คุณทราบหรือไม่ว่า นอกจากเรื่องความสวยงามของรูปร่าง ความอ้วนยังแฝงภัยร้ายที่เราต้องระวังอีกมากมาย ซึ่งเคสที่เริ่มพบบ่อยขึ้นในปัจจุบันก็คือโรคเบาหวานที่มาพร้อมกับภาวะอ้วน
การที่เราจะรู้จักโรคอ้วนให้ถูกต้องตามหลักการ นายแพทย์ชาญวัฒน์ ชวนตันติกมล อายุรแพทย์ผู้ชำนาญการโรคเบาหวานและต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลวิมุต อธิบายว่า โรคอ้วนคือโรคเรื้อรังที่เกิดจากร่างกายมีปริมาณไขมันมากกว่าปกติจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ การจะระบุว่าเป็นภาวะอ้วนหรือไม่ โดยมากจะพิจารณาจากค่าดัชนีมวลกาย (BMI) คือใช้น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัมและหารด้วยส่วนสูง
ในหน่วยเมตรยกกำลังสอง หากมีค่าดัชนีมวลกายเกิน 25 ก็ถือว่ามีภาวะอ้วน หรือสามารถวัดรอบเอวอย่างง่ายๆ โดยใช้เกณฑ์สำหรับคนเอเชียทั่วไป ผู้ชายที่มีรอบเอวเกิน 90 เซนติเมตรและผู้หญิงที่เกิน 80 เซนติเมตรขึ้นไปก็ถือว่าอ้วน
สาเหตุของโรคอ้วนมีมากมาย นับตั้งแต่พันธุกรรม อายุที่มากขึ้นซึ่งทำให้การเผาผลาญลดลง การมีโรคประจำตัวและการใช้ยารักษาโรคบางชนิดที่ทำให้การเผาผลาญผิดปกติ และอีกหนึ่งสาเหตุที่พบมากขึ้นในคนหนุ่มสาวปัจจุบันก็คือ พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพหรือมากเกินไป ก็ทำให้น้ำหนักขึ้นจนเกิดภาวะอ้วนได้เช่นกัน ในทางกลับกัน เราอาจเคยเห็นบางคนที่กินมากเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่คนคนนั้นมีโรคประจำตัวแฝงอยู่โดยไม่รู้ตัว เช่น อาจมีภาวะไทรอยด์เป็นพิษทำให้มีการเผาผลาญพลังงานมากกว่าปกติ ซึ่งจำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
นอกจากนี้ ความอ้วย อาจนำมาซึ่งโรคร้ายได้อีกหลายโรค และเคสที่เริ่มเกิดมากขึ้นในสังคมปัจจุบันคือโรคเบาหวานจากภาวะอ้วน ซึ่ง แพทย์หญิงธนพร พุทธานุภาพ อายุรแพทย์ผู้ชำนาญการโรคเบาหวานและต่อมไร้ท่อโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า คนที่อ้วนจะมีไขมันในร่างกายสูงทำให้ฮอร์โมนอินซูลินที่ช่วยลดระดับน้ำตาลทำงานได้ไม่ดี ส่งผลให้การใช้และการกำจัดน้ำตาลไม่เท่าคนปกติ ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นและเป็นเบาหวานได้ ซึ่งคนที่เป็นโรคอ้วนหรือน้ำหนักเกินจะมีความเสี่ยงเป็นเบาหวานมากกว่าคนปกติ 3-7 เท่า และ 80-90%ของคนไข้เบาหวานจะมีภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกินร่วมด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสองโรคนี้มีความสัมพันธ์กันอย่างมาก”
การรักษาโรคเบาหวานจากภาวะอ้วน จะเริ่มตั้งแต่การปรับพฤติกรรมการกินและรูปแบบอาหาร รวมถึงการต้องออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ เพื่อลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งคุณหมอธนพรแนะนำว่าควรเข้ามาพบแพทย์เพื่อรักษา เพราะผู้ป่วยเบาหวานบางคนอาจไม่ได้ดีขึ้นจากการควบคุมอาหารอย่างเดียว อาจจะต้องใช้ยาช่วยซึ่งยารักษาในปัจจุบันมีความปลอดภัย ไม่มีผลต่อไต ช่วยในการควบคุมน้ำตาลและลดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานได้ดี นอกจากนี้ถ้าเป็นเบาหวานและโรคอ้วนร่วมด้วย ก็จะมียากลุ่มใหม่ที่ช่วยลดทั้งน้ำตาลและน้ำหนักด้วย ซึ่งมีทั้งแบบกินและแบบฉีด ช่วยทำให้ผู้ป่วยคุมอาหารได้ง่ายขึ้น อิ่มเร็วขึ้น ลดระดับน้ำตาลได้เร็วขึ้น ซึ่งช่วยให้การรักษาไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด
แต่สิ่งที่หลายคนวิตกกังวลก็คือ ถ้าเป็นโรคเบาหวานแล้วจะรักษาหายขาดได้หรือไม่? ซึ่งปัจจุบันเรายังไม่เรียกว่าหายขาด แต่ใช้คำว่าโรคสงบ คืออยู่ในเกณฑ์ที่ใกล้เคียงกับคนปกติ สำหรับคนไข้ที่เป็นเบาหวานร่วมกับภาวะอ้วนมาไม่นานเกิน 3-5 ปี หากลดน้ำหนักได้ 15% ขึ้นไป ก็มีโอกาสที่โรคเบาหวานจะสงบจนอยู่ในระดับปกติโดยไม่ต้องใช้ยา แค่ต้องคุมน้ำหนักต่อเนื่องเท่านั้น
ผู้ที่สงสัยว่าตัวเองอาจมีภาวะอ้วนหรือต้องการเข้ารับการตรวจรักษาโรคเบาหวานและโรคอื่นๆ จากภาวะอ้วน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ ชั้น 9 โรงพยาบาลวิมุต โทร.02-0790070
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี