วันพุธ ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : โรคฝีดาษลิง อะไรคือสิ่งที่คนต้องระวัง

รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : โรคฝีดาษลิง อะไรคือสิ่งที่คนต้องระวัง

วันจันทร์ ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 06.05 น.
Tag :
  •  

จากข้อมูลการแพร่ระบาดโรค ฝีดาษลิง หรือ Monkeypox ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ล่าสุดพบผู้ป่วยแล้วประมาณ 300 รายทำให้โรคนี้กำลังเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิดของผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขทั่วโลก

โรคฝีดาษลิงเกิดจากการติดเชื้อ Monkeypox virus ค้นพบครั้งแรกปี พ.ศ. 2501 (ค.ศ. 1958) ในสัตว์จำพวกลิงนอกจากนี้ยังพบรายงานในสัตว์ตระกูลฟันแทะ เช่น กระรอก หนู กระต่าย เป็นต้น และเริ่มพบการระบาดในคนครั้งแรกในประเทศคองโก เมื่อปี พ.ศ. 2513 (ค.ศ. 1970) และพบรายงานผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้นในแถบแอฟริกากลางและตะวันตก


อาการแสดงของโรคในคนจะมีลักษณะคล้ายกับโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (Smallpox) แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า ระยะเวลาฟักตัวของโรคประมาณ 5-21 วัน โดยอาการเริ่มแรกจะพบว่ามีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโตหนาวสั่น อ่อนเพลีย หลังจากนั้นประมาณ 1-3 วัน จะเริ่มพบผื่นขึ้นบริเวณใบหน้าแล้วกระจายไปตามลำตัว โดยผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนองและเกิดเป็นสะเก็ดหลุดลอก ระยะเวลาการป่วยอยู่ในช่วงประมาณ 2-4 สัปดาห์ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากโรคได้เอง อย่างไรก็ตาม อาจพบอาการรุนแรงโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยเด็ก ซึ่งในประเทศแอฟริกาพบอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 1-10

การติดต่อของเชื้อ Monkeypox virus เกิดจากการสัมผัสเชื้อจากสัตว์ คน หรือสิ่งของปนเปื้อน ทำให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนัง ทางเดินหายใจ หรือเยื่อเมือกบริเวณตา จมูกหรือปาก นอกจากนี้ยังพบการแพร่กระจายของเชื้อจากสัตว์สู่คนจากการถูกกัดหรือข่วน รวมถึงการประกอบอาหารที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ แม้ว่าการติดต่อจากคนสู่คนยังพบรายงานน้อยมาก แต่เชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายผ่านละอองฝอยขนาดใหญ่ ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อผ่านสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ ผิวหนังที่เป็นตุ่มหนอง หรืออุปกรณ์ที่มีการปนเปื้อนเชื้อ

ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาที่จำเพาะกับโรคฝีดาษลิง แต่เนื่องจากเชื้อมีลักษณะใกล้เคียงกับไวรัสไข้ทรพิษ ทำให้การฉีดวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษ หรือที่เรารู้จักกันคือ การปลูกฝี จึงสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงได้ สามารถป้องกันโรคนี้ได้ร้อยละ 85 

อย่างไรก็ตามในช่วงปี พ.ศ. 2523 (ค.ศ. 1980) ได้มีการกวาดล้างโรคไข้ทรพิษ ทางองค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่าโลกปราศจากโรคไข้ทรพิษแล้ว จึงยุติการฉีดวัคซีน ส่งผลให้เด็กที่เกิดช่วงหลังปี พ.ศ. 2523 (ค.ศ. 1980) จึงไม่ได้รับวัคซีนไข้ทรพิษอีก จึงเป็นกลุ่มเสี่ยงการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงมากกว่าประชากรกลุ่มอื่น ๆ 

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาการใช้ยาต้านไวรัส ได้แก่ cidofovir, brincidofovir (CMX001), tecovirimat (ST-246) ซึ่งมีประสิทธิผลในการรักษาโรคฝีดาษลิง แต่พบข้อมูลเฉพาะในหลอดทดลองหรือสัตว์ทดลองเท่านั้น รวมถึงการให้แอนติบอดีเสริมภูมิต้านทานคือ Vaccinia Immune Globulin (VIG)

สำหรับการป้องกันโรคฝีดาษลิง ในปัจจุบันมีวัคซีนเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์เพียงชนิดเดียวที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2562 (ค.ศ. 2019)  คือ วัคซีน JYNNEOSTM หรือที่รู้จักกันในชื่อ Imvamune หรือ Imvanex ซึ่งแนะนำให้ใช้ในผู้มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป โดยฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ครั้งละ 0.5 มิลลิลิตร จำนวน 2 เข็ม ห่างกัน 4 สัปดาห์สำหรับอาการไม่พึงประสงค์ที่พบบ่อยหลังรับวัคซีนนี้ คือ ปวด บวมแดง คันบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน 

อย่างไรก็ตาม วัคซีนนี้ถูกจัดเก็บโดยองค์การอนามัยโลกสำหรับกรณีฉุกเฉิน หรือใช้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ใกล้ชิดกับโรคฝีดาษเท่านั้น ดังนั้นวิธีการป้องกันและควบคุมโรคที่ดีที่สุดสำหรับประชาชนหรือกลุ่มเสี่ยง ตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แก่

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือสัตว์ป่า

2. หลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ

3. หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ เมื่อสัมผัสสัตว์ หรือคนที่ติดเชื้อ หรือเมื่อต้องเดินทางเข้าไปในป่า

4. ไม่นำสัตว์ป่ามาเลี้ยง หรือนำเข้าสัตว์จากต่างประเทศ โดยไม่ผ่านการคัดกรองโรค

5. กรณีเดินทางกลับจากประเทศที่เป็นเขตติดโรค ต้องผ่านการคัดกรอง และเฝ้าระวังอาการจนครบ 21 วัน หากมีอาการเจ็บป่วยให้รีบพบแพทย์ทันที และต้องยกกักตัว เพื่อมิให้โรคแพร่กระจายเชื้อ

สรุป โรคฝีดาษลิงไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ แต่เป็นโรคติดเชื้อไวรัสในตระกูลไข้ทรพิษหรือฝีดาษ สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คน และคนสู่คน ส่วนใหญ่ผู้ป่วยสามารถหายจากโรคได้เอง แต่มักพบอาการรุนแรงในเด็ก ปัจจุบันยังไม่มียารักษาจำเพาะเจาะจง แม้จะมีวัคซีนสำหรับป้องกัน แต่ยังจำกัดให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพราะฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุด คือต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำเพื่อป้องกันและควบคุมโรค เพียงเท่านี้ทุกคนก็จะปลอดภัยจากโรคฝีดาษลิง

ภก.วรพงษ์ สังสะนะ, รศ.ภก.ดร.ชาญกิจ พุฒิเลอพงศ์

คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • พช.จัดทำหนังสือ ‘PROVINCIAL STAR OTOP’ สุดยอดผลิตภัณฑ์ OTOP เด่น จังหวัด ปี 2568 พช.จัดทำหนังสือ ‘PROVINCIAL STAR OTOP’ สุดยอดผลิตภัณฑ์ OTOP เด่น จังหวัด ปี 2568
  • เอสเจเอ็ม มาเก๊าฯ พร้อมระเบิดศึก นำโดยสองซูเปอร์สตาร์ระดับโลก \'ลี เวสต์วูด - ซองแจ อิม\' เอสเจเอ็ม มาเก๊าฯ พร้อมระเบิดศึก นำโดยสองซูเปอร์สตาร์ระดับโลก 'ลี เวสต์วูด - ซองแจ อิม'
  • \'Eco Supreme\'แบรนด์เสื้อรักษ์โลก ได้การรับรอง 3 ฉลาก พร้อมรับรางวัล Thailand Textiles Tag 'Eco Supreme'แบรนด์เสื้อรักษ์โลก ได้การรับรอง 3 ฉลาก พร้อมรับรางวัล Thailand Textiles Tag
  • เปิดประสบการณ์ ‘จิบ-ชิม’ อาหารสตรีทฟู้ดไทยจับคู่กับไวน์ EP 3 เปิดประสบการณ์ ‘จิบ-ชิม’ อาหารสตรีทฟู้ดไทยจับคู่กับไวน์ EP 3
  • ดีพร้อม โชว์ศักยภาพอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทยสู่ตลาดแฟชั่นมุสลิม ดีพร้อม โชว์ศักยภาพอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทยสู่ตลาดแฟชั่นมุสลิม
  • จัดเต็ม \'IP Fair 2025\' โชว์ศักยภาพทรัพย์สินทางปัญญาไทย ปั้นผู้ประกอบการสู่ธุรกิจแห่งอนาคต จัดเต็ม 'IP Fair 2025' โชว์ศักยภาพทรัพย์สินทางปัญญาไทย ปั้นผู้ประกอบการสู่ธุรกิจแห่งอนาคต
  •  

Breaking News

เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา กระทบ 7.7 แสนชีวิต-บ้านเสียหาย 700 กว่าหลัง

‘ชัชชาติ’ ต้อนรับคณะองค์กร C40 หารือแก้ไขวิกฤติสภาพภูมิอากาศ

สถิติอื้อ!เมื่อ’ซาลาห์’คว้ายอดแข้ง3สมัย

‘หมอเปรม’แฉมีสว.อิทธิพลจ้องคว่ำงบ 69 หวังเปลี่ยน‘นายกฯ’ เปิดทางพรรคที่หนุนกลับสู่อำนาจ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved