คุณน่าจะเคยได้ยินเพลงกล่อมเด็กที่ว่า วัดเอ๋ยวัดโบสถ์ มีต้นโตนดอยู่ 7 ต้น ขุนทองเขาไปปล้นป่านฉะนี้ยังไม่เห็นมา.......
หรืออาจจะเคยได้ยินเพลงพื้นบ้านที่ว่า วัดโบสถ์ วัดโบสถ์ ปลูกข้าวโพดสาลี ลูกเขยก็ตกยาก แม่ยายก็พรากลูกสาวหนี.......
แต่ก็ไม่มีใครยืนยันว่าวัดโบสถ์ที่ผมจะพาคุณไปเที่ยวในวันนี้เป็นวัดโบสถ์ที่มีต้นโตนด หรือปลูกข้าวโพดสาลีหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือโบสถ์เก่าของวัดโบสถ์แห่งนี้เรียบง่ายแต่ทว่างดงามมาก
ชื่อวัดโบสถ์ นับเป็นชื่อของวัดที่มีซ้ำๆ กันมากมายในประเทศไทย เพราะในหลายต่อหลายจังหวัดก็มีชื่อวัดโบสถ์ มีการสันนิษฐานว่าการที่ชื่อวัดซ้ำกันเช่นนี้ เพราะวัดแต่ละวัดล้วนมีโบสถ์ ดังนั้นเมื่อตั้งชื่อวัดให้ง่ายต่อการเรียกที่สุด ก็จึงเรียกชื่อว่าวัดโบสถ์ แต่ก็มีผู้แย้งว่า ถ้าเช่นนั้นจริง ทุกวัดก็ล้วนแล้วแต่มีโบสถ์ เหตุใดจึงไม่ชื่อวัดโบสถ์ไปเสียทุกวัดจะอย่างไรก็ตาม เราขอไม่ถกเถียงต่อในเรื่องนี้เพราะน่าจะยังต้องถกเถียงและต้องค้นคว้ากันอีกยาวนาน
เอาเป็นว่าวันนี้จะพาคุณไปชมโบสถ์เก่าแก่ที่วัดโบสถ์ บ้านวัดโบสถ์ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี โบสถ์หลังนี้สร้างสมัยอยุธยาตอนกลาง บ้างก็สันนิษฐานว่าสมัยอยุธยาตอนปลาย (ดูจากศิลปะ สถาปัตยกรรม องค์ประกอบ และรูปลักษณ์ของโบสถ์) ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ในบ้านวัดโบสถ์บอกว่า โบสถ์หลังนี้น่าจะมีอายุกว่า 300 ปี เพราะตัวของผู้เล่าอายุ 92 ปีแล้ว โดยผู้เล่าบอกว่าเกิดมาก็เห็นโบสถ์นี้มาแล้ว แล้วปู่ย่าตายายก็บอกกับผู้เล่าว่าเห็นโบสถ์หลังนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว ดังนั้นจึงทำให้เชื่อได้ว่าโบราณสถานแห่งนี้น่าจะมีอายุมากถึง 300 ปี
แต่ที่แน่นอนที่สุดคือไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าโบสถ์ของวัดโบสถ์แห่งนี้สร้างในปี พ.ศ. ใดแน่นอน เพราะยังค้นหาประวัติไม่พบ แต่สิ่งที่นับได้ว่าแปลกมากสำหรับประเพณีการสร้างโบสถ์ของศาสนาพุทธในประเทศไทย คือ ด้านหน้าของโบสถ์หลังนี้หันไปทางทิศตะวันตก ซึ่งผิดไปจากการสร้างโบสถ์ทั่วไปที่ต้องหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ขนาดของโบสถ์ไม่ใหญ่โตมากนัก ลักษณะสำคัญอีกประการของโบสถ์แห่งนี้คือด้านหน้ามีจั่วลดระดับ ซึ่งหาได้ไม่มากนักในประเทศไทย
ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่อีกเช่นกันบอกว่า สมัยก่อนนั้นภายในเขตวัดโบสถ์มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่สองแห่ง คือด้านหน้าและด้านข้างของวัด (บริเวณหลังกุฏิพระหลังเก่า) แล้วยังมีสระอื่นๆ ในหมู่บ้านอีกหลายแห่ง ซึ่งชาวบ้านที่มีฐานะในยุคโบราณนิยมขุดสระน้ำใหญ่ไว้ในหมู่บ้าน เพื่อเป็นแหล่งน้ำกินน้ำใช้สำหรับผู้คนในชุมชน แต่ปัจจุบันสระน้ำหลายแห่งในเขตวัดได้ถูกฝังกลบไปแล้ว
ย้อนกลับไปกล่าวถึงความน่าสนใจของโบสถ์ วัดโบสถ์ จะพบว่ามีบานประตูไม้ลงรักปิดทอง ลวดลายเป็นดอกไม้และพรรณพฤกษา ด้านหน้ามีประตูสองบาน ด้านหลังมีประตูสองบานเช่นกัน ส่วนกำแพงด้านข้างทั้งสองข้างเจาะหน้าต่างด้านละ 5 บาน แต่น่าเสียดายมากที่ลวดลายของบานประตูได้ลบเลือนไปจนเกือบไม่เหลือให้เห็นอีกแล้ว ส่วนคำบอกเล่าว่าภายในโบสถ์เคยมีภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้น ก็ไม่ปรากฏอีกต่อไป แต่ยังคงหลงเหลือคำจารึกที่เขียนด้วยสีดำไว้ด้านในผนังโบสถ์ด้านหน้าพระประธาน ซึ่งอยู่ระหว่างประตูทั้งสองบาน แต่ไม่สามารถระบุได้อีกว่าเป็นจารึกดั่งเดิมหรือไม่ เพราะตัวอักษรเลือนลางค่อนข้างมาก แต่ที่ยังคงเหลือชัดเจนคือฐานชุกชีเดิม และเสมารอบโบสถ์ จำนวน 8 ใบ โดยฐานเสมาทำแบบย่อมุม 12 ซึ่งนับว่างดงามมาก ส่วนด้านบนที่รองรับใบเสมาทำเป็นฐานบัวหงายซ้อนหลายชั้น แต่ที่น่าสงสัยคือมีซุ้มเสมาหนึ่งอันที่ตั้งอยู่ด้านขวาของโบสถ์ มีลักษณะแตกต่างจากอันอื่นๆ เพราะทำเป็นซุ้มมีหลังคาคุม แล้วเจาะช่องด้านข้างสี่ด้าน ส่วนฐานก็มีลักษณะแตกต่างไปจากฐานเสมาอันอื่น ๆ นับว่ามหัศจรรย์มาก
อันที่จริงวัดโบสถ์ยังมีโบราณสถานอีกหลายอย่าง อาทิ ศาลาการเปรียญไม้สักอายุกว่า 150 ปี เจดีย์องค์ใหญ่มหึมามีเครื่องเบญจรงค์ประดับที่คอระฆังขององค์เจดีย์ แล้วยังมีเจดีย์องค์เล็กหลายองค์ที่มีลักษณะงดงาม สร้างแบบย่อมุมไม้สิบสอง ที่อยู่รอบๆ องค์เจดีย์ใหญ่
หากคุณต้องการไปชมความงามแบบเรียบง่ายของโบสถ์วัดโบสถ์แห่งนี้ และต้องการให้ Mr.Flower นำคุณไปชม รวมถึงพาคุณเที่ยวชมความงามของวัดโบราณแห่งอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียงกับวัดโบสถ์ โปรดติดต่อหนังสือพิมพ์แนวหน้า หมายเลข 091-7233615 นะครับ เราเที่ยวกับแบบกลุ่มเล็กๆ เน้นเจาะลึกความงดงามของโบราณสถานแห่งต่างๆ เพื่อให้คุณได้ซึมซับความงามของโบราณสถาน เพื่อช่วยอนุรักษ์โบราณสถานของไทยไว้ให้อยู่สืบต่อไปนานเท่านาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี