สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเป็นปัญหาระดับโลกอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ผู้คนหันมาดูแลสุขภาพและร่างกายตัวเองมากขึ้น อีกทั้งในตอนนี้เชื้อไวรัสได้กลายพันธุ์และแพร่กระจายได้รวดเร็วขึ้น อย่างสายพันธุ์โอมิครอน ที่สร้างความกังวลใจให้กับใครหลายคนไม่น้อย เพราะสายพันธุ์นี้แม้แต่คนแข็งแรงหรือได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ก็มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้เช่นกัน ดังนั้น หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ จึงยังคงมีความจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตในแต่ละวันอยู่ และอาจจะต้องดูแลตัวเองมากกว่าขึ้นกว่าเดิมแต่อย่าให้การป้องกันตัวเองจากโอมิครอนมาทำร้ายสุขภาพผิวของคุณได้ เพราะการสวมหน้ากากอนามัยและใช้เจลล้างมือบ่อยๆ จะส่งผลเสียต่อผิวทั้งปัญหาสิวผด สิวอุดตัน สิวอักเสบ ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น “รมย์รวินท์ คอสเมติก” (Romrawin Cosmetics) แนะนำวิธีดูแลผิวในช่วงไวรัสโอมิครอนระบาด เพื่อให้เรามีสุขภาพผิวที่ดีและแข็งแรง
1.สวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี หลักๆ เลยหน้ากากต้องขนาดต้องไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป เพื่อลดกับสัมผัสหรือขยับหน้ากากอนามัยบ่อยๆ เพราะการเสียดสี และสิ่งสกปรกจากมือเป็นต้นตอของการเกิดสิวบนใบหน้าได้ง่ายมากๆ และที่สำคัญต้องไม่สวมหน้ากากนานจนเกินไปเพื่อลดการกดทับ และอับชื้นของเหงื่อภายใต้หน้ากาก และเมื่ออยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวกหรือสถานที่ที่ไม่เสี่ยงติดเชื้อ ควรถอดหน้ากากเพื่อให้ผิวได้พักหายใจ
2.เปลี่ยนหน้ากากอนามัยเป็นประจำ เพราะสายพันธุ์โอมิครอนติดต่อค่อนข้างง่าย ทางที่ดีไม่ควรใช้หน้ากากอนามัยซ้ำในแต่ละวัน หรือครึ่งวันเปลี่ยนทีก็จะลดความเสี่ยงได้อีกระดับหนึ่ง สำหรับใครที่ใช้หน้ากากอนามัยประเภทผ้า ควรมีติดตัวอย่างน้อย 2 ชิ้น และซักหลักจากใช้ทุกครั้ง โดยใช้โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยนต่อผิวหน้าทำความสะอาดแทนผงซักฟอก เพื่อลดการระคายเคือง ตากแดดให้แห้งสนิทป้องกันแบคทีเรียสะสม หลังจากใช้มาเป็นเวลานานควรเปลี่ยนใหม่ทันที เพราะประสิทธิภาพในการป้องกันจะลดน้อยลงตามอายุใช้งาน
3.ล้างทำความสะอาดผิวหน้า ควรล้างอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ไม่ล้างบ่อยจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวแห้งง่าย สบู่หรือโฟมที่เลือกใช้ ต้องเลือกสูตรที่ระคายเคืองต่อผิวน้อยที่สุด มีสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้น้อย หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันเป็นหลัก เพราะจะทำให้สิวอุดตันเกิดได้ง่ายขึ้น
4.แต่งหน้าให้บางลง สำหรับหลายคนที่รักในการแต่งหน้า ช่วงนี้ก็โบกให้เบาลงนิดนึง ไม่ต้องแต่งหน้าจัดจนเกินไป
เพราะการสวมหน้ากากอนามัยทับจะทำให้เครื่องสำอางเข้าไปอุดตันในรูขุมขน และก่อให้เกิดสิวขึ้นได้ หรืออาจจะแต่งเฉพาะส่วนด้านบนของใบหน้า คิ้ว ตา แค่นี้ก็สวยแล้ว แถมไม่เสี่ยงหน้าพังอีกด้วย
5.ดูแลผิวมือจากการใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ อีกหนึ่งไอเท็มประจำตัวในยุค โควิด-19 อย่างเจลล้างมือซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรคได้ดี แต่การใช้เจลแอลกอฮอล์บ่อยจนเกินไป อาจะส่งผลให้ผิวมือของเราแห้งและเสียได้ เพราะฉะนั้นควรล้างมือและทาครีมบำรุง เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติล้างทำความสะอาดมือเพื่อป้องกันผิวอักเสบ
6.ทาครีมกันแดดแม้อยู่บ้าน หลังจากโควิด-19 กลับมาพร้อมกับสายพันธุ์ใหม่ หลายคนอาจกลับมา Work from Home ทำงานอยู่บ้านของตัวเอง ถึงแม้จะไม่ได้ออกไปปะทะกับแสงแดดโดยตรง แต่ครีมกันแดดก็ยังมีความจำเป็นอยู่ เพราะแสงจากโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และหลอดไฟ สามารถทำให้ผิวหมองคล้ำ และเกิดริ้วรอยได้เช่นกัน
7.เลือกทานอาหาร การป้องกันสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกเข้าร่างกายสำคัญก็จริง แต่การดูแลตัวเองจากภายในก็สำคัญไม่แพ้กัน การเลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกน้ำตาลเป็นวิธีดูแลร่างกายได้ดี เพราะน้ำตาลจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนในร่างกาย หากไม่อยากให้ผิวแก่ตัวเร็ว ก็เลี่ยงๆ อาหารจำพวกนี้ หรือทานให้น้อยลงจะดีที่สุดค่ะ ทานผัก ผลไม้ และดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อคงความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
8.พักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน เพราะภูมิคุ้มกันร่างกายเป็นสิ่งสำคัญในการเผชิญหน้ากับโอมิครอน โดยแพทย์แนะนำให้นอนไม่เกินเวลา 22.00 น. และนอนหลับอย่างน้อย 8 ชั่วโมง การพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมน ผลิตสารตัวดีออกมาซ่อมแซมร่างกายและผิวพรรณ และอย่าลืมทาครีมบำรุงมอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ เพราะระหว่างที่เราหลับพักผ่อน ร่างกายจะเปิดรับและนำสารเหล่านี้ไปใช้ได้ดีมากยิ่งขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี