สถานการณ์ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทและส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวของผู้คนในทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรวดเร็ว และมีการปรับตัวทางเทคโนโลยีในระบบบริการสุขภาพดิจิทัลที่เกิดขึ้นหลากหลายรูปแบบ เพื่อรองรับการรักษาโรคด้วยแนวทางใหม่ๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อการเตรียมรับมือ ป้องกัน และรักษาโรคต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการทางการแพทย์และสุขภาพที่ทันสมัยอย่างทั่วถึง
การเตรียมพร้อมในด้านการสร้างบุคลากรในแวดวงการแพทย์และสาธารณสุขที่มีความเชี่ยวชาญ เสริมทักษะความรู้ดิจิทัลเฉพาะเพิ่มเติมในการทำงานของโลกยุคปัจจุบัน จึงถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะก้าวสู่ความสำเร็จในระยะยาว ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในฐานะหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ที่จะนำวิทยาการขั้นสูงและนวัตกรรมไปใช้ในการดูแลคนไทยทุกคนให้สามารถเข้าถึงสุขภาวะที่ดี เพื่อความเป็นเลิศในทุกชีวิต ตามพระปณิธานใน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จึงได้จัดงานเสวนาแบบไฮบริด “CRA Digital Health” เปิดมุมมอง-สร้างทักษะดิจิทัลเทรนด์ทางการแพทย์และสาธารณสุขแห่งยุคศตวรรษที่ 21 พร้อมเปิดตัวหลักสูตร CRA DigitalHealth Program หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขภาพดิจิทัล จากวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒนราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เมื่อเร็วๆ นี้ ณสตูดิโอเนชั่น ทาวเวอร์ และออนไลน์ผ่านทางช่อง CRA Chulabhorn Channelโดยมี ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้มุมมองวิสัยทัศน์ภาพรวมดิจิทัลเทรนด์ทางการแพทย์และสาธารณสุขในประเทศไทยในหัวข้อ Digital Health Transformation และการขับเคลื่อนของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ในการส่งเสริมการพัฒนา Digital Health Initiatives ทั้งในระดับองค์กรและระดับประเทศพร้อมด้วย ศ.ดร.พญ.จิรายุ เอื้อวรากุลคณบดีวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒนราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ร่วมเปิดมุมมองเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อการแพทย์แห่งอนาคตของวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒนราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่รองรับการสร้างทักษะและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้มีศักยภาพในการทำงานด้านสุขภาพดิจิทัล และเปิดตัวหลักสูตรน้องใหม่ CRA Digital Health Program โดยร่วมเสวนากับคณาจารย์จากวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์
ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้เผยภาพรวมดิจิทัลเทรนด์ทางการแพทย์และสาธารณสุขในประเทศไทยว่า “จากวิกฤตโควิด-19ทำให้อุตสาหกรรมการแพทย์และสาธารณสุขนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลากหลายรูปแบบ โดยภาพรวมของดิจิทัลเทรนด์ทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เกิดขึ้น อาทิ การนำระบบจัดเก็บและบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data Analytics มาใช้ร่วมกับการเรียนรู้ของเครื่อง Machine Learning และ AI ปัญญาประดิษฐ์ในการจัดการข้อมูลเชิงเวชสารสนเทศมุ่งเน้นการสร้างบริการสาธารณสุขที่ทุกคนเข้าถึงได้ผ่านการใช้เทคโนโลยี เช่นการพัฒนาและต่อยอดระบบ Telemedicineให้สอดคล้องกับกระบวนการรักษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การลงทุนในระบบ IT Infrastructure เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเร่งด่วนให้สามารถขยายบริการสาธารณสุขในแบบดิจิทัลได้อย่างคล่องตัวเทคโนโลยี Internet of Things หรือ IoTเพื่อเปิดช่องทางการรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยที่นำไปสู่การรักษาในเชิงรุกจากทุกที่ทุกเวลา รวมทั้งการพัฒนาระบบ การรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้รับบริการก็ได้รับความสำคัญสูงเช่นกัน การให้ความสำคัญกับสุขภาพดิจิทัล ต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะด้านสุขภาพดิจิทัลเพิ่มเติม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะส่งผลให้โรงพยาบาลหรือหน่วยงานสาธารณสุขไทยสามารถวางแผนโครงการ Digital HealthTransformation ในระบบบริการสุขภาพที่ก้าวสู่ความสำเร็จในระยะยาว”
ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ ยังได้กล่าวถึงเพิ่มเติมถึงการขับเคลื่อนราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ให้เป็นองค์กรที่นําวิทยาการขั้นสูงและนวัตกรรมไปใช้ในการดูแลคนไทยทุกคนให้สามารถเข้าถึงสุขภาวะที่ดี เพื่อความเป็นเลิศในทุกชีวิตโดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการนำวิทยาศาสตร์สุขภาพและเทคโนโลยีไปใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ตามพระปณิธานขององค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยมีกรอบยุทธศาสตร์ 6 ปี ตั้งแต่ปี 2565-2570 ที่จะปฏิรูปราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ทั้งในด้านการจัดการเรียนการสอน การวิจัย การบริการสุขภาพสู่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ นำการบริหารจัดการไปสู่ Digital Ecosystem โดยเชื่อมต่อหลายระบบ หลายบริการเข้าด้วยกันเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้รับบริการในแต่ละกลุ่มและเพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการที่สร้างเสริมสุขภาวะที่ดี ล่าสุดได้พัฒนาและจัดทำหลักสูตร “CRA Digital Heath” เพื่อเตรียมพร้อมบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และวางรากฐานเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ที่จะช่วยพัฒนาบริการสุขภาพสู่คนไทยทุกคน
ศ.ดร.แพทย์หญิงจิรายุ เอื้อวรากุล
ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง จิรายุ เอื้อวรากุล คณบดีวิทยาลัย แพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวแนะนำหลักสูตรน้องใหม่CRA Digital Health Program“หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขภาพดิจิทัล ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับระบบบริการสุขภาพในเร็ววัน ด้วยวิกฤตการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมดิจิทัลให้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งการเกิดขึ้นของหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขภาพดิจิทัล จะทำให้เกิดการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถในการพัฒนาและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลด้านสุขภาพ ได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยจะมีนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลสุขภาพ นักวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ นักเทคโนโลยีสารสนเทศด้านสุขภาพ นักพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ นวัตกรหรือนักวิจัยด้านสุขภาพดิจิทัล นักบริหารฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ออกสู่ตลาดแรงงานขั้นสูง ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ นอกจากความรู้ด้านวิชาการความเชี่ยวชาญเฉพาะของแต่ละสาขาอาชีพแล้ว บุคลากรทางการแพทย์จะต้องเป็นผู้ที่มีความทันต่อโลกของข้อมูล และคิดแบบดิจิทัล สามารถค้นหาข้อมูลได้ด้วยตนเอง และเชี่ยวชาญการรักษาควบคู่กับการทำวิจัยสร้างนวัตกรรม โดยในหลักสูตร CRA Digital HealthProgram ของเราได้มุ่งเน้นการติดอาวุธด้านสุขภาพดิจิทัลให้กับบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ แพทย์ พยาบาลเภสัชกร ทันตแพทย์ ฯลฯ ให้มีศักยภาพในการทำงานด้านสุขภาพดิจิทัล เพื่อทำให้ระบบบริการสุขภาพมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และส่งเสริมความเท่าเทียมในการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพที่เหมาะสมทั่วถึง และยั่งยืนสำหรับทุกคน”
ผู้ที่สนใจสมัครเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาสุขภาพดิจิทัล วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-5766600ต่อ 8476 หรือ ช่องทาง Social Mediaคือ Facebook : Digital Health PSCM หรือที่ http://.medical.pccms.ac.th เปิดรับสมัครจำนวนจำกัด เพียง 15 ท่าน โดยรอบที่ 2 เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้-30 เมษายน 2565 นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี