เป็นหนุ่มที่มีใจรักในศิลปะแบบเข้มข้น เมื่อครั้งไปร่ำเรียนปริญญาตรี ด้านเศรษฐศาสตร์ที่อเมริกา โอ้ต-ชยะพงส์ นะวิโรจน์ หนึ่งหนุ่มในสามใบเถาของ พล.อ.ท.ดร.สมศักดิ์ – ลักขณา นะวิโรจน์ ได้ไปรู้จักกับการเต้นรำที่เรียกว่า สวิง แดนซ์ (swing dance) พอมีโอกาสได้ออกสเต็ปก็หลงรักการเต้นจังหวะนี้ ถึงขั้นเรียนรู้และฝึกฝนขั้นเทพ ครั้นกลับเมืองไทย เขาจึงได้เปิดสตูดิโอที่ชื่อว่า”The Hop Bangkok” ขึ้น เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับคนรักการเต้นพร้อมเผยแพร่ให้ผู้สนใจได้รู้จักกับสวิงแดนซ์มากขึ้น
โอ้ต แนะนำให้รู้จักกับการเต้นสวิงแดนซ์แบบย่อให้ฟังว่า สวิงแดนซ์ พัฒนามาจากการเต้นกับดนตรีแจ็สประเภทสวิงในช่วงศตวรรษที่ 1920 กลุ่มนักเต้นสวิงส่วนมากคือกลุ่มชนชาวแอฟริกัน อเมริกัน สวิงแดนซ์ ที่ได้รับความนิยมมาที่สุดคือ Lindy Hop เป็นการเต้นคู่ที่ถือกำเนิดขึ้นที่ Harlem ณ เมืองนิวยอร์ค แม้จะมีบางช่วงที่สวิงแดนซ์เสื่อมความนิยมไปบ้าง จนกระทั่งช่วงปี 1990 การเต้นสวิงกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งทั่วยุปโรป และอเมริกา ก่อนจะขยายวงกว้างไปทั่วโลก สำหรับเอเชีย กลุ่มสวิงแดนซ์ที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่ประเทศเกาหลี
“การเต้นสวิงโดยเฉพาะ Lindy Hop สำหรับผมมันเป็นการเต้นที่ไม่เป็นทางการมากเหมือนการเต้นลีลาศหรือการเต้นจังหวะอื่นๆ เป็นการเต้นที่สนุกที่สุด ด้วยจังหวะ ท่าเต้น มีการโยนตัว ยกตัว พื้นฐานของสวิงเรียกว่า Lead & Follow คือผู้ชายเป็นคนนำ ผู้หญิงจะตาม เพียงแค่เราส่งสัญญาณให้คู่เต้นว่าเราจะไปท่าไหน หมุนอย่างไร แค่นั้น แต่ว่าไม่ต้องมีคู่ประจำเหมือนการเต้นคู่จังหวะอื่น ระหว่างเต้นสามารถเปลี่ยนคู่เต้น หรือจอยกับคู่อื่นได้ ผมได้คุยกับเพื่อนที่เต้นสวิงหลายๆ คนนะเขาก็รู้สึกเหมือนผมว่า มันเป็นการเต้นที่สนุก ได้ออกกำลังกายอย่างดี มีความสุขทุกครั้งที่ได้เต้น เป็นการชาร์ตพลังงานให้กับตัวเองรูปแบบหนึ่ง”
จาก 2 ปีที่แล้วที่เปิดคลับสวิงแดนซ์ มีชื่อกลุ่มว่า Bangkok Swign มีสมาชิกเป็นต่างชาติเกือบ 90% แต่ปัจจุบันมีคนไทยมาเรียนและเข้ามาเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น 30% โอ๊ต จึงได้ตัดสินใจเปิดสตูดิโอโดยปรับปรุงชั้น 2 ตึกแถวเก่าริมถนนสีลม ตรงซอยสีลม 20 ของครอบครัว ชื่อว่า The Hop Bangkok เพื่อเป็นจุดนัดพบและสอนการเต้นสวิง โดยจะเปิดคลับทุกวันอังคาร และวันเสาร์ ในช่วงค่ำตั้งแต่สองทุ่มไปจนถึงห้าทุ่ม โดยเสียค่าผ่านประตูเพียงแค่คนละ 200 บาท ยกเว้นว่าวันไหนที่มีแจ๊ซ ไลฟ์แบนด์มาเล่นดนตรีสดๆ ก็จะมีค่าผ่านประตูแพงขึ้นมาอีกนิด ส่วนคอร์สเรียนเต้นสวิงนั้น 6 ชั่วโมง ค่าเรียนชั่วโมงละ 400 บาท เท่านั้นเอง
“ครั้งหนึ่งเคยมีลูกศิษย์ชาวต่างชาติมาเรียน แล้วก็เดินทางไปประเทศอื่นต่อไป เวลาที่เขาในประเทศนั้นๆ เขาก็จะหาสถานที่ที่มีการเต้นสวิง เรียกว่าเป็น Travel Dancing เขากลับมาบอกว่าเขามีความสุขที่เขาไปในสถานที่ต่างๆ แล้วได้ไปเจอเพื่อนใหม่ที่เต้นสวิงเหมือนกัน ได้ถ่ายทอดการเต้นสวิงให้กับผู้อื่นต่อไปด้วย มันเป็นความสุขที่เขาได้ทำแบบนั้น จากที่เคยคิดเสียใจว่าพอสอนเขาเต้นเป็นแล้วเขาก็ไป แต่วันนี้ผมมีความสุขนะที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความสุขของคนอีกหลายคนจากการเต้นสวิง”
ไม่เพียงแต่จะเป็นพื้นที่สำหรับคนรักการเต้นสวิงเท่านั้น แต่ The Hop Bangkok นั้นยังพร้อมที่จะสนับสนุนงานศิลปะทุกรูปแบบอีกด้วย
“ผมเปิด The Hop Bangkok ด้วยสโลแกนที่ว่า A studio for art, Let the art design by you เพราะผมเป็นรักงานศิลปะ ผมออกแบบสตูดิโอนี่ให้รองรับงานศิลปะทุกแขนง เช่น เป็นสตูดิโอแสดงนิทรรศการภาพวาดก็ได้ เป็นโรงเรียนสอนศิลปะสำหรับเด็ก เรียนโยคะ เรียนวาดรูป สอนเต้นแท็ป ก็ได้ ผมทำตรงนี้ขึ้นมาไม่ได้หวังรวย แต่ผมอยากสนับสนุนคนทำงานศิลปะและคนที่สนใจงานศิลปะในเมืองไทยให้มีพื้นที่แสดงออก”
การเต้นสวิงสำหรับหนุ่มโอ๊ต ถือว่าเป็นสิ่งที่รัก แต่นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่จังหวะชีวิตสำคัญของหนุ่มคนนี้มีหน้าที่ในการดูแลธุรกิจของครอบครัว บริษัท เอ-เบสท์ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจที่คัดสรรและจัดจำหน่ายอาหารที่เป็นพืชผลทางการเกษตรที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพสู่มือผู้บริโภค ที่คุณแม่แดง – ลักขณา เริ่มต้นไว้เมื่อ 26 ปีที่แล้ว โดยปัจจุบัน โอ๊ต รับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ
“หลายคนอาจคิดว่าผมเรียนจบเศรษฐศาสตร์น่าจะไปทำงานเป็นนายแบงค์มากกว่า แต่ด้วยความที่เห็นคุณแม่ทำงานคลุกคลีทางด้านการเกษตรมาตลอด พอเราได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสกับงานตรงนั้น ทำให้รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ท้าทาย เพราะหนึ่งในสามของไทยคิดเป็น 20 ล้านคน ทำเกษตร แต่คนรุ่นใหม่ๆ ที่จะทำเกษตรมีน้อยลง ถึงผมจะเป็นกรรมการผู้จัดการแต่ก็ไม่ได้นั่งอยู่ในออฟฟิศอย่างเดียวแต่ลงไปดูตั้งแต่ต้นน้ำคือการผลิต ไปสวน ไปไร่ ไปดูแลผลผลิต ดูช่องทางการจัดจำหน่าย พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สำหรับตัวผมการทำธุรกิจนี้ผมจะบอกตัวเองและก็พนักงานเสมอว่า เราปลูกผัก ขายผัก แต่เราขายผักที่สดใหม่ นำเสนอสิ่งที่ดีมีคุณภาพต่อผู้บริโภค ฉะนั้นเราต้องภูมิใจและตั้งใจทำให้ดีที่สุด”
หนุ่มเท้าไฟ ทิ้งท้ายว่า เขาเป็นคนโชคดี เพราะเสร็จจากเวลาธุรกิจพอ เวลาที่เหลือก็ทุ่มเทให้กับสวิงแดนซ์และ The Hop Bangkok เรียกว่าเป็น “จังหวะชีวิตลงตัว” ที่สามารถทำในสิ่งที่รักสองอย่างได้พร้อมๆ กัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี