นอกจากจะเป็นเจ้าของธุรกิจ เจ้าพระยาทัวร์ริสท์โบ๊ท แล้ว “พิริยะ วัชจิตพันธ์” ยังเป็นผู้สะสมฟอสซิลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เพราะเขามีซากฟอสซิลมากมายหลายร้อยชิ้น แถมยังเป็นเจ้าของซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์ “ลิงพิริยะ” ที่มีอายุประมาณ 8,000,000 ปี  จากความชอบส่วนตัวตั้งแต่เด็ก ต่อยอดมาเป็นการสร้างพิพิธภัณฑ์ในอนาคตอันใกล้นี้ ทางรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” โดยพิธีกร ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์ ตามไปสัมภาษณ์พูดคุยถึงธุรกิจเจ้าพระยาทัวร์ริสท์โบ๊ท และที่มาที่ไปในการสะสมซากฟอสซิล

ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์ พิธีกรรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน”  กับ พิริยะ วัชจิตพันธ์

                พิริยะ เล่าว่า “สำหรับเจ้าพระยาทัวร์ริสท์โบ๊ท เป็นบริษัทลูกของเรือด่วนเจ้าพระยา เรามีเรือขนาดใหญ่จอดตามท่าเรือ 8 จุดซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในตลอดแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วก็จะมีไกด์คอยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ และเรือเราสามารถเชื่อมต่แกับรถไฟฟ้าได้ง่ายที่สถานีรถไฟฟ้าตากสิน”

                นอกจากจะบริหารงานธุรกิจเจ้าพระยาทัวร์ริสท์โบ๊ทแล้ว นักธุรกิจหนุ่มคนนี้ยังมีงานอดิเรกที่ไม่เหมือนใคร  นั่นตือ การสะสมซากฟอสซิล ที่มีเป็นจำนวนไม่น้อยทีเดียว แต่ละชิ่นก็มีอายุเป็นพันๆ หมื่นๆ ปี

                “ตั้งแต่สมัยผมเด็กๆ ผมคิดว่าเด็กๆ หลายๆ คนก็เหมือนกัน คือเวลาเราไปต่างประเทศ ผู้ปกครองก็มักจะพาเราไปดูสวนสัตว์ ไปดูพิพิธภัณฑ์ แล้วเด็กๆ ส่วนใหญ่ก็มักจะประทับใจกับไดโนเสาร์สัตว์โบราณ ซากโครงกระดูกใหญ่โตในพิพิธภัณฑ์ เด็กส่วนใหญ่จะชอบไดโนเสาร์หรือสัตว์โบราณเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ว่าพอโตขึ้นหลายๆ คนมักจะลืมไป แล้วก็ไปสนใจในเรื่องอื่นๆ ในขณะที่ผมเองก็ยังเก็บสะสมไดโนเสาร์หรืออะไรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับไดโนเสาร์มาตั้งแต่เด็กมาจนถึงปัจจุบัน แล้วก็มีจำนวนมาก

                คือแรกเริ่มเดิมทีเราก็เหมือนเด็กทั่วไปคือ เก็บตุ๊กตุ่นตุ๊กตาไดโนเสาร์ไป แต่พอมาดูแล้ว เรากลับชอบไดโนเสาร์มากที่สุด ก็คือตัวมันเอง แล้วตัวมันเองทุกวันนี้สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว สิ่งที่ใกล้เคียงกับมันมากที่สุดก็คือซากของมัน ก็คือฟอสซิล คือตอนเด็กๆ เราก็ไปทำงานในร้านอาหาร ตอนที่อยู่ต่างประเทศ เราได้เงินเก็บเล็กๆ น้อยๆ แทนที่เราจะไปซื้อเสื้อผ้า ซื้อของใช้อย่างอื่น เราก็มักจะเก็บเงินไปซื้อฟอสซิล ชิ้นเล็กชิ้นน้อยก็เก็บเล็กผสมน้อยชิ้นเล็กชิ้นน้อยมา มันก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ พอเรากลับมาเมืองไทยเราก็เอาของพวกนี้กลับมา แล้วก็มาค้นพบว่าในเมืองไทยมันก็มีของเหล่านี้ เจอเยอะโดยเฉพาะทางภาคอีสานของเรา”

                และที่พิเศษสุดๆ คือ สัตว์โบราณที่ถูกค้นพบขึ้นโดยหนุ่มคนนี้ ซึ่งถือเป็นที่แรกและเป็นแห่งเดียวในประเทศไทย จนได้ตั้งชื่อว่า พิริยะ

“เนื่องจากในเมืองไทยก่อนหน้านี้ไม่ค่อยใครศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะฉะนั้นของที่เราขุดพบในประเทศไทยไม่ค่อยมีใครมาศึกษา แต่ก่อนก็จะมีชาวบ้านส่งมาให้เรา เราก็เก็บรวบรวมไว้จำนวนมาก แล้วเราก็เอาไปบริจาคให้กับกรมทรัพยากรธรณีบ้าง บริจาคให้กับสถาบันราชภัฎนครราชสีมา บริจาคให้กับหน่วยงานต่างๆ ที่เขาต้องการนำไปจัดแสดง แล้วของเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นสัตว์ชนิดใหม่ของโลก ซึ่งไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อนนอกจากประเทศไทย อย่างลิงชนิดหนึ่งที่เพิ่งเจอ เราเจอกรามซึ่งสมบูรณ์มาก ไซส์ประมาณลิงอุรังอุตัง เราก็เจอฟันครบทุกซี่ ก็ให้นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นกับฝรั่งเศสไปเขียนเปเปอร์ให้ แล้วก็ตั้งชื่อตามเรา เพราะส่วนใหญ่นักวิทยาศาสตร์ที่เขาเขียนเปเปอร์มักจะให้เกียรติตามคนที่เจอ

ซึ่งลิงตัวนี้มีอายุประมาณ 8,000,000 ปี ชื่อลิงพิริยะ สำหรับสัตว์ที่เจอในเมืองไทยและไม่มีที่อื่นเลย มีเยอะแยะมาก รวมๆ แล้วหลายสิบชนิด ที่เขียนเปเปอร์เสร็จไปแล้ว และที่ตีพิมพ์ออกไปแล้วก็น่าจะประมาณ 4-5 ชนิด ซึ่งประกอบไปด้วย ลิง แรดโบราณ ฮิปโปแคระ ช้าง และที่รอเขียนเปเปอร์มีอีกเป็นจำนวนหลายสิบชนิดมาก ซึ่งทุกๆ วันเขาก็ยังเจอกันอยู่เรื่อยๆ แต่ที่เราเก็บรวบรวมไว้ในคอลเลคชั่นเราก็มีเยอะมาก ทุกชิ้นที่ผมมีก็จะเอาไปขึ้นทะเบียนและผมก็เอาไปจัดแสดงตามที่ต่างๆ บางทีผมก็ยกให้กับสถาบันราชภัฎโคราช ส่วนใหญ่ของจะอยู่ที่โคราช ซึ่งไปดูได้ที่พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน ที่อ.เมือง จ.นครราชสีมา

และตอนนี้เราก็มีแพลนทำพิพิธภัณฑ์อีกที่หนึ่ง ก็คือทางสนามบินสุโขทัยเขามีโครงการที่จะสร้าง พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์และช้าง ในอนาคตก็จะของส่วนหนึ่งไปจัดแสดงที่สนามบินสุโขทัย ซึ่งพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์และช้างที่สนามบินสุโขทัย น่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่และน่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ยิ่งอันที่เป็นช้างน่าจะใหญ่ที่สุดในโลก เพราะในโลกเรามีช้างมากมายหลายร้อยชนิด แล้วแปลกมากที่หลายชนิดมากเกือบๆ 20-30 ชนิดถูกค้นพบในประเทศไทย ที่อื่นไม่มี เราก็จะเอาไปรวบรวมไว้ ตอนนี้พิพิธภัณฑ์อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ใช้เวลาแล้วเสร็จน่าจะปีครึ่ง และหลังจากเสร็จแล้วก็จะเปิดมให้ประชาชนเขาชมได้”

เรื่องราวดีๆ ที่ครบครันทั้งสาระและบันเทิงแบบนี้  มีให้ชมในรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทาง TNN 2 หรือ True Vision 8  หรือชมรายการย้อนหลังได้ที่ youtube ผู้หญิงแนวหน้าbyคุณแหน