การรับมือกับความผันผวนของสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน นับเป็นสิ่งท้าทายสำหรับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ องค์กรขนาดเล็ก หรือระดับบุคคล สิ่งเหล่านี้คือความกังวลของทุกธุรกิจและทุกคน ดังนั้นการตั้งรับอย่างถูกวิธี รู้ข้อมูลที่ถูกต้อง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคณาจารย์ภาควิชาการธนาคารและการเงิน จึงได้จัดทำคู่มือการดำเนินธุรกิจหรือการดำเนินชีวิตให้รอดทุกเรื่องในท่ามกลางความไม่แน่นอนทั้งหมดนี้ กับCBS Series 7 ทางรอดวิกฤตเงินเฟ้อ#รู้แล้วรอด ถอดบทเรียนสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน ใน 7 เรื่องสำคัญ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและนำไปใช้ได้จริง โดยสามารถติดตามได้ผ่านทาง facebookและ Youtube Live ได้ทาง F : CBS Chulaและ CBS Academy
รศ.ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล หัวหน้าภาควิชาการธนาคารและการเงินกล่าวว่า ปัจจุบันสังคมทั่วโลกรวมทั้งสังคมไทยมีความกังวลกับสถานการณ์โควิดที่ยังคงอยู่ ตลอดจนค่าเงินที่ผันผวน อัตราดอกเบี้ยที่ขยับตัวสูงขึ้น ราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างแรงและเร็ว ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า อัตราดอกเบี้ยในเมืองไทยหมดยุคดอกเบี้ยต่ำกันแล้ว ในขณะเดียวกันก็มีความกังวลในเรื่องราคาพลังงาน โดยเฉพาะราคาน้ำมัน ก๊าซหุงต้ม และไฟฟ้า ก็ยิ่งทวีความท้าทาย ถึงแม้มีการเปิดเมืองและการกลับมาดำเนินกิจกรรมต่างๆ แต่ก็ไม่สามารถทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะสภาวะความบอบช้ำอันมาจากการต่อสู้กับโควิดทำให้ภูมิคุ้มกันทางการเงินลดลงอีกทั้งยังต้องมาต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้ออีก ทำให้เกิดสิ่งที่กังวลมากมาย อาทิ ความเหลื่อมล้ำที่ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำด้านรายได้สูงอยู่แล้ว ในสภาวะปัจจุบันที่ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ไม่ว่าจะมาจากราคาของสินค้าและบริการ หรือต้นทุนทางการเงินสำหรับท่านที่มีหนี้ เมื่อรายได้ไม่โตแต่ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ก็ส่งผลต่อการออมและสะสมสินทรัพย์ และเมื่อมีเงินไม่พอใช้ก็มีความจำเป็นต้องไปก่อหนี้ จนอาจตกอยู่ในวงจรหนี้ในที่สุด จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นวิกฤตซ้ำซ้อน วิกฤตรายได้ วิกฤตเงินเฟ้อ วิกฤตหนี้วิกฤตการออม และในกรณีที่มีการตัดสินใจที่ไม่เหมาะสม เช่น บริหารสภาพคล่องผิดพลาดก่อหนี้ผิดประเภท ชะล่าใจไม่ออม หรือลงทุนในสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ ก็ยิ่งเป็นปัจจัยขยายผลทำให้ความเหลื่อมล้ำทวีความรุนแรงขึ้น จึงเป็นปัญหาของสังคมที่เราทุกคนต้องช่วยกันแก้
ดังนั้นการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเศรษฐกิจ จากการจัดทำคลิป “รู้แล้วรอด”ทางทีมคณาจารย์ได้นำข้อมูลที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบันมาวิเคราะห์ให้เห็นถึงปัญหา พร้อมแนะนำเทคนิคการรับมือ ซึ่งทุกคนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้ โดยรายละเอียดองค์ความรู้ที่จะเผยแพร่ประกอบด้วย
Introduction EP. 7 เรื่อง รู้แล้วรอดโดย รศ.ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล หัวหน้าภาควิชาการธนาคารและการเงิน
EP.1 เงินเฟ้อ ของแพง ไม่หมดแรงทำไง โดย ผศ.ดร.พรพิชยา กุวลัยรัตน์ อาจารย์ประจำภาควิชาการธนาคารและการเงิน
EP.2 ดอกเบี้ยและภาระหนี้กับสถานการณ์เงินเฟ้อสูง โดย รศ.ดร.วิมุต วานิชเจริญธรรม อาจารย์ประจำภาควิชาการธนาคารและการเงิน
EP.3 วิกฤตพลังงานแพง ไปต่อหรือพอแค่นี้ รับมือยังไงไม่พัง โดยผศ.ดร.อนิรุต พิเสกฎฐศลาศัย อาจารย์ประจำภาควิชาการธนาคารและการเงิน
EP.4 ลงทุนสู้เงินเฟ้อ โดยผศ.ดร.รุ่งเกียรติ รัตนบานชื่น อาจารย์ประจำภาควิชาการธนาคารและการเงิน
EP.5 เงินเฟ้อกับอัตราแลกเปลี่ยน โดย ผศ.ดร.รัฐชัย ศีลาเจริญ อาจารย์ประจำภาควิชาการธนาคารและการเงิน
EP.6 หนี้มาเยือน เตือนกันไว้ รศ.ดร.คณิสร์ แสงโชติ อาจารย์ประจำภาควิชาการธนาคารและการเงิน
EP.7 ออมและ ออมอย่ายอมลด โดย ดร.ธนวิต แซ่ซือ อาจารย์ประจำภาควิชาการธนาคารและการเงิน
รศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การจัดทำคลิปให้ความรู้ในครั้งนี้ ทีมคณาจารย์มุ่งหวังให้ทุกคนมีภูมิคุ้มกันที่สูงขึ้น เพราะ “เชื้อโรค” ทางการเงินเหล่านี้ลุกลามไวและแผ่ไปได้ทุกกระเบียดนิ้วของสังคม การป้องกัน “ไม่ให้ติดเชื้อจนเรื้อรัง” จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ความเหลื่อมล้ำของสังคมขยายไปไกลกว่าที่เป็น โดยการจัดทำคลิปให้ความรู้ทางการเงินนั้นจะทยอยจัดทำและเผยแพร่จนครบ 7 เรื่อง และคณะฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการกระตุ้นให้ทุกคนตระหนักถึงสาเหตุ แนวทางการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์กับทุกภาคส่วนตามเป้าหมายที่วางไว้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี