สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในโครงการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” และงานหัตถกรรม กิจกรรมที่ 1 ประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” และงานหัตถกรรมรอบคัดเลือก พร้อมด้วย ธีระพันธ์ วรรณรัตน์ “ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ การออกแบบแฟชั่น, ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย, สมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน, วิฑูรย์ นวลนุกูล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน, สุรศักดิ์ อักษรกุล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน,วรงค์ แสงเมืองผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย รวมถึงดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินการประกวดผ้าลายพระราชทานฯ ระดับภาค อาทิ ธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทยและผู้เชี่ยวชาญการย้อมสีธรรมชาติ, รติรส จุลชาต รองประธานกรรมการ บริษัท ไอริส 2005 จำกัด, กรกลด คำสุข รองคณะบดีฝ่ายนวัตกรรมทางปัญญาและวิจัย วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, ศรินดา จามรมาน นักวิชาการอิสระ, ศมิสสร สุทธิสังข์ อาจารย์ประจำคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, รวิเทพ มุสิกะปาน ประธานหลักสูตรแฟชั่นสิ่งทอและเครื่องตกแต่ง วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, อนุชา ทีรคานนท์ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นุวัฒน์ พรมจันทึก ช่างต้นแบบสิ่งทอ กรมหม่อนไหม, ภูภวิศ กฤตพลนารานักออกแบบและเจ้าของแบรนด์ ISSUE และ ศิริชัย ทหรานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย และเจ้าของแบรนด์ THEATRE พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและแขกผู้มีเกียรติร่วมงานคับคั่ง ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2565
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นับเป็นพระกรุณาธิคุณต่อวงการผ้าไทยที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้มีพระดำริพระราชทานโครงการแก่วงการผ้าไทย คือ โครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” หมายถึงความสุขที่ได้เลือกใช้ศิลปะ หัตถกรรมไทย เพื่อให้รายได้กลับเข้าสู่ชุมชน เป็นวงจรเศรษฐกิจเชิงมหภาค อีกทั้งเป็นการสานต่อพระราชปณิธานแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อสืบสานภูมิปัญญาและอนุรักษ์ผ้าไทยให้คงอยู่คู่แผ่นดิน รวมถึงสานต่อแนวพระราชดำริของสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษาและต่อยอดเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาประชาราษฎร์ โดยความสำเร็จของโครงการนี้ คือ ผ้าไทยได้รับการพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญา ทำให้ผ้าไทยมีสีสันลวดลายที่สวยงามที่สำคัญล้วนเป็นสีที่มาจากธรรมชาติทั้งสิ้น, การขับเคลื่อนการพัฒนาไปสู่พี่น้องประชาชนในเรื่องของการสร้างสรรค์ลวดลาย รูปแบบเพื่อผ่าทางตันของลวดลายผ้าไทยที่มีมาเนิ่นนาน ทำให้ผู้สวมใส่มีความสุข ดูดีมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยศิลปะความประณีตและรูปลักษณ์ที่เตะตาต้องใจ โครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงขับเคลื่อนนั้น กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพัฒนาชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเป็นโซ่ข้อกลางในการนำเอาข้อมูล ความรู้ต่างๆ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ไปสู่พี่น้องประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้พัฒนาศักยภาพของตนเอง ดังตัวอย่างของกลุ่มผ้าท้องถิ่นต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จ เช่นกลุ่มผ้าบาติกภาคใต้ กลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านดอนกอย จ.สกลนคร เป็นต้น
สุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมุ่งมั่นตั้งพระทัย คือทรงมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของประชาชนในทุกหนแห่งว่าทุกคนมีศักยภาพในการที่จะพัฒนาฝีมือ พัฒนาชิ้นงานภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เป็นชิ้นงานที่มีคุณภาพได้ ดังนั้น กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานที่มีความใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนและมีความสามารถที่จะสนองต่อพระราชปณิธาณดังกล่าว เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่พี่น้องประชาชน และนำเอาองค์ความรู้ที่ถูกต้องไปสู่พี่น้องประชาชนได้ และตรงกับที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานแนวคิดไว้ว่า การจะช่วยคนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ปากยิ้ม ท้องอิ่ม มีความสุขได้นั้น ไม่ใช่หยิบยื่นเอาสิ่งของ หรือเงินทองไปให้ แต่ต้องติดอาวุธทางปัญญา หรือให้เครื่องมือในการประกอบอาชีพให้ประชาชน และตรงกับสิ่งที่องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้กำหนดเป็นเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน คือ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้มีความเข้าใจ มีความสามารถในการที่จะพัฒนาตนเอง โดยปีนี้ทั้ง 4 ภูมิภาค มีจำนวนผลของผ้าไทยที่ส่งเข้าประกวดมากกว่า 3,000 ชิ้น ถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่ง“ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” รายละเอียดนั้นจะมีความยากกว่า “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” แต่ก็ยังมีผู้ที่ส่งผลงานเข้าประกวดเพิ่มขึ้น ถือว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากที่สามารถทำให้มีคนมาสืบสานภูมิปัญญาผ้าไทยเพิ่มมากขึ้น อนุรักษ์ผ้าไทยเพิ่มมากขึ้น ช่างทำผ้ามีฝีมือมีผลงานการทำผ้าที่มากขึ้น คำนึงถึงการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนที่ส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้สารเคมีในการย้อมผ้าและหันมาใช้สีธรรมชาติทั้งสิ้น ทั้งหมดนี้ล้วนมาจากแนวคิดของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ได้พระราชทานไว้เพื่อให้คนมีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องและนำมาปฏิบัติ และเกิดผลลัพธ์ที่ดี และยิ่งไปกว่านั้น“โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก” ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจำนวนกว่าหลายแสนล้านบาท นับเป็นคุณค่าที่ทุกคนภาคภูมิใจและนำไปสู่เป้าหมายในการ“บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ประชาชนทุกคนมีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การประกวดผ้าลายพระราชทานฯ และงานหัตถกรรมรอบคัดเลือกที่ได้จัดขึ้นนี้จะทำให้มีการตื่นตัวในการพัฒนาฝีมือการทอผ้าทุกเทคนิคของผู้ประกอบการ OTOP และช่างทอผ้าทุกคนให้มีคุณภาพมีความหลากหลายและมีการประยุกต์รูปแบบลวดลาย สีสันที่ร่วมสมัยสามารถสวมใส่ ได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกโอกาส ตามแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา สืบไป
ด้านอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนได้ดำเนินกิจกรรมประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” และงานหัตถกรรมระดับภาค จำนวน 4 จุดดำเนินการในพื้นที่4 ภูมิภาค เรียบร้อยแล้ว มีผ้าที่ผ่านการประกวดระดับภาค จำนวน 567 ผืน และงานหัตถกรรม จำนวน 83 ชิ้น แยกเป็น ภาคใต้ประเภทผ้า จำนวน 56 ผืน ประเภทงานหัตถกรรม จำนวน 27 ชิ้น ภาคกลาง ประเภทผ้าจำนวน 33 ผืน ประเภทงานหัตถกรรม จำนวน 23 ชิ้น ภาคเหนือ ประเภทผ้า จำนวน 84 ผืน ประเภทงานหัตถกรรม จำนวน 18 ชิ้นและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเภทผ้า จำนวน 394 ผืน ประเภทงานหัตถกรรมจำนวน 15 ชิ้น และในวันนี้เป็นการประกวดรอบคัดเลือก โดยคัดเลือกผลงานให้คงเหลือ 150 ผืน/ชิ้น เพื่อประกวดในรอบ Semi Final วันที่ 19 ตุลาคม 2565 และรอบ Final ระดับประเทศ วันที่ 31 ตุลาคม 2565 นี้ โดย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จเป็นประธานการตัดสิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี