วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี ทรงสืบสานพระพุทธศาสนาด้วยพระศรัทธาที่มั่นคง ซึ่งเมื่อโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินมายังวัดป่าบ้านตาดในหลายโอกาส ทรงมีความเลื่อมใสศรัทธาในหลักคำสอน ของพระธรรมวิสุทธิมงคล โดยทรงนำคำสอนมาเป็นหลักในการทรงปฏิบัติพระกรณียกิจเพื่อประชาชนและประเทศชาติ
ทรงรับเป็นประธานโครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ และโปรดให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เป็นประธานคณะผู้ออกแบบพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด)อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
ในการนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ประธานคณะผู้ออกแบบทรงประทานอนุญาตให้ศิลปิน อาทิ ดารณีนุชปสุตะนาวิน, รินลณี ศรีเพ็ญ, บุณฑริก ทัศนารมย์,ชนาทิป โพธิ์ทองคำ, ธารา ทิพา ร่วมตามเสด็จเข้าชมพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ ชมวิหาร และ เจดีย์ ในการนี้เพื่อประชาสัมพันธ์ สืบสานศิลปวัฒนธรรม และหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนา ให้ดำรงไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้เรียนรู้และศึกษาถึงชีวประวัติของหลวงตาพระมหาบัวญาณสัมปันโน
ทั้งนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงได้พาชมพระวิหารซึ่งภายในประดิษฐาน “พระพุทธวิสุทธิมงคลศาสดา เจ้าฟ้าจุฬาภรณนฤมิต” บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับประทานจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก อัญเชิญขึ้นประดิษฐานในพระเกตุมาลาพระประธานประจำวิหาร ซึ่งได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ว่า “พระพุทธวิสุทธิมงคลศาสดา เจ้าฟ้าจุฬาภรณนฤมิต” อันมีความหมายว่า “พระพุทธองค์ผู้ทรงเป็นพระบรมศาสดา ทรงประกอบด้วยมงคลอันบริสุทธิ์ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงสร้าง” มีพุทธลักษณะปางมารวิชัย เนื้อโลหะทองแดงบรอนซ์ลงรักปิดทองโบราณ ขนาดหน้าตักกว้าง 224 เซนติเมตร ความสูงจากองค์พระถึงพระเกตุ 329 เซนติเมตร ยกฐาน 3 ชั้น ฐานพระกว้าง 308 เซนติเมตร สูง 179 เซนติเมตรประดับอักษรพระนาม จภ. ที่ผ้าทิพย์ เบื้องหน้าพระประธาน ด้านขวาของพระประธานประดิษฐานรูปหล่อหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล/ด้านซ้ายประดิษฐานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต/ ส่วนตรงกลางเป็นรูปหล่อหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
ในส่วนวิหาร บรรจุอัฐิธาตุพระธรรมวิสุทธิมงคลในรัตนเจดีย์ เพื่อเชิญขึ้นไปประดิษฐานบนบุษบกน้อยถวายสักการะอัฐิธาตุพระธรรมวิสุทธิมงคล ซึ่งประดิษฐานที่บุษบกภายในเจดีย์ โดยอยู่ที่ระดับความสูง 9 เมตร 60 เซนติเมตร ซึ่งเจดีย์นี้สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมศิลปะล้านช้าง มีความสูง ทั้งหมด 61 เมตร 58 เซนติเมตร ที่ระดับความสูง 33 เมตร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ พระพุทธรูป 4 องค์ได้แก่ พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน พระพุทธรูปพิงค์โกลด์ พระพุทธรูปหินจุยเจียและอัฐิธาตุพระธรรมวิสุทธิมงคลในส่วนกะโหลกและฟัน ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒนา วรขัตติยราชนารี เสด็จมาในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูปทั้ง 4 องค์ พระอรหันตธาตุ และอัฐิธาตุพระธรรมวิสุทธิมงคลขึ้นประดิษฐาน เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2565
ส่วนยอดเจดีย์เป็นฉัตร 5 ชั้น ยอดฉัตรบนสุดเป็นทองคำ น้ำหนักทอง 86.2 กิโลกรัม ฉัตรชั้นที่ 1 น้ำหนักทอง 99.4 กิโลกรัมเริ่มจากฐานฉัตรชั้นที่ 2 ถึงปลียอดแปดเหลี่ยมเคลือบทองคำด้วยวิธีเปียกทองโบราณ
ในการดำเนินงาน พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงเป็นประธานคณะผู้ออกแบบร่วมกับคณาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยมีศิลปินแห่งชาติ 3 คน ร่วมออกแบบและดำเนินงานทั้งด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรมและมัณฑนศิลป์ รวมทั้งมีคณะศิษยานุศิษย์ หน่วยงานทุกภาคส่วนของจังหวัดอุดรธานีและสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ร่วมแรงร่วมใจในการก่อสร้างรวมระยะเวลา 4 ปีจนแล้วเสร็จสมบูรณ์
สำหรับพื้นที่โครงการพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล จำนวน 38 ไร่ ประกอบด้วย 3 อาคาร ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ วิหาร เจดีย์ และส่วนภูมิทัศน์ โดยรูปทรงลวดลายเจดีย์และวิหารเป็นศิลปะล้านช้างผสมผสานศิลปะยุครัตนโกสินทร์ สะท้อนให้เห็นถึงการสืบทอดพระพุทธศาสนาในถิ่นอีสานยังคงดำรงอยู่อย่างมั่นคง อีกทั้งมีแนวคิดในการออกแบบสถาปัตยกรรมให้ทั้ง 3 อาคาร ตั้งเป็นแนวเดียวกับจิตกาธาน สถานที่ที่พระราชทานเพลิงศพสรีระสังขารพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตาพระมหาบัวฯ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2554 และเป็นแนวชี้ตรงไปถึงเมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย สื่อความหมายว่า ศาสนพิธี หรือ สังฆกรรม ณ สถานที่แห่งนี้มีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นประธาน ทรงร่วมรับรู้ในพิธีนั้น รวมถึงพุทธศาสนิกชนที่เข้ามากราบสักการะอัฐิธาตุพระธรรมวิสุทธิมงคลที่เจดีย์ยังได้มีโอกาสกราบจิตกาธานฯ และพระบรมศาสดาไปในคราวเดียวกันด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่บรรจุอัฐิธาตุของพระธรรมวิสุทธิมงคล รวมถึงเป็นสถานที่เผยแผ่ธรรมะคำสอน และเป็นศูนย์รวมจิตใจของศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนทั่วไป โดยพระธรรมวิสุทธิมงคล เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติธรรมและทำความดีเพื่อพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ ตลอดจนเป็น “ถูปารหบุคคล” (ถู-ปา-ระ-หะ-บุก-คน) คือ บุคคลผู้สมควรแก่การสร้างสถูปหรือเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุไว้สักการบูชาคุณงามความดี
ในส่วนพิพิธภัณฑ์เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กก่ออิฐถือปูนชั้นเดียว เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการสื่อผสมผสานมัลติมีเดีย จำนวน 6 ห้อง ถ่ายทอดอัตชีวประวัติพระธรรมวิสุทธิมงคล เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้และนำข้อวัตรปฏิบัติ คติธรรมคำสอนไปปรับใช้ในชีวิตให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ
โอกาสนี้ ทรงปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ บริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ ซึ่งได้รับมอบจากวัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย พุทธศาสนิกชนทั่วไปและศิษยานุศิษย์
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมได้ทุกวันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รอบแรกเวลา 09.30 น.รอบสุดท้าย 14.30 น. ขอความร่วมมือแต่งกายสุภาพและปฏิบัติตามมาตการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี