯเช่น โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ที่เราต้องรู้จักบริหารจัดการผลผลิตไข่ไก่ ระบบบัญชีการคำนวณจุดคุ้มทุน เป็นต้น
ตลอด 32 ปี ของโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ส่งเสริมเด็กและเยาวชน 180,000 คน เข้าถึงโปรตีนคุณภาพ ได้บริโภคไข่ไก่เป็นอาหารมื้อกลางวันอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 มื้อโรงเรียนมีกองทุนสะสมเพื่อใช้หมุนเวียนในโครงการเกิดความร่วมมือระหว่าง ครู นักเรียน และผู้ปกครองผ่านกิจกรรม Co-production ชุมชนมีแหล่งเรียนรู้อาชีพเกษตรธุรกิจ รวมทั้งผลผลิตจากโครงการเอื้อประโยชน์ให้สมาชิกของ 1,972 ชุมชนรอบโรงเรียนสามารถเข้าถึงอาหารโปรตีนคุณภาพจากไข่ไก่สดสะอาดและปลอดภัย ในราคาที่เหมาะสม การเลี้ยงไก่ไข่ยังเป็นอาชีพทางเลือกสำหรับนักเรียนและผู้ปกครองด้วย
โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนมีภาวะโภชนาการที่ดีสร้างแหล่งอาหารของชุมชน เป็นโครงการที่มีโอกาสขยายผลไปสู่การสร้างเป็น Social Enterprise และสอดรับกับเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs (SustainableDevelopment Goals) ของสหประชาชาติในข้อ 2 - Zero Hunger ขจัดความหิวโหยและ ข้อ 3Good health and well-being สร้างหลักประกันการมีสุขภาวะที่ดีและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี