วัยทองก่อนวัยอันควร มักพบในผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปีอันเนื่องมาจากจากฟองไข่ในรังไข่สลายเร็วกว่าปกติ ทำให้ประจำเดือนค่อยๆขาดหายและขาดหายอย่างถาวรในที่สุด ซึ่งโดยปกติแล้วผู้หญิงจะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเมื่ออายุย่างเข้าช่วงวัย 45-55 ปี แต่กรณีวัยทองก่อนวัยในผู้หญิงน้อยกว่า40 ปี ส่งผลให้มีบุตรยากตามมา เนื่องจากรังไข่ มีหน้าที่หลักใน“สร้างเซลล์ไข่” และ“การสร้างฮอร์โมนเพศหญิง” กระตุ้นไข่ให้สุกและตกตามรอบเดือน เมื่อเข้าสู่ภาวะวัยทองก่อนวัย เป็นอาการบ่งชี้ถึง “ภาวะรังไข่เสื่อม” ประสิทธิภาพการทำงานของรังไข่ถดถอยทำให้มีบุตรยาก
จะรู้ได้อย่างไรว่ากำลังเข้าสู่ภาวะวัยทองก่อนวัย
“ครูก้อย” นัชชา ลอยชูศักดิ์ ครูวิทยาศาสตร์ที่ปรึกษาผู้มีบุตรยากและผู้ก่อตั้งเพจhttps://www.facebook.com/BabyAndMom.co.thยืนหนึ่งในใจผู้มีบุตรยาก เพจที่ให้ความรู้และการเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยากตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่ได้ศึกษาและรวบรวมงานวิจัยทั้งในไทยและต่างประเทศเกี่ยวกับหลักโภชนาการในการรับประทานอาหารที่จะช่วยเสริมภาวะเจริญพันธุ์ ช่วยบำรุงไข่ บำรุงมดลูก และปรับสมดุลฮอร์โมนเพื่อเตรียมพร้อมก่อนการตั้งครรภ์ จนได้รับความไว้วางใจจากผู้มีบุตรยากมายาวนาน ให้ข้อมูลว่า ก่อนจะเข้าสู่วัยทองร่างกายจะมีสัญญาณแจ้งเตือนล่วงหน้า คือ ประจำเดือนเริ่มมาคลาดเคลื่อนทิ้งช่วงนาน ท้องยาก หรือมากะปริดกะปรอย ปริมาณประจำเดือนจะลดลงมีอาการที่เกิดจากการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น อาการร้อนวูบวาบตามตัว นอนไม่หลับ หงุดหงิด โมโหง่าย ช่องคลอดแห้ง เจ็บแสบช่องคลอดเวลาที่มีเพศสัมพันธ์ผิวแห้ง ผมร่วงซึ่งหากมีอายุต่ำกว่า 40 ปี และเริ่มมีอาการดังกล่าวควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวิฉัยว่ากำลังเข้าสู่ภาวะวัยทองก่อนวัยหรือไม่ โดยแพทย์จะใช้ชุดตรวจเลือดเพื่อตรวจหาระดับ Follicle-Stimulating Hormone (FSH) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่สร้างไข่และกระตุ้นให้ไข่สุก มีผลต่อการมีประจำเดือน สามารถตรวจสอบโดยการเจาะเลือดตอนช่วงมีประจำเดือน 1-3 วันแรก หรือในรายที่สงสัยว่าน่าจะมีระดับไทรอยด์ต่ำ จะมีการตรวจฮอร์โมนThyroid-Stimulating Hormone (TSH) ร่วมด้วยเพราะส่งผลต่อความผิดปกติของรอบเดือนเช่นกัน
โดยสามารถตรวจประเมินประสิทธิภาพของรังไข่จากตรวจค่า FSH ดังนี้
การมี FSH ในระดับต่ำเกินไปอาจส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ ทำให้วงจรรอบเดือนหยุดชะงักไปได้ ซึ่งค่าของฮอร์โมน FSH เป็นอีกหนึ่งปัจจัยมีผลต่อโอกาสตั้งครรภ์ โดยค่าFSH ต่ำเกินกว่า 4mIU/mlมักจะพบในผู้หญิงที่มีอาการของภาวะถุงน้ำในรังไข่ (Polycystic Ovarian Syndrome หรือ PCOS) ภาวะที่มีไข่ใบเล็กจำนวนมากในรังไข่ ทำให้ไข่ไม่สุกและไม่โตตามเกณฑ์หรือไม่ตกตามรอบ ทำให้ประจำเดือนมาช้าจึงส่งผลให้ท้องยาก
ระดับของ FSH ในร่างกายระดับนี้อยู่ในเกณฑ์ปกติ บ่งบอกถึงรังไข่สำรอง(Ovarian reserve) รวมถึงคุณภาพและจำนวนของไข่ที่เหลืออยู่ในเกณฑ์ปกติ
ระดับของ FSH ที่เกิน 10mIU/ml จะเริ่มกระตุ้นไข่ได้ยาก หากมีอายุต่ำกว่า 40 ปีค่าดังกล่าวจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ารังไข่เริ่มเสื่อม
เมื่อมีจำนวณไข่ลดน้อยลง และคุณภาพของไข่เสื่อมลง ร่างกายจะพยายามผลิต FSH ออกมามากขึ้นเพื่อชดเชยและกระตุ้นให้ follicle มีการเจริญเติบโตมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง หากพบว่ามีระดับ FSH สูงอาจเป็นตัวบ่งชี้ว่ากำลังจะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนแล้ว ไข่ที่คุณภาพดีจะสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนและอินฮีบินบีสูง ผลคือ ค่า FSH จะต่ำลง หากไข่คุณภาพไม่ดีฮอร์โมนที่สร้างได้จากไข่จะมีระดับต่ำ ส่งผลให้ค่า FSH สูงขึ้น สัญญาณแรกที่บ่งบอกถึงการทำงานรังไข่ที่แย่ลง คือ ค่า FSH มากกว่า 10 mIU/mL ร่วมกับค่า E2 ที่น้อยกว่า 80 pg/ml มีรายงานว่าค่า FSH ที่มากกว่า 18 mIU/ml จะมีโอกาสการตั้งครรภ์น้อยมาก
กล่าวโดยสรุป การตรวจ FSH คือการตรวจฮอร์โมนการทำงานของรังไข่ ซึ่งหากตัวเลขยิ่งสูงแปลว่าการทำงานของรังไข่ยิ่งเสื่อมสภาพ อย่างไรก็ตามค่า FSH ในแต่ละเดือนไม่คงที่หากได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือ โปรเจสเตอโรน เช่น ยาคุมกำเนิด อาจได้ค่าที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นหากกำลังทานยาคุมกำเนิดต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ เพราะมีผลต่อการตรวจและการแปลผลด้วย
ดังนั้น หากมีข้อสงสัยว่ากำลังเผชิญกับปัญหาเข้าสู่ “วัยทองก่อนวัยอันควร” หรือ “รังไข่เสื่อม” ควรต้องเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียด เพราะอาจเกิดจากความผิดปกติของมดลูก เนื้องอกมดลูก ซีสต์รังไข่ หรือ โรคภายในสตรีเพื่อจะได้ให้แพทย์ตรวจวินินิจฉัยและรักษาต่อไปครูก้อยกล่าวสรุป.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี