ในช่วงฤดูร้อนนี้ อุณหภูมิความร้อนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และมาพร้อมกับอากาศที่ทั้งร้อนอบอ้าวแถมแสงแดดก็แผดเผาเต็มกำลัง เล่นเอาสาวๆ หลายคนแพ็กกระเป๋าจัดทริปออกไปเที่ยวท้าลมริมทะเลกันแทบไม่ทัน สำหรับอากาศเมืองไทย แค่ก้าวเท้าออกจากบ้าน ต้องก็เจอกับแสงแดดตัวร้าย มลภาวะต่างๆ PM2.5 ที่คอยทำร้ายผิวเรา จนเกิดปัญหา ผิวแห้งกร้าน ไหม้เกรียม บวมแดงแสบร้อน ดูหมองคล้ำ จนถึงขึ้นผิวอักเสบ เป็นสิว เกิดฝ้าและกระ จุดด่างดำก็ตามมาเป็นพรวน
หากคุณสาวๆ จะหลบคลื่นความร้อนไปผ่อนคลายตามชายทะเล ออกไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งกันก็อย่าชะล่าใจต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคม ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และหากต้องเดินทางไปท่องเที่ยวทะเลช่วงนี้ อย่าปล่อยให้แสงแดดและอากาศร้อนมาหยุดความสนุกในซัมเมอร์นี้ วันนี้มีข้อมูลจาก ผศ.พญ.สุวิรากร ธรรมศักดิ์ แพทย์ผิวหนัง ผู้อำนวยการคลินิกสยามเดอร์มาติกส์ มาแนะนำวิธีรับมือกับแสงแดดและปกป้องผิวไม่ให้พังแบบไร้กังวลในช่วงฤดูร้อนแดดแรงกัน ดังนี้
ดื่มน้ำให้เพียงพอ ในยามที่ต้องเผชิญกับอากาศร้อนอบอ้าว หลังออกแดดนานๆ เราควรดื่มน้ำมากๆ เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกาย ทำให้ผิวชุ่มชื้น และยังเป็นตัวขนส่งสารอาหารที่ดีให้แก่เซลล์ผิว หลังจากโดนแดดแผดเผาผิวหน้าและผิวกายจะถูกดึงความชุ่มชื้นออกไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นในแต่ละวันคุณควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว เพื่อช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไปกับเหงื่อ นอกจากนี้การดื่มน้ำยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคลมแดด หรือ Heat stroke จากการใช้แรงในการทำกิจกรรมกลางแจ้งอีกด้วย
ปกป้องผิวจากตัวการร้าย ศัตรู อันดับต้นๆ ของผิวคงหนีไม่พ้นแสงแดด ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดโดยตรง โดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00-15.00 น.เพราะช่วงนี้จะมีรังสีอัลตราไวโอเลตเข้มข้นมากที่สุด แต่ถ้าคิดจะเที่ยวในฤดูร้อนหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งใดๆ อย่าลืมพกอุปกรณ์กันแดด เช่น ร่ม หมวก เสื้อแจ๊กเกตแขนยาว และแว่นกันแดด เพื่อปกป้องผิวและสายตา
ไอเทมปกป้องแดด ในช่วงที่แดดแรงแบบนี้ สารกันแดด ถือเป็นไอเทมสำคัญที่ขาดไม่ได้เด็ดขาด แม้จะอยู่ใต้ร่มไม้หรือชายคาบ้านก็ยังมีโอกาสได้รับรังสี UV เหมือนกับเวลาที่อยู่กลางแดด เพราะพื้นทราย พื้นน้ำ พื้นคอนกรีต สามารถสะท้อนรังสี UV เข้าสู่ผิวกายได้ หรือแม้กระทั่งในวันที่มีเมฆหมอกหนาก็ยังคงต้องทาครีมกันแดด และอย่าลืม เลือกที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป มีค่า PA+++ที่ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB และถ้าจะให้ดี ต้องทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะเมื่อมีเหงื่อออกมากๆ หรือหลังจากการลงเล่นน้ำถ้าผิวหน้าเป็นคนที่แพ้ง่าย ควรใช้สารกันแดด สำหรับหน้าโดยเฉพาะ เลือกแบบที่เป็นโลชั่นจะเหมาะกับคนที่เป็นสิวง่าย สารกันแดดหน้าใช้ทาตัวได้ แต่สารกันแดดตัวไม่ควรเอามาทาหน้า
เติมอาหารจากธรรมชาติ ความสวยต้องเริ่มจากภายในสู่ภายนอก ด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และเลือกรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน จากผักสดผลไม้ต่างๆ เพื่อช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นและช่วยยับยั้งผลของรังสียูวีเอที่มีผลให้เกิดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว นอกจากนี้การรับประทานผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น แบล็กเคอร์แรนท์ บิลเบอร์รี่ ซึ่งมีสารแอนโธไซยานินสูง เพื่อช่วยให้ดวงตามีสุขภาพดีและปกป้องดวงตาจากอนุมูลอิสระต่างๆ รวมถึงรังสี UV และ แสง blue light จากหน้าจอมือถือและคอมพิวเตอร์ ได้อีกด้วย ถือเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
มาออกกำลังกายกันเถอะ เตรียมฟิตร่างกายเพื่อพร้อมเที่ยว การออกกำลังกายช่วยให้เลือดไหลเวียนนำสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ผิวหนังและส่วนต่างๆ ของร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ รวมถึงเซลล์ผิวที่เสียหายหรือถูกรุกรานจากแสงแดดและมลภาวะต่างๆ ได้ดีขึ้นจึงทำให้ดูเปล่งปลั่งสดใสสุขภาพดี นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยขับของเสียออกจากร่างกายอีกด้วย
พักผ่อนให้เพียงพอ หลายๆ คนเข้าใจว่าการนอนหลับให้ได้อย่างน้อยวันละ6-8 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว แต่การนอนหลับที่ดีนั้นควรหลับให้สนิทตั้งแต่ 4 ทุ่ม เนื่องจากสมองจะผลิตโกรทฮอร์โมน ที่มีส่วนช่วยซ่อมแซมเซลล์ เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน มีความชุ่มชื่น และช่วยฟื้นฟูให้ความสวยความงามกลับมาอีกครั้ง
ถ้าปฏิบัติได้เพียงเท่านี้ คุณก็จะมีผิวสวย สดใส พร้อมที่จะรับลมร้อนซัมเมอร์นี้ได้อย่างมั่นใจ
สำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยนี้ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะร่วมทำบุญสร้างกุศลกับโรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยา ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ยังขาดแคลนงบประมาณจำนวนมาก ส่งผลถึงน้องๆนักเรียนตาบอดโดยตรง จึงจัดกิจกรรมสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่ด้วยการขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อการศึกษาของผู้พิการ เพื่อยกคุณภาพชีวิต สู่การศึกษาอย่างต่อเนื่องพร้อมจัดหาทุนซื้ออุปกรณ์การเรียนและหารายได้จัดหาค่าใช้จ่ายทั่วไป เช่นค่าอาหาร ค่าน้ำ-ค่าไฟ และปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในสถานศึกษา สามารถเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีฯในครั้งนี้ได้ กองบุญละ 59 บาท จำนวน 1 แสนกอง หรือบริจาคโดยตรงได้ที่ โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาในพระราชูปถัมภ์ฯโดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพัทยาสาย 2 เลขบัญชี 669-2-10787-4 ชื่อบัญชี “ทุนบรมราชกุมารีเพื่อคนตาบอด (2536)” ทั้งนี้นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี