กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในช่วงนี้ มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นฤดูฝน มีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ของประเทศ ทำให้เกิดน้ำขังค้างในภาชนะต่างๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย จึงขอเน้นย้ำมาตรการ 3 เก็บป้องกัน 3 โรค ป้องกันป่วยโรคไข้เลือดออก
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทยว่า จากกรณีที่มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2565 จะมีการระบาดมากขึ้นนั้น เท่าที่ติดตามมาสถานการณ์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกมากขึ้น ซึ่งกรมควบคุมโรคได้ทำหนังสือแจ้งเตือนเฝ้าระวังการระบาดของไข้เลือดออกไปยังนายแพทย์สาธารณสุขทุกจังหวัดรวมทั้งผู้บริหารสถานศึกษาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเพื่อกำชับมาตรการลดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและเตรียมความพร้อมด้านการสอบสวน/ควบคุมป้องกันโรคภายใต้ พ.ร.บ. โรคติดต่อพ.ศ.2558 รวมทั้งความพร้อมด้านการวินิจฉัยและรักษาพยาบาลหากเกิดการระบาด
สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-12 กรกฎาคม 2565 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกทั่วประเทศ 9,472 ราย เสียชีวิต 9 รายพบผู้ป่วยกระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งพบแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นและสูงกว่าปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา โดยใน 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาพบจังหวัดที่มีผู้ป่วยสูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร ศรีสะเกษ และตาก”
“ช่วงนี้มีโอกาสพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ของประเทศ ทำให้มีน้ำขังตามภาชนะต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกิดการระบาดของโรคได้ กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำประชาชนให้ช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้านและโรงเรียนทุกแห่ง ด้วยมาตรการ 3 เก็บป้องกัน 3 โรค (โรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา) ได้แก่ เก็บบ้านและโรงเรียน ให้สะอาดไม่ให้ยุงลายเข้ามาเกาะพัก เก็บภาชนะกักเก็บน้ำให้มิดชิดเพื่อป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ เก็บขยะภายในบริเวณบ้านและโรงเรียน ให้เรียบร้อยไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และจัดกิจกรรมเสริมในการจัดการสิ่งแวดล้อมกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงในโรงเรียน เช่น กิจกรรม BIG CLEANING DAY รวมถึงการป้องกันตนเองจากการถูกยุงกัด ทั้งในบริเวณบ้านและโรงเรียน”นายแพทย์โอภาส กล่าว
นอกจากนี้ หากประชาชนหรือบุตรหลาน มีอาการไข้ สูงลอย รับประทานยาแล้วไข้ไม่ลดหรือลดแล้วไข้กลับมาสูงอีกร่วมกับอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระบอกตา หรือมีจุดเลือดออกที่ลำตัว และแขน ขา ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง โดยเฉพาะยาลดไข้ในกลุ่มแอสไพริน และไอบูโพรเฟน และหากมีอาการ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ เบื่ออาหาร ปวดท้องร่วมด้วย ซึ่งอาจเป็นการเจ็บป่วยร่วมกันระหว่างไข้เลือดออก กับโรคโควิด-19 ทำให้อาการทรุดหนักอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเมื่อมีอาการสงสัยดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยแยกโรคให้ชัดเจน จะได้รับการรักษาที่เหมาะสม และช่วยป้องกันการเสียชีวิตได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี