งานวิจัยฉบับใหม่ของบริษัทวิจัยด้านการตลาดระดับโลก Mintel (มินเทล) ชี้ผู้บริโภคชาวไทยประมาณ 8 ใน 10 ราย ต่างประสบปัญหาสุขภาพจิตในช่วง 6 เดือน ที่ผ่านมา สามอันดับแรก คือ ความเครียด (46%) นอนไม่หลับ (32%) และวิตกกังวล (28%) สภาพจิตใจของคนไทยถดถอยลงจากผลกระทบที่ยืดเยื้อของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลให้พวกเขาเกิดความหงุดหงิดและความรู้สึกท้อแท้ นอกจากนี้ผลการวิจัยยังพบว่าผู้บริโภคแต่ละเพศและแต่ละช่วงวัยต่างเผชิญกับความท้าทายด้านสุขภาพจิตที่แตกต่างกัน
Gen Z คือกลุ่มวัยที่รู้สึกโดดเดี่ยวที่สุด : การทำงาน/การเรียน (48%) ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค Gen-Zโดยเฉพาะอายุระหว่าง 18-24 ปี โดยพบว่าผู้บริโภคในกลุ่มวัยนี้จะรู้สึกโดดเดี่ยวที่สุด (38%) เมื่อเทียบกับคนรุ่นอื่นๆ อาทิ กลุ่ม Millennials (26%) และ Gen X (15%) ที่มีอายุมากกว่า ทั้งนี้แรงกดดันจากเพื่อน (33%) และโซเชียลมีเดีย (25%) ต่างเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความท้าทายด้านสุขภาพจิตของพวกเขา
“ตามข้อมูลจากงานวิจัยของเรา มากกว่าหนึ่งในสามของผู้บริโภคชาวไทยที่มีอายุน้อยกล่าวว่าพวกเขาขาดความมั่นใจในตนเองและมีสภาวะทางจิตใจบางอย่าง เช่น การนับถือตนเองต่ำ อาการซึมเศร้า และความวิตกกังวล สภาวะเหล่านี้เกิดจากการสร้างภาพชีวิตที่ “สมบูรณ์แบบ” บนโซเชียลมีเดีย จากการได้เห็นบุคคลที่พวกเขาชื่นชอบอินฟลูเอนเซอร์ หรือคนที่พวกเขารู้จักมีในสิ่งที่พวกเขาไม่มี ก่อให้เกิดความกดดันที่จะต้องใช้ชีวิตให้ได้ตามมาตรฐานที่ผู้อื่นวางไว้ แบรนด์ต่างๆ สามารถช่วยเหลือประชากรกลุ่มที่มีอายุน้อยนี้ได้ด้วยแคมเปญที่ผลักดันและส่งเสริมให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกพึงพอใจในตนเอง” วิลาสิณี (ไข่มุก) ศิริบูรณ์พิพัฒนานักวิเคราะห์อาวุโสด้านการวิจัยไลฟ์สไตล์ ประจำ Mintel Reports Thailand กล่าว
ผู้หญิงเครียดกว่าผู้ชาย : เกือบหนึ่งในสาม (31%) ของหญิงไทยที่มีอายุ 18-34 ปี กล่าวว่าพวกเขารู้สึกหมดไฟ เมื่อเทียบกับชายในวัยเดียวกัน (17%) ผู้หญิงให้ความสำคัญกับงาน/การศึกษา ความไม่แน่นอนในการวางแผนอนาคต และสถานการณ์/ความรับผิดชอบทางการเงิน จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตของผู้บริโภคกลุ่มนี้
“ผู้หญิงอายุ 18-34 ปี มีแนวโน้มที่จะต้องรับมือและรับผิดชอบกับงานบ้าน สร้างความมั่นคงในหน้าที่การงาน และคำนึงถึงการแต่งงานใช้ชีวิตคู่ ตามที่ระบุไว้ในงานวิจัยฉบับใหม่ของเราเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของผู้หญิง พวกเธอต้องการที่จะรักษาสมดุลในชีวิตและมีสุขภาพที่ดี ทั้งทางกายและทางใจ แบรนด์ต่างๆ สามารถวางผู้บริโภคกลุ่มนี้เป็นเป้าหมายได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่มีไลฟ์สไตล์ที่ยุ่งหรือวุ่นวายตลอดเวลาด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่จะช่วยบรรเทาความเครียดทางด้านจิตใจ และช่วยให้พวกเธอสามารถทำกิจกรรมเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีได้” คุณไข่มุกกล่าวต่อ
การอดนอนส่งผลกระทบต่อคนทุกรุ่น : การวิจัยของ Mintel เผยให้เห็นว่า การนอนหลับล้วนส่งผลต่อคนไทยไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุใด ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในชีวิตที่มีความตึงเครียดได้ โดยสำหรับในช่วงวัยต่างๆ แล้วประมาณ 35% ของ Gen Z และ Millennial จะมีอาการนอนไม่หลับ ในขณะที่ Gen X อยู่ที่ 28%
ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ผู้คนมักเชื่อกัน การนอนไม่หลับส่งผลกระทบต่อคนทุกวัย ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุเท่านั้น ปัจจัยเหล่านี้อาจเกิดจากมาตรการการอยู่บ้าน ทำให้ผู้คนไม่สามารถแยกชีวิตส่วนตัวกับชีวิตการทำงานหรือการเรียนออกจากกันได้อย่างชัดเจน จนทำให้เกิดความเครียดและนอนไม่หลับมากขึ้นเนื่องจากคนไทยมีปัญหาด้านการนอนหลับ แบรนด์ต่างๆ จึงสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่สามารถตรวจจับรูปแบบการนอนและให้ประโยชน์ด้านสุขภาพอื่นๆ ได้
ผู้บริโภคมองหาแบรนด์ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาด้านสุขภาพจิต : แม้คนไทยจำนวนมากขึ้นจะประสบปัญหาสุขภาพจิต แต่ผู้บริโภคยังคงไม่สามารถเข้าถึงบริการและข้อมูลด้านสุขภาพจิตได้ ซึ่งคนไทยกว่า 3 ใน 4 (76%) รู้สึกเห็นด้วยว่าควรจะมีการพูดคุยเรื่องสุขภาพจิตในพื้นที่สาธารณะให้มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน
“เนื่องจากข้อจำกัดทางสังคมและความรู้สึกเชิงลบเกี่ยวกับสุขภาพจิต เราจึงเห็นได้ว่าผู้บริโภคต่างมีความคาดหวังสูงจากแบรนด์ในแง่ของการที่แบรนด์เหล่านั้นจะเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของสุขภาพจิต เมื่อพิจารณาถึงความละเอียดอ่อนของภาวะสุขภาพจิตแบรนด์ต่างๆ จำเป็นต้องแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจความเป็นไปทางด้านจิตใจของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ด้วยความที่โซเชียลมีเดียมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้บริโภคกว่า 3 ใน 4 เห็นด้วยว่า ช่องทางดังกล่าวเป็นช่องทางที่เหมาะสมในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เล็งเห็นถึงคุณค่าทางด้านจิตใจ ด้วยเหตุนี้แบรนด์ที่มุ่งเน้นการให้ความรู้ผู้บริโภค แบรนด์ที่เข้ามามีบทบาทในการช่วยขจัดปัญหาสุขภาพจิต และแบรนด์ที่ส่งเสริมให้ผู้คนเข้ารับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ จะสามารถชนะใจผู้บริโภคได้” วิลาสิณี กล่าวในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี