วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เทคโนโลยีการ “ฝากไข่” เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยในเรื่องของการมีบุตรของสตรีวัยเจริญพันธุ์เป็นที่ยอมรับกันมากว่า 30 ปีแล้ว และในประเทศไทยเองก็กำลังเป็นที่สนใจของกลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน ที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตรอาจจะด้วยวัยภาระหน้าที่ในการงานหรือเหตุผลหลักๆ คือ ยังไม่เจอคนที่ใช่ คนที่จะเป็นพ่อของลูก ทำให้เทคโนโลยีการฝากไข่ ค่อนข้างเป็นที่นิยมของผู้หญิงที่วางแผนจะมีบุตรในอนาคต
แพทย์หญิงศศวิมล ปรีชาพรกุลผู้อำนวยการแพทย์ประจำจีเนีย ไอวีเอฟแอนด์เจเนติกส์ สหคลินิก จาก Genea ผู้นำด้านเทคโนโลยี และทีมพัฒนาการมีบุตรด้วยวิธีการฝากไข่ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า“วิทยาการการแพทย์ในปัจจุบันถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือคนไข้ที่ต้องการมีบุตรในวัยที่เริ่มยากขึ้น นี่คือประเด็นการรักษาผู้มีบุตรยากในปัจจุบัน เมื่อวิทยาการก้าวหน้าขึ้น เทคโนโลยีที่จะเก็บรักษาไข่ หรือเซลล์สืบพันธุ์ของมนุษย์เจริญก้าวหน้าไปได้ไกลขึ้น เราสามารถเก็บรักษาและนำกลับมาใช้ได้จริง ทำให้เกิดเทรนด์ของการเก็บรักษาไข่ไว้ แต่สำหรับหมอ มันคือส่วนหนึ่งของการให้ทางเลือกแก่คนไข้ หรือให้โอกาสที่เพิ่มขึ้นแก่คนไข้”
การเก็บไข่ที่สมบูรณ์ที่สุดจะอยู่ในช่วงอายุ 25-28 ปี จะให้ดีคือไม่ควรเกิน 35 ปี และไข่สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานกว่า 10 ปีด้วยการแช่แข็งซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี เราพบการว่าการเก็บรักษาไข่ไว้ตั้งแต่ 20 ต้นๆเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะเก็บไข่ไว้ใช้ในอนาคตตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วการเก็บไข่คือเก็บไปได้เรื่อยๆ ตราบนานเท่านาน ไม่มีการหมดอายุ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันมีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา ขึ้นอยู่กับสถาบัน โดยทั่วไปแล้วก็ 2-3 ปีต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้ง ซึ่งก็มีกรณีตัวอย่างในต่างประเทศ หญิงชาวยุโรปเก็บไข่ตัวเองมา 20 ปี เพิ่งนำออกมาใช้ยิ่งผู้หญิงเก็บไข่เร็วเท่าไหร่ คุณภาพไข่ดีกว่าตอนที่อายุเพิ่มมากขึ้น ยังไงไข่ตอนอายุ 25 ก็ต้องดีกว่าตอนอายุ 35 อย่างแน่นอน
“แต่ก็ไม่ได้การันตีว่า เมื่อเก็บไข่ไว้แล้ว แล้วจะสามารถมีบุตรได้แน่นอนในอนาคต แต่เป็นการเพิ่มโอกาสที่เราจะมีลูกเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้เก็บไข่ไว้เลย ก็มีโอกาสมากกว่า
อีกทั้ง เทคโนโลยีที่ดีก็จะมีผลมากกว่าที่จะช่วยให้คนไข้มีบุตรได้สำเร็จตามความตั้งใจ เพราะทุกอย่างของกระบวนการมันคือการเลียนแบบธรรมชาติ ทำให้เหมือนธรรมชาติให้มากที่สุด โดยอยู่นอกร่างกาย มันไม่ใช่เรื่องง่าย กระบวนการผสมของไข่กับสเปิร์ม การฝังตัวมันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ ทั้งการเจริญเติบโตของตัวอ่อน เด็กหลอดแก้วคือการเลี้ยงตัวอ่อนภายนอกร่างกาย เทคโนโลยีที่สามารถทำให้ตัวอ่อนเหมือนอยู่ในร่างกายมากที่สุดคือมีความสำคัญมาก ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในการรักษาของแพทย์ก็มีผลควบคู่กันไปด้วยกับเทคโนโลยี ขาดไปอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ปัจจุบันยิ่งล้ำหน้าไปอีกด้วยการที่ครอบครัวสามารถดูการเติบโตตัวอ่อนไปด้วยกันได้เลย”
“ในฐานะแพทย์ด้าน Reproductive อยากให้คนเห็นความสำคัญของ Family Planning มากขึ้น อยากมีบุตรตอนอายุเท่าไหร่ กี่คน ผู้หญิงผู้ชาย ฉะนั้นการเก็บไข่ การเก็บสเปิร์มคือการวางแผนครอบครัว สำหรับอนาคตที่เราควบคุมไม่ได้ที่ดีที่สุด เช่น การฝากไข่คือการวางแผนครอบครัว การจะมีลูกกี่คน เมื่อไหร่ ตอนอายุเท่าไหร่ ห่างกันกี่ปี สมมุติว่าคนทั่วไปอยากมีลูก 2 คน มีลูกคนแรกตอนอายุ 35 ปี จะมีลูกอีกคนตอนอายุเท่าไหร่ คนส่วนมากไม่มีการวางแผนไว้ก่อน ส่วนมากจะมีคนแรกแล้วก็คิดว่าจะมีอีกคนก็ไม่น่าจะยาก คนไข้แต่งงานช้ามีลูกคนแรกโดยวิธีธรรมชาติตอนอายุ 37 ปี เลี้ยงลูกคนแรกผ่านไป 3 ปี อยากจะมีลูกอีกคนก็อายุ 40 ปีแล้วมีลูกยากแล้ว ย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว เทคโนโลยีการรักษาผู้มีบุตรยากนอกจากจะช่วยคนไข้เรื่องมีบุตรแล้วยังช่วยในเรื่องของการวางแผนครอบครัวด้วยเช่น มาพบหมอตอนอายุ 37 ปีว่าจะมีลูกคนแรกแล้วตอนอายุ 40 ปีอยากมีอีกคน ก็จะกระตุ้นไข่เก็บไข่ เก็บตัวอ่อนไว้ และจะมีเองสำหรับคนแรกเพศหญิงหรือชายก็ได้ แต่คนที่ 2 จะกลับเข้ามาใส่ตัวอ่อนที่แช่แข็งไว้ ซึ่งนั่นแปลว่าเมื่อตอนอายุ 40 ปี ครอบครัวนี้ก็มีสิทธิที่จะเลือกว่าอยากมีลูกชาย หรือลูกสาวเป็นคนต่อไป อย่างไม่ลำบากชีวิต ไม่เหนื่อย ไม่ลำบาก โอกาสเยอะกว่าคนอื่นที่ไม่ได้วางแผนมาก่อน หรืออีกเคส ผู้หญิงแต่งงานตอนอายุน้อย วางแผนครอบครัวกันดีมาก มาทำเด็กหลอดแก้วไว้เลย แล้วไปมีลูกเองแบบธรรมชาติมา 3 คน เป็นผู้หญิงหมดเลย พออยากมีลูกผู้ชาย ก็มาเลือกตัวอ่อนที่เป็นผู้ชายได้เลย เป็นลูกคนสุดท้าย ไม่ต้องมาคอยลุ้น”
กรณีกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องเข้าสู่การรักษา การทำคีโมมีผลต่อการทำงานของรังไข่ในอนาคต ถ้าตรวจพบโรคเร็ว มีเวลามากพอที่จะมาเก็บไข่ไว้ ทั้งไข่ทั้งสเปิร์ม ถือว่าดี กว่าเป็นการเพิ่มโอกาสให้ตัวเองได้มากกว่า รวมถึงโรคอื่นๆ ที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ที่อาจจะส่งผลต่อรังไข่และสเปิร์ม ก็ควรเก็บไว้
สเปิร์ม ก็มีความสำคัญสามารถเก็บได้ตลอดเช่นกัน เพราะเป็นการเก็บรักษาแบบผลึกแก้ว จะไม่เป็นการทำลายเซลล์ ผู้ชายเมื่ออายุเยอะแล้วสเปิร์มก็ไม่แข็งแรงตามไปด้วย การเคลื่อนไหวลดลง รูปร่างผิดปกติมากขึ้น มีจำนวนน้อยลง คุณภาพน้อยลง อัตราการเกิดความผิดปกติในเด็กจากคุณพ่อที่มีอายุเยอะก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน แม้จะเกิดขึ้นน้อยกว่าผู้หญิงก็ตาม ฉะนั้นการเก็บสเปิร์มไว้ใช้ในอนาคตก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะผู้ชายสมัยนี้ใช้ชีวิตโลดโผน ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ แอดเวนเจอร์เล่นกีฬาต่างๆ แต่หากว่าเก็บสเปิร์มไว้ก่อนสามารถเลือกสเปิร์มที่ดีที่สุดเก็บไว้ได้เลย ไม่ต้องกระตุ้นอะไร ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาก็ถูกกว่าของผู้หญิงมาก 1 ใน 10 เลย ผู้ชายบางคนมัวแต่ทำงาน แล้วรวยตอนอายุ 60 ปี แต่ไม่มีสเปิร์มแล้ว ไม่มีลูก ไม่มีหลานมาต่อยอดธุรกิจแล้ว
หากมีการวางแผนทำหมันในผู้ชายก็สามารถมาเก็บสเปิร์มไว้ก่อนได้เช่นกันเผื่ออนาคตเปลี่ยนแผน เพราะถ้าไม่เก็บสเปิร์มไว้แล้วทำหมันไป เมื่อเปลี่ยนใจอยากมีบุตรอีกก็ต้องใช้วิธีดูดสเปิร์มออกจากอัณฑะแทน ซึ่งเจ็บมาก หรือผู้หญิงที่ทำหมันแล้ว ก็สามารถมาเก็บไข่ ทำเด็กหลอดแก้ว ผสมนอกร่างกายและใส่กลับเข้าไปได้”
หรือแม้แต่กลุ่ม LGBTQ ด้วยความที่ตอนนี้กฎหมายไทยยังไม่ผ่าน จะมีแค่การข้ามเพศ เช่น คนไข้ผู้หญิงที่จะมีการข้ามเพศไปเป็นผู้ชาย ซึ่งจะต้องมีการตัดรังไข่ทิ้ง เพื่อกินฮอร์โมน แต่เขาไม่ได้ตัดมดลูกออก มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ก็อาจจะมาเก็บไข่ไว้ เพื่อใช้ในอนาคต และในอนาคตหากกฎหมายเปลี่ยนแปลงไป ก็สามารถนำมาใช้ได้ หรือคนไข้ผู้ชายที่กำลังจะแปลงเพศต้องตัดอัณฑะทิ้ง ก็อาจจะมาเก็บสเปิร์มไว้ได้ เผื่อจะใช้ เพราะตอนนี้เพศสภาพมันหลากหลายมาก มันไม่ได้จำกัดแค่ชายรักชาย หญิงรักหญิงอีกต่อไปแล้ว และ LGTBQ ก็มีสิทธิที่จะเข้าถึงการรักษาขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของกฎหมายของแต่ละประเทศ ซึ่งเราก็ไม่รู้อนาคตว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ฉะนั้น การเก็บรักษาไข่ รักษาอสุจิเอาไว้ ก็เป็นสิทธิของเขาที่จะทำได้”
ท้ายสุด แพทย์หญิงศศวิมล กล่าวว่าเทคโนโลยีการรักษาผู้มีบุตรยาก ก็จะตรงไปตรงมามีลูกยากก็รักษาไป แต่ที่ยากคือการเก็บรักษาเซลล์สืบพันธุ์มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นไข่ หรือสเปิร์ม เรื่องเหล่านี้ไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในบทเรียน เด็กผู้หญิงควรต้องรู้ว่า เรามีโอกาสในการมีบุตรในอนาคตมากแค่ไหนต้องมีความรู้เรื่องการเก็บรักษาเซลล์สืบพันธุ์ไว้ได้ เรื่องเหล่านี้มันถูกจำกัดความรู้ในวงแคบ เด็กผู้หญิงในที่ห่างไกลจากความเจริญ หรือไม่ได้อยู่ในเรื่องที่เขาสนใจก็ไม่มีโอกาสรับรู้ หรืออาจคิดว่ามันคือเรื่องไกลตัวแต่ในความจริงมันควรถูกบรรจุอยู่ในวิชาสุขศึกษา รวมถึงการมีบุตรอย่างไรให้ถูกต้องมีบุตรให้เหมาะสมกับวัย มีบุตรเมื่อไหร่ วิชานี้เป็นการวางแผนครอบครัว ประจำเดือน การกินยาคุมกำเนิด การวางแผน และการดูแลตัวเองจนถึงในวัยทอง
ช่องทางการติดตาม “Genea Thailand” มีดังนี้ Website : https://www.genea.co.th
Facebook : https://www.facebook.com/geneathailand Instagram : @geneathailand Line : @genea และโทร. 02-0261720-9 / 061-839886
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี