ทีมแชมป์โลก จากโรงเรียนทีโอเอวิทยา (เทศบาล 1 วัดคำสายทอง) จ.มุกดาหาร
บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ร่วมสานฝันหนุนเด็กไทย รร.ทีโอเอวิทยา (เทศบาล 1วัดคำสายทอง) จังหวัดมุกดาหาร คว้าแชมป์รางวัลชนะเลิศ “การแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัยรุ่นยุวชนระดับโลก” ครั้งที่ 25 หรือ“World RoboCup 2022” ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา
สำหรับเส้นทางความสำเร็จสู่แชมป์โลกการแข่งขันนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากพลังความทุ่มเท ทั้งแรงกาย แรงใจของครูผู้ฝึกสอนและนักเรียน ที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานหุ่นยนต์กู้ภัยปัญญาประดิษฐ์นี้ขึ้น โดย นายประยุทธสุภาคาร หัวหน้าครูผู้ฝึกสอน เผยว่า “จากจุดเริ่มต้นกิจกรรมหลังเลิกเรียน สู่การนำวิชาหุ่นยนต์มาสอนในหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้กับนักเรียนในระดับชั้น ม.1-ม.6 ตั้งแต่เมื่อปี 2561 และนำมาต่อยอดจนเกิดเป็นโครงการพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศด้านหุ่นยนต์ขึ้น อันจะช่วยให้ผู้เรียนได้นำวิชาความรู้ในภาคทฤษฎีทั้งคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงวิศวกรรมศาสตร์ มาประยุกต์ใช้สู่ภาคปฏิบัติในการสร้างหุ่นยนต์ และได้ฝึกฝนลงสนามจริงในเส้นทางการแข่งขัน จนทำให้ทีมหุ่นยนต์ของโรงเรียนประกอบด้วย นายอัครพล วังคะฮาตนายฐิติภัทร เชี่ยวชาญ และ นายดิเรก ผุยคำสิงห์ ไปคว้าแชมป์ระดับประเทศ “การแข่งขันหุ่นยนต์ ส.ส.ท.ชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2565 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” และได้เป็นตัวแทนประเทศไทยใน การแข่งขันหุ่นยนต์ระดับโลก ในงานมหกรรม “World RoboCub 2022” ครั้งที่ 25 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ภาคีเครือข่ายสถาบันการศึกษาสาขาวิศวกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนาไป เมื่อเร็วๆ นี้
ประจักษ์ และ ละออ ตั้งคารวคุณ ร่วมแสดงความยินดีกับทีมหุ่นยนต์เยาวชนไทยที่คว้าแชมป์โลก
ผลปรากฏว่า ทีมหุ่นยนต์ รร.ทีโอเอวิทยา (เทศบาล 1 วัดคำสายทอง)จังหวัดมุกดาหาร ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัย รุ่นยุวชนระดับโลกปี 2565 (RoboCup Junior Rescue Line) ประเภท Super Team จากผู้เข้าร่วมแข่งขัน21 ประเทศทั่วโลก ซึ่งทีมประเทศไทยรร.ทีโอเอวิทยา ได้จับคู่กับทีมประเทศเยอรมนี เพื่อร่วมกันแข่งขันภายใต้ภารกิจที่กำหนด นั่นคือ การแข่งขันบนแบบทดสอบจำลองในการใช้หุ่นยนต์กู้ภัย เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตหรือผู้เสียชีวิตที่ตกค้างอยู่ในซากปรักหักพังต่างๆ ที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าถึง ซึ่งแต่ละทีมต้องออกแบบหุ่นยนต์ให้เคลื่อนที่เข้าไปยังพื้นที่ยากลำบาก เช่นพื้นลาดเอียง โค้งงอ ทางขรุขระหลากหลายระดับ เป็นต้น ซึ่งคู่จากทีมไทยและเยอรมนีทำผลงานได้ดีที่สุด จึงคว้าแชมป์โลกรายการนี้มาได้สำเร็จ”
นายอัครพล วังคะฮาต นักเรียนหัวหน้าทีมหุ่นยนต์ โรงเรียนทีโอเอวิทยา กล่าวว่า “ตนและเพื่อนๆ รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้เป็นตัวแทนประเทศไทย และสามารถคว้าแชมป์หุ่นยนต์กู้ภัยระดับโลกได้สำเร็จ ซึ่งต้องขอบพระคุณทางโรงเรียนครูผู้ฝึกสอนที่ได้ส่งเสริม ผลักดัน และถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ จนทำให้พวกเราเกิดทักษะความเชี่ยวชาญ สามารถออกแบบสร้างหุ่นยนต์ภายใต้โจทย์ต่างๆ ได้เรียนรู้การทำงานแบบ Team work และสุดท้ายผมต้องขอขอบคุณผู้มีอุปการคุณเบื้องหลังความสำเร็จทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ บริษัท ทีโอเอเพ้นท์ฯ ที่ได้ให้การสนับสนุนทุนจัดหาอุปกรณ์เพื่อใช้พัฒนาหุ่นยนต์ในการแข่งขันครั้งนี้ ทำให้พวกเรานำมาเพิ่มประสิทธิภาพหุ่นยนต์จนประสบความสำเร็จ และพวกเราสัญญาว่าจะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน และหมั่นหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อพัฒนาศาสตร์หุ่นยนต์นี้ต่อไปครับ”
ด้าน ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ ประธานกรรมการ บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ฯ กล่าวว่า “ต้องขอชื่นชมเด็กๆ นักเรียนคนเก่งทั้งสามคนนี้ ที่มุ่งมั่นตั้งใจเรียน หมั่นฝึกฝนในศาสตร์ของวิชาหุ่นยนต์ และพัฒนาตนเองจนสามารถไปคว้าแชมป์ในระดับประเทศและระดับโลกได้ทั้งสองรายการในปีเดียวกัน ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับเด็กไทยที่เรียนอยู่ในโรงเรียนแถบชายขอบ แต่มีศักยภาพโดดเด่นในเรื่องวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนำมาประดิษฐ์เป็นหุ่นยนต์โดยการออกแบบโปรแกรมควบคุม ซึ่งต้องขอบคุณโรงเรียนและครูผู้ฝึกสอนที่ได้มีส่วนสำคัญในการผลักดันเด็กนักเรียนกลุ่มนี้ จนประสบผลสำเร็จคว้าแชมป์โลกรายการใหญ่นี้มาได้เป็นประวัติศาสตร์
สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนและประเทศชาติ นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของพวกเราคนไทย ซึ่งผมพร้อมให้การสนับสนุนโครงการสร้างห้องปฏิบัติการหุ่นยนต์ เพื่อใช้เป็นศูนย์การเรียนการสอนในรายวิชาหุ่นยนต์และการฝึกปฏิบัติจริง เพื่อส่งเสริมศักยภาพของนักเรียนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย”
ทีมแชมป์โลก จากโรงเรียนทีโอเอวิทยา (เทศบาล 1 วัดคำสายทอง) จ.มุกดาหาร
สำหรับ โรงเรียนทีโอเอวิทยา (เทศบาล 1 วัดคำสายทอง) จ.มุกดาหาร เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ในสังกัดเทศบาลเมืองมุกดาหาร เปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ปี 2538 ระดับชั้นอนุบาลจนถึงระดับชั้น ม.6 ปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนกว่า1,100 คน โดยได้รับความอนุเคราะห์จากวัดคำสายทอง บริจาคที่ดินกว่า 4 ไร่ เพื่อใช้ในการก่อสร้างโรงเรียนและเงินสนับสนุนการก่อสร้างอาคารเรียนจากภาคเอกชน โดยบริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพราะด้วยเจตนารมณ์ของนายประจักษ์ ตั้งคารวคุณ ที่ต้องการมอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กไทย เพราะไม่ว่าจะเรียนที่ไหนก็ตามเด็กๆ ต้องสามารถเข้าถึงการศึกษาที่ดี เทียบเท่ากับเด็กๆ ที่เรียนในตัวเมือง เพราะการศึกษาถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาคน อันจะช่วยขับเคลื่อนประเทศชาติให้เกิดการพัฒนา ช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม และปัญหาความยากจนได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังได้มอบทุนสนับสนุนการก่อสร้างโรงเรียนเทศบาล 1(ทีโอเอวิทยา) จ.บุรีรัมย์ ด้วย
โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานายประจักษ์ ตั้งคารวคุณ ได้มุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพนักเรียนและครูผู้สอนในวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน รวมทั้งการมอบทุนการศึกษาต่อเนื่องให้กับนักเรียนทั้งสองแห่งนี้ ที่เรียนดีและเรียนปานกลาง มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์เป็นประจำทุกปี ปีละกว่า 450 ทุน รวมเป็นจำนวนกว่า 2,500 ทุนที่ได้รับทุนการศึกษาไปแล้ว
“เพราะการให้ไม่มีวันสิ้นสุด ยิ่งให้ยิ่งแบ่งปัน โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา ยิ่งเป็นการมอบโอกาสให้กับเยาวชนไทย เพื่อเป็นบันไดก้าวต่อไปสู่ความสำเร็จในอนาคต เพราะเยาวชนก็คือพลเมืองที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป”นายประจักษ์ กล่าวในที่สุด
หุ่นยนต์กู้ภัย ผลงานเยาวชนไทย ที่คว้าแชมป์โลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี