วัดนี้มีความเกี่ยวข้องกับสมเด็จโต เพราะท่านทรงสร้างพระพุทธรูปองค์โตไว้เมื่อแรกเริ่ม ส่วนภายในพระอุโบสถที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 มีจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องพระพุทธเจ้าตั้งแต่ประสูติถึงดับขันธปรินิพพาน แต่ภาพจิตรกรรมแฝงความเจริญของบ้านเมืองในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์อย่างชัดเจน
ไลฟ์ วาไรตี สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัยนำคุณไปกราบสนทนาธรรมกับ พระครูวิบูลย์สังฆกิจผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง และสนทนากับ ดร.นฎาประไพ สุจริตกุล ผู้ได้รับพระราชานุญาตให้เชิญกฐินหลวงไปทอด ณ วัดไชโย วันที่ 15 ตุลาคม 2565
l กราบนมัสการพระคุณเจ้า ขอกราบเรียนถามประวัติวัดไชโย ขอความเมตตาพระคุณเจ้าช่วยกรุณาเล่าให้ฟังโดยสังเขปครับ
พระครูวิบูลย์สังฆกิจ : วัดไชโย ซึ่งคนทั่วไปเรียกวัดเกษไชโย แรกเริ่มก็เป็นวัดราษฎร์ สันนิษฐานว่าสร้างช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา ประมาณ พ.ศ. 2300 แล้วต่อมาพบข้อความจารึกถึงวัดนี้ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมายังวัดนี้ตามคำบอกเล่าคือพระองค์จะทรงปฏิสังขรณ์วัด แต่ทว่าสิ้นรัชกาลเสียก่อน ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระองค์ท่านเสด็จประพาสมณฑลอยุธยา ทรงล่องเรือพระที่นั่งมาถึงหน้าวัดทอดพระเนตรเห็นพระพุทธรูปองค์โตประดิษฐานอยู่ในเขตวัด โดยผู้เฒ่าผู้แก่เล่ากันต่อๆ ว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ทรงสร้างพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่ขึ้น องค์พระก่อด้วยอิฐแล้วสอดินองค์พระเป็นสีขาวตั้งอยู่กลางแจ้ง จึงเห็นได้ในระยะไกล ฝีมือการปั้นแบบชาวบ้านทั่วไป พระพุทธรูปองค์เดิมที่สร้างขึ้นโดยสมเด็จโตพังทลายลง เมื่อครั้งรัชกาลที่ 5พระองค์ท่านทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะวัดไชโยทั้งพระอาราม และบูรณะองค์พระด้วย โดยทรงให้สร้างพระวิหารขึ้นครอบองค์พระ และทรงให้สร้างพระอุโบสถ ในปี พ.ศ.2430 ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยารัตนบดินทร์ (บุญรอด กัลยาณมิตร) เป็นแม่กองบูรณปฏิสังขรณ์ แต่ในการสร้างพระวิหารเพื่อครอบองค์พระ เกิดแรงสั่นสะเทือนจนทำให้องค์พระพังทลาย เมื่อความทรงทราบถึงพระกรรณทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหม่ขึ้น โดยทรงให้ทีมช่าง นำโดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษวรการ สร้างพระพุทธรูปทดแทน โดยนำแบบมาจากหลวงพ่อโต วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ พระพุทธรูปมีหน้าตัก16 เมตร สูงถึงยอดพระรัศมี 22 เมตร มีพุทธลักษณะสวยงาม ใช้เวลาก่อสร้างรวม 8 ปี จาก พ.ศ. 2430-2437 ปัจจุบันอยู่ในพระวิหารหลวงติดกับพระอุโบสถ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกฐานะวัดเป็นพระอารามหลวง ชั้นวรวิหาร ชนิดชั้นโท
l สำหรับพระอุโบสถนั้นมีขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก แต่งดงาม และที่สำคัญคือมีจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามมาก พระคุณท่านช่วยเล่าถึงจิตรกรรมฝาผนังด้วยครับ
พระครูวิบูลย์สังฆกิจ : กล่าวได้ว่าจิตรกรรมฝาผนังคือสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของพระอุโบสถ นอกเหนือจากองค์พระประธาน จิตรกรรมฝาผนังนี้ถือเป็นการบอกกล่าวเรื่องราวร่วมสมัยในยุครัชกาลที่ 5 แม้เนื้อเรื่องจะเป็นเรื่องราวของเจ้าชายสิทธัตถะ ตั้งแต่ทรงมีพระประสูติกาล จนถึงทรงตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ทรงเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สมเด็จพระสมณโคดมพุทธเจ้า เมื่อเราพิจารณาภาพจิตรกรรมโดยละเอียดจะพบว่ามีการวาดภาพเรื่องราวโดยผสมผสานเรื่องในปราสาทราชมณเฑียร และมีภาพความทันสมัยของบ้านเมืองที่ปรากฏในยุครัชกาลที่ 5 อาทิ เสาไฟฟ้า อาคารแบบยุโรป มีอาวุธในสมัยใหม่เช่น ปืน เป็นต้น และยังบอกเล่าวิถีชีวิตของผู้คนในยุครัชกาลที่ 5 โดยผสมกลมกลืนกับภาพพุทธประวัติ เช่น ตอนที่พระพุทธองค์เสด็จไปโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดุสิตแล้วเสด็จกลับโลกมนุษย์ และไปจนถึงการเสด็จดับขันธปรินิพพาน และการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ
l กราบนมัสการเรียนถามเรื่องของสมเด็จโตกับวัดเกษไชโย มีคำบอกเล่าว่าบรรพบุรุษฝั่งแม่เป็นชาวไชโย อ่างทอง ใช่ไหมครับ
พระครูวิบูลย์สังฆกิจ : ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ในละแวกนี้กล่าวไว้ตามที่โยมถามอาตมานั่นแหละ มีการกล่าวว่าการสร้างพระพุทธรูปองค์โตไว้ที่นี่ก็เพื่อบูชาและอุทิศบุญกุศลให้กับโยมคุณตาและโยมมารดาของท่าน มีคำกล่าวด้วยว่า เกิดที่ไชโย ไปโตวัดอินทร์ สิ้นที่วัดระฆัง วัดอินทร์ก็คือวัดอินทราราม กรุงเทพฯส่วนวัดระฆังก็คือวัดระฆังโฆษิตาราม กรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีประวัติว่าท่านทรงสร้างพระนอนที่วัดสะตือ พระนครศรีอยุธยาด้วย นี่คือประวัติความเกี่ยวข้องของสมเด็จโตกับวัดเกษไชโยโดยสังเขป เจริญพร
l กราบนมัสการขอบพระคุณพระครูวิบูลย์สังฆกิจที่กรุณาเล่าประวัติวัดเกษไชโยและความเกี่ยวข้องของวัดนี้กับสมเด็จโตให้รับทราบ และต่อไปจะไปสนทนากับ ดร.นฏาประไพ สุจริตกุลขอเรียนถามในฐานะผู้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้เชิญกฐินพระราชทานไปทอด ณ วัดไชโย ในวันที่ 15 ตุลาคม การทอดกฐินพระราชทานในครั้งนี้ ตั้งใจจะนำเงินปัจจัยที่ได้จากการนี้ไปบูรณปฏิสังขรณ์วัดในส่วนใดเป็นพิเศษครับ
ดร.นฎาประไพ : ขออนุญาตเท้าความเล็กน้อยว่า เมื่อได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้อัญเชิญกฐินพระราชทานไปทอดยังวัดไชโย ก็รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ในฐานะที่ดิฉันเป็นหนึ่งในสมาชิกราชินีกุล สายสุจริตกุล หรือพูดแบบทั่วไปคือในฐานะลูกหลานสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีพระวรราชชายา ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พวกเราพิจารณาแล้วเห็นว่าวัดแห่งนี้คือวัดที่รัชกาลที่ 6 เคยเสด็จพระราชดำเนินทรงทอดพระกฐิน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีพระวรราชชายา เมื่อ 100 ปีมาแล้ว คือวันที่ 26 ตุลาคม 2465 พวกเราจึงต้องการถวายความจงรักภักดี และเพื่อเทิดพระเกียรติทั้งสองพระองค์ เมื่อได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ให้อัญเชิญพระกฐินหลวงมาทอดยังวัดนี้จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงทอดผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้ด้วย การเสด็จพระราชดำเนินทรงทอดพระกฐินหลวงในครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านในจังหวัดอ่างทอง และจังหวัดใกล้เคียงปลื้มปีติเป็นอันมาก เนื่องจากจะได้เข้าเฝ้าฯ ชื่นชมพระบารมี พระองค์ท่านเคยเสด็จพระราชดำเนิน ณ วัดไชโยเมื่อ 32 ปีมาแล้ว สำหรับสิ่งที่พวกเราจะทำเมื่อได้เงินจากการทอดกฐินพระราชทานก็คือการบูรณะภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ เนื่องจากเห็นว่ามีหลายจุดที่ชำรุดเสียหายลบเลือนไปเนื่องจากความชื้น และจากการถูกลูบคลำโดยผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าการสัมผัสภาพจิตรกรรมจะทำให้ภาพได้รับความเสียหาย เราตั้งใจจะบูรณะภาพจิตรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์โดยใช้ทุนประเดิมที่ได้จากการทอดกฐินในครั้งนี้ และตั้งใจจะทำให้เสร็จสมบูรณ์เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายในวโรกาสที่กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 70 พรรษาในปี พ.ศ. 2568 เนื่องจากพระองค์ท่านทรงเป็นองค์เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย ทรงใส่พระทัยอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมของไทยมาโดยตลอดนี่คือความตั้งใจของคณะงานในครั้งนี้ และขอกราบเชิญชวนทุกท่านร่วมกันทอดกฐินพระราชทานในโอกาสนี้ด้วย เพื่อเป็นการทำนุบำรุงสถาบันพระพุทธศาสนา และเพื่อถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์คณะทำงานได้ประชุมหารือกับทุกฝ่ายเพื่อให้การทอดกฐินพระราชทานครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี สมความปรารถนาทุกประการ และเพื่อถวายการต้อนรับให้สมพระเกียรติในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินทรงทอดพระกฐินในครั้งนี้ คณะทำงานได้หารือกับกรมศิลปากรในการบูรณะจิตรกรรมฝาผนังแล้ว เพราะต้องดำเนินการทุกอย่างไปตามขั้นตอน เนื่องจากเป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย
l ภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถมีความโดดเด่นมากในแง่การผสมผสานเรื่องราวพุทธประวัติกับความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองสยามเมื่อครั้งสมัยสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงพระปิยมหาราช
ดร.นฎาประไพ : ใช่ค่ะ จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถแห่งนี้งดงามและแสดงการผสมผสานเรื่องราวตั้งแต่สมัยพุทธกาลจนถึงสมัยของรัชกาลที่ 5ได้อย่างลงตัว อย่างที่เห็นว่ามีภาพของปราสาทราชมณเฑียรและภาพของความสมัยใหม่เมื่อครั้งที่รัชกาลที่ 5ทรงนำความเจริญจากประเทศตะวันตกเข้ามาในสยามเมื่อกว่า 100 ปีมาแล้ว นี่คือสิ่งยืนยันพระราชวิสัยทัศน์ของพระองค์ที่ทรงนำความเจริญเข้ามาสู่ประเทศชาติของเรา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เรามีไฟฟ้า มีถนนหนทาง มีรถยนต์ ในรัชสมัยของพระองค์ท่าน นอกจากนี้ที่บานหน้าต่างพระอุโบสถยังมีการวาดลวดลายศิลปะจีนผสมผสานด้วย คือเป็นลายเครื่องตั้งโต๊ะแบบจีน ขอบอกว่าจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถแห่งนี้งดงามมาก ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นสมบัติของชาติไทยของเรา ก็ขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมทำกุศลครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการร่วมทอดกฐินพระราชทาน ณ วัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทองในวันที่ 15 ตุลาคม 2565 เพื่อร่วมกันทำนุบำรุงรักษาสถาบันพระพุทธศาสนาของเราไว้ให้ยั่งยืนยาวนาน และเพื่อช่วยกันทำนุบำรุงรักษาศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยของเราไว้ด้วย และที่สำคัญคือเพื่อถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์สถาบันที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยทุกคน เราทุกคนในฐานะคนไทยมีภาระหน้าที่สำคัญคือการบำรุงรักษาชาติบ้านเมือง รักษาพระพุทธศาสนา และรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ให้ยาวนาน เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณที่แผ่นดินไทยให้กับเราทุกคนมาโดยตลอด ทุกท่านสามารถร่วมการกุศลครั้งนี้ได้โดยร่วมทำบุญที่บัญชีชื่อ กฐินพระราชทานวัดไชโยวรวิหาร ประจำปี 2565 บัญชีธนาคารกรุงเทพ หมายเลข 101-9-38416-1เมื่อโอนปัจจัยร่วมการกุศลแล้ว ขอความกรุณาส่งหลักฐานการโอนเงินไปที่ Line ID conantoey2พร้อมส่งชื่อ นามสกุล และที่อยู่ เพื่อจะได้จัดส่งใบอนุโมทนาบัตรให้ทุกท่านนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ และขอเรียนเชิญเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จ ในวันเสด็จพระราชดำเนินทรงทอดผ้าพระกฐินด้วยค่ะ
คุณจะได้พบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ รายการ ไลฟ์ วาไรตีออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทาง
โทรทัศน์ NBT กดหมายเลข 2และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ไลฟ์ วาไรตี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี