การประสบความสำเร็จเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการให้บุตรหลานมีอนาคตที่ดี นอกจากต้องเลี้ยงดูให้เด็กมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะสุขภาพดีถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เด็กๆ ต้องได้รับอาหารครบมื้อครบหมู่ตามความต้องการของร่างกาย และการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อสุขภาพกายที่แข็งแรง การเจริญเติบโตและพัฒนาการที่สมวัย รวมถึงการดูแลเอาใจใส่ด้วยความรัก ความห่วงใย เพื่อเป็นแรงผลักดันให้ลูกรักเป็นเด็กที่ฉลาดและก้าวทันโลกกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถ้าเด็กเรียนเก่งเด็กอัจฉริยะแต่สุขภาพอ่อนแอก็อาจจะแย่กว่า เด็กเรียนดีปานกลางแต่รู้จักปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น พ่อแม่ยุคดิจิทัลและคนยุคใหม่จำเป็นต้องปรับตัวให้รู้เท่าทันและไม่หยุดนิ่งที่จะเรียนรู้พัฒนาทักษะขีดความสามารถให้ก้าวทันสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทั้งทางสังคม เศรษฐกิจการศึกษา และเทคโนโลยี เพื่อเตรียมพร้อมบุตรหลานของเราก้าวเข้าสู่โลกอนาคต และช่วยเพิ่มโอกาสให้พวกเขาประสบความสำเร็จ
“ทักษะสำหรับอนาคต” หรือ “Skills for the Future” มีการพูดถึงกันมากในระยะหลัง มีบทความที่น่าสนใจของ ศาสตราจารย์ กาย ลิตเติ้ลแฟร์ (Professor Guy Littlefair) จาก Auckland University of Technology ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำในรูปแบบการเรียนรู้ที่เป็นนวัตกรรมใหม่และสนับสนุนการเรียนรู้แบบลงปฏิบัติ ที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง และเป็นประเทศที่ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต จากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเตรียมนักเรียนให้พร้อมสำหรับอนาคตของการทำงาน
ข้อมูลจาก ศาสตราจารย์กาย ลิตเติ้ลแฟร์ ระบุว่า ผู้นำที่จะประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องเป็นนักแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ มีทักษะแก้ไขปัญหาเชิงสร้างสรรค์, พัฒนาวิธีแก้ปัญหาที่ซับซ้อน, แสดงความเห็นอกเห็นใจ, มีทักษะในการจัดการผู้คนและการสื่อสาร รวมถึงวิธีจัดการกับวัฒนธรรมที่แตกต่างกันและการติดต่อในเวลาที่แตกต่างกันและวิธีการดำเนินธุรกิจในโลกยุคโลกาภิวัตน์ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะแก้ไขด้วยการทำงานอย่างโดดเดี่ยว ต้องมีความสามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมและข้ามพรมแดนได้ ทั้งนี้ปรัชญาการเรียนรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคต (Skills for the Future) ต่อการแข่งขันในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ควรประกอบไปด้วย 6 ทักษะที่สำคัญ ได้แก่
(1.) ทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (DIGITAL CAPABILITY; Technology Design and Programming) เป็น
- ทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล มีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จในปัจจุบันและอนาคตเนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกิจ การลงทุน และผู้มีอำนาจตัดสินใจ รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลจำเป็นต้องมีธุรกิจ การเป็นพันธมิตรกับภาครัฐบาลและภาคธุรกิจเอกชน
(2.) ทักษะความสามารถด้านการสร้างแรงจูงใจ (MOTIVATIONAL SKILLS; Leadership, Management and Drive)
- ทักษะการเป็นผู้นำจำเป็นต้องมีความมุ่งมั่นความทุ่มเท การจัดการและแรงผลักดัน
(3.) ทักษะความสามารถในการปรับตัว (ADAPTABILITY; Continuous Learning)
- เป็นผู้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องเรียนและเรียนรู้ไปตลอดชีวิต
-การจะประสบความสำเร็จในอนาคตความสามารถในการเรียนรู้ในงานและชีวิตมีความสำคัญเท่า
เทียมกัน
-ในอนาคตแทนที่จะมีการเรียนรู้แบบปิด เราต้องมีการฝึกอบรมในรูปแบบขององค์กรเพื่อรองรับอุตสาหกรรมและธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
(4.) ความเห็นอกเห็นใจ (EMPATHY; Respect, Intuition and Understanding)
- เคารพซึ่งกันและกัน การรู้โดยสัญชาตญาณและความเข้าใจซึ่งกันและกัน
- มีความหลากหลายและวิธีการพูดคุยกับพนักงานและหัวหน้า หรือผู้บังคับบัญชา
-ความเป็นผู้นำที่มีความเห็นอกเห็นใจ และมีความเข้าใจที่แท้จริง
(5.) ความอยากรู้อยากเห็น (CURIOSITY; Critical Thinking and Analysis)
- การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการวิเคราะห์
- อย่ากลัวที่จะล้มเหลวครั้งใหญ่ แต่จงเรียนรู้ที่จะล้มเหลวอย่างรวดเร็ว
- ความรู้ที่ได้รับจากการล้มเหลว จะเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในอนาคต
(6.) ทักษะความสามารถด้านการสื่อสาร (COMMUNICATION; Creativity, Originality and Initiative)
- ความคิดสร้างสรรค์ ความคิดริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ และแผนการดำเนินการเป็นส่วนสำคัญ ควรใช้เวลาในการทำความรู้จักกับ
สิ่งที่ทำอยู่ให้ชัดเจนเกี่ยวกับปัญหาก่อนที่จะลองลงมือแก้ไข การตั้งคำถามก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันที่จะต้องรู้ว่าอะไร ทำไม และอย่างไร
ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่และคนรุ่นใหม่ทั้งหลายจึงต้องเตรียมความพร้อมและการเรียนรู้ รวมทั้งการหาประสบการณ์เพื่อให้ได้มาซึ่งทักษะดังกล่าวได้แล้ว ความสำเร็จในอนาคตในยุคดิจิทัลนี้ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
ผศ. (พิเศษ) ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี