ปัญหากวนใจไขมันส่วนเกินตามจุดต่างๆจะหมดไปด้วยการฉีดแฟตเพื่อลดไขมันและสลายไขมัน แต่หลายคนนั้นยังไม่รู้ว่าเมโสแฟตนั้นเหมาะสำหรับกับการฉีดเพื่อลดสัดใดของร่างกายได้บ้าง? การฉีดที่ใบหน้าและลำตัวต่างกันไหม หลังการฉีดกี่วันจึงจะเห็นผล?
เมโสแฟต คืออะไร ?
การฉีดเมโสแฟต คือ การฉีดตัวที่ช่วยยาสลายไขมันในชั้นไขมัน เพื่อเป็นการลดเซลลูไลท์ และ ยกกระชับแบบเฉพาะจุดในส่วนต่างๆ บนร่างกาย เช่น ฉีดลดแก้มหน้าเรียว ลดเหนียง ต้นแขน ต้นขา สะโพก น่อง และจุดที่สามารถกำจัดไขมันได้ยาก เป็นทางเลือกที่เห็นผลได้ดีควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และคุมอาหาร
เมโสแฟตสามารถกำจัดไขมันได้อย่างไร
หลักการทำงานของเมโสแฟต คือ การใช้ตัวยาฉีดเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการให้สัดส่วนลดลง โดยการออกฤทธิ์ของตัวยาจะทำให้ไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อนเกิดการแตกตัวออกจากกัน และกลายเป็นของเหลว ที่ร่างกายสามารถขับออกไปได้ทางปัสสาวะ อุจจาระและเหงื่อ อย่างไรก็ตามเมเสแฟตจะไม่มีทางเห็นผลดีเลยถ้าเราไม่ออกกำลังกายหรือคุมอาหารการกินของเรา
ตัวยาที่ออกฤทธิ์ในการกำจัดไขมันของเมโสแฟต
- Artichoke extract (Cynara scolymus) ทำหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการ anabolism ลดเนื้อเยื่อไขมัน
- Mesostabyl (Polyunsaturated phosphatidylcholine) ทำหน้าที่ลดการสร้าง triglyceride ลดการสร้าง cholessterol ในเนื้อเยื่อ และ กระตุ้นการเผาผลาญให้ดีขึ้น
- L-carnitine เป็นการดึงไขมันที่สะอมในร่างกาย เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน
เมโสแฟต ช่วยเรื่องอะไร?
เมโสแฟตสลายไขมันเฉพาะจุดให้เร็วยิ่งขึ้น เช่น บริเวณกรอบหน้าเหนียง ท้องแขน ก้น สะโพก ที่เป็นไขมันสะสมลดยาก จะเห็นผลได้ชัดหากทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย คุมอาหาร การฉีดเมโสแฟตจะช่วยสลายไขมันไปได้เพียง 5-10% เท่านั้น หากต้องการกำจัดไขมันปริมาณเยอะๆแนะนำดูดไขมันจะได้ผลดีมากกว่า สำหรับเมโสแฟตสามารถฉีดได้ทุกส่วนของร่างกาย เช่น กรอบหน้าเหนียง ท้องแขน หน้าท้อง ต้นขา ก้น สะโพก น่องขา โดยปริมาณการฉีดขึ้นกับแพทย์ประเมินเพื่อให้เห็นผล
เมโสแฟตกับโบท็อก ต่างกันอย่างไร ?
เมโสแฟตเป็นตัวยาสลายไขมัน เพื่อให้ไขมันที่สะสมอยู่ในส่วยต่างๆของร่างกายลดลง ส่วนโบท็อกเป็นโปรตีนที่ออกฤทธิ์กับระบบการทำงานของกล้ามเนื้อ เพื่อให้ซามูเกิดการคลายตัว จนหดเล็กลง ซึ่งทั้งเมโสแฟต และ โบท็อก สามารถทำทั้ง 2 อย่างคู่กัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ไวขึ้น (ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์)
เมโสแฟตที่อันตรายมีอะไรบ้าง
หากเลือกฉีดเมโสแฟตในคลินิกมาตรฐาน มีการนำเข้าตัวยาอย่างถูกต้องและได้รับอย. สามารถลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากตัวยาปลอมได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามก็ยังมีผู้รับบริการบางคนซื้อยาจากอินเตอร์เน็ตมาให้พยาบาลฉีดให้ ซึ่งอันตรายจากตัวยาไม่ได้มาตรฐานมีดังนี้
- สเตียรอยด์ ซึ่งเป็นยาทีมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ สามารถรักษาสิวได้ในปริมาณที่เหมาะสม แต่ยาชนิดนี้จะมีฤทธิ์ทําให้ไขมันฝ่อและสลายตัวไป หากใช้ในปริมาณมากอาจทำให้ เกิดผลข้างเคียงตามมาได้ เช่น ผิวหนังบุ๋ม มีอาการหน้าบวม เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
- ยาสลายฟิลเลอร์ hyaluronidase หากนำมาใช้ฉีดเพื่อลดไขมันในปริมาณมากๆ ก็อาจจะมีผลให้คอลลาเจนใต้ผิวหนังเกิดการสลายไปด้วย ทำให้ชั้นใต้ผิวหนังเป็นโพรง มีการเนื้อยุบตัวอย่างรวดเร็วจนมีผลข้างเคียงเช่น ผิวเหี่ยวย่น และ เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร
ข้อดีการฉีดเมโสแฟต
สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวลงอย่างเป็นธรรมชาติได้ สามารถฉีดร่วมกับโบท็อก ร้อยไหม เพื่อช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวลงอย่างเป็นธรรมชาติ หากต้องการผลลัพธ์ที่สวยขึ้นจนคนทัก เมโสแฟตก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่าการผ่าตัดเพราะไม่ต้องพักฟื้นหลังการฉีดและราคาไม่สูงมาก สามารถฉีดได้เรื่อยๆตามต้องการ หลังการฉีดเมโสแฟตอาจมีอาการบวม ประมาณ 1- 2 วันและเห็นผลชัดเจนหลังฉีดผ่านไปแล้ว 1-2 สัปดาห์
ข้อจำกัดของเมโสแฟต
ไม่สามารถเห็นผลได้ในคนที่มีไขมนันปริมาณมากๆ เพราะการฉีดสลายแฟตตามที่กล่าวไปในข้างต้น สามารถลดปริมาณไขมันได้เพียง 5-10 % เท่านั้น หากมีไขมันมาก อาจแนะนำผ่าตัดดูดไขมันจะได้ผลลัพธ์ชัดเจนกว่า รวมถึงเมโสแฟตให้ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องฉีดเรื่อยๆเพื่อคงสภาพและจำเป็นต้องออกกำลังกายคุมอาหารร่วมด้วย จะช่วยให้ผลลัพธ์เห็นชัดมากขึ้น
ฉีดเมโสแฟตกี่วันหายบวม และกี่วันเห็นผล?
โดยปกติแล้วหลังการฉีดเมโสแฟตจะมีอาการบวมประมาณ 1-2 วัน ซึ่งเกิดจากการแตกตัวของไขมันกลายเป็นของเหลว โดยหลังจากที่ร่างกายมีการขับไขมันออกไปอาการบวมจะลดลงเรื่อยๆ จนหายเป็นปกติพร้อมกับสัดส่วนที่ดูเล็กกระชับขึ้น กว่าจะเห็นใช้เวลาอย่างน้อย1-2สัปดาห์สัดส่วนใบหน้าจะค่อยๆเล็กลงเรื่อยๆ
ฉีดเมโสแฟตแต่ละครั้ง ออกฤทธิ์นานเท่าไหร่? แนะนำฉีดซ้ำต้องเว้นห่างกันเท่าไหร่?
หลังการฉีดเมโสแฟตจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก โดยระยะการเห็นผลชัดเจนจะอยู่ที่ 2-4 สัปดาห์ และออกฤทธิ์เพียง 1-2 เดือนเท่านั้น สามารถฉีดซ้ำได้ทุกๆ 2-3 เดือน ได้เลยโดยไม่มีอันตรายหรือสารตกค้างใดๆ
เมโสแฟตห้ามฉีดในใครบ้าง?
สำหรับการฉีดเมโสแฟตไม่ใช่ว่าจะสามารถฉีดได้ทุกคน เพราะยังข้อห้ามในกลุ่มที่ไม่สามารถฉีดเมโสแฟตได้แก่ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี/สตรีมีครรภ์หรืออยู่ในภาวะกำลังให้นมบุตร/ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องอินซูลินเป็นประจำ/ผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนของโลหิต โรคหัวใจ เส้นเลือดสมองตีบหรือลิ่มเลือดอุดตันที่ต้องช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด และผู้ที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรงเช่นผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องตลอดจนโรคมะเร็ง ดังนั้น ก่อนการฉีดเมโสแฟตต้องบอกข้อมูลต่างๆรวมถึงโรคประจำตัวให้ทางแพทย์ได้ทราบก่อนเข้ารับบริการ
รีวิวเมโสแฟตหลังการฉีด
ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นกับความสม่ำเสมอในการฉีดรวมถึงการตอบสนองต่อตัวยาสลายไขมันแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน สำหรับคนที่ต้องการสลายไขมันกรอบหน้าไปพร้อมๆกับปรับรูปหน้าเรียวสามารถปรึกษาแพทย์ได้เลยเพื่อให้คำแนะนำอย่างเหมาะสมแก่คนไข้แต่ละคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี