วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
โรคคอตีบ

โรคคอตีบ

วันอังคาร ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag : โรคคอตีบ
  •  

โรคคอตีบเป็นโรคที่หลายๆ คนคงได้ยินชื่อ แต่ก็อาจจะยังไม่รู้จักดีถึงแม้จะพบน้อยลงแต่ก็ยังคงมีผู้ป่วยอยู่ประปราย วันนี้ไขปัญหากับอายุรแพทย์ โดยราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยจะมาเล่าให้ฟังกันว่าโรคคอตีบคืออะไรมีอาการ การวินิจฉัย และการรักษาอย่างไร และเราจะสามารถป้องกันโรคนี้ได้หรือไม่

โรคคอตีบเป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้มีการอักเสบเด่นที่คอและต่อมทอนซิล ติดต่อจากคนสู่คนผ่านการหายใจละอองที่มีเชื้อปนเปื้อน อาจมีอาการรุนแรงทำให้เสียชีวิตได้จากการตีบตันของทางเดินหายใจส่วนต้น หรือจากพิษของแบคทีเรียทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และระบบประสาทเป็นอัมพาต


ปัจจุบันอุบัติการณ์ในประเทศไทยลดลงมาก น้อยกว่า 0.01ต่อหนึ่งแสนประชากร แต่กลับมาพบได้มากขึ้นในบางปีเนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายกลุ่มแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน และในบางพื้นที่ที่มีอัตราการได้รับวัคซีนน้อย

โรคนี้มีระยะฟักตัวประมาณ 2-5 วัน มักมีอาการเริ่มต้นคล้ายกับไข้หวัด อาจมีไอเสียงก้องร่วมกับต่อมน้ำเหลืองที่คอโต และตรวจพบแผ่นเยื่อสีขาวเทาติดแน่นอยู่บริเวณต่อมทอนซิล กรณีที่มีอาการรุนแรงอาจเกิดจากภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนต้น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรืออัมพาต

การวินิจฉัยจากอาการ การตรวจร่างกาย และอาจใช้การป้ายบริเวณรอยโรคส่งเพาะเชื้อ การรักษาประกอบด้วย 3 อย่างคือ การใช้ยาต้านจุลชีพเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย การใช้ยาต้านพิษแบคทีเรีย ร่วมกับการรักษาประคับประคองในกรณีอาการรุนแรง ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยควรปรึกษาจากแพทย์เพื่อรับการรักษาหากมีข้อบ่งชี้ และติดตามอาการ

การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การรับวัคซีนรวมป้องกันบาดทะยัก-คอตีบ-ไอกรนจำนวนสำหรับเด็กฉีดชุดแรก 3 เข็ม และเข็มกระตุ้นอีก 3 ครั้ง โดยเข็มแรกที่อายุ 2 เดือนและเข็มกระตุ้นสุดท้ายที่ 11-12 ปี และหลังจากนั้นกระตุ้นทุก 10 ปี สำหรับผู้ใหญ่ในกรณีที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน แนะนำการฉีดวัคซีนป้องกันจำนวน 3 เข็ม และหลังจากนั้นกระตุ้นทุก 10 ปี

นพ.ธณัติ อุ่นสินมั่น และ พญ.วลัยพร วังจินดา

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย

ภาพจาก https://www.immune.org.nz

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันอาทิตย์ 6 กรกฏาคม 2568

รัฐบาลชวนร่วมงานมหกรรมSoftPower

พบศพ! 'อดีตปลัดอำเภอ'อืดคาเก๋ง ชาวบ้านเห็นจอดรถแง้มประตูไว้3วัน

รบ.คิกออฟ ‘WebD’แพลตฟอร์ม AI สกัดเว็บผิดกฎหมาย กวาดล้างเพิ่มกว่า 70% ทำงานได้เร็วกว่าเจ้าหน้าที่ถึง 31.5 เท่า

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved