หากให้นึกถึงผลิตภัณฑ์สินค้าไทยหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ “นมตรามะลิ” อย่างแน่นอนเพราะเป็นสินค้าแบรนด์ไทยที่อยู่คู่คนไทยมานานถึง 60 ปี และไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น นมตรามะลิ ยังเป็นแบรนด์ไทยที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้การยอมรับ ตลอด 6 ทศวรรษที่ผ่านมาอะไรที่ทำให้นมตรามะลิเป็นที่ 1 ในใจคนไทยและคนทั่วโลก และก้าวต่อไปในทศวรรษที่ 7นมตรามะลิจะเป็นอย่างไร คงไม่มีใครให้คำตอบได้ดีไปกว่า พิมพ์ จารุเศรนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด และบริษัทในเครือ
“เราให้ความสำคัญในเรื่อง consumer insight คือการเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง เพื่อจะนำความต้องการนั้นมาพัฒนา ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา ในการทำงานและพัฒนาสินค้า ทางทีมมะลิให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เสมอ เมื่อได้ insight มาแล้วก็มาทำงานควบคู่กับฝ่าย R&D พัฒนาสินค้าออกมาโดยเรามุ่งเน้นเลือกวัตถุดิบที่ดีมาตรฐานสูง พร้อมกับมีทีมงานการตลาดและทีมเซลล์ที่ทำงานไปด้วยกันทั้งระบบ โดยมองที่จุดมุ่งหมายเดียวกัน โดยมุ่งที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคู่ค้าและผู้บริโภคพร้อมการปรับตัวตลอดเวลา จึงทำให้เราเป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
ไม่เพียงเท่านั้น นมตรามะลิ ยังให้ความสำคัญกับเรื่องการสร้างคุณค่าของแบรนด์ เน้นการสร้างเรื่องราว เน้นคุณค่าของแบรนด์ว่ามีความหมาย มีประโยชน์ต่อลูกค้าอย่างไร โดยสร้างความแตกต่างของแบรนด์ นำมาสร้างจุดขายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค มีการทำวิจัยทางการตลาดเพื่อเช็คว่า brand concept และ brand story ที่ทำอยู่นั้นตอบโจทย์หรือตรงกับความต้องการของผู้บริโภคหรือไม่”
ด้วยความยึดมั่นในการผลิตสินค้าที่มุ่งมั่นมอบสิ่งที่ดีที่สุดที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ไม่เพียงแต่ความภาคภูมิใจของชาวนมตรามะลิที่เป็นที่หนึ่งในใจผู้บริโภคแล้ว สำหรับผู้บริหารที่เป็นหัวเรือใหญ่ขององค์กร ยังมีอีก 2 ความภาคภูมิใจที่ได้รับ
“ความภาคภูมิใจสูงสุด คือ การที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานครุฑตราตั้งให้แก่ บริษัทอุตสาหกรรมนมไทย จำกัดในปีพ.ศ.2550 ซึ่งเราในฐานะผู้บริหาร ถือเป็นความภาคภูมิใจและเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต ความภูมิใจที่สอง คือการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “นมข้นหวาน มะลิ โอวัลติน อีซี่ สควีซ” เมื่อปีที่ผ่านมา เป็นการทำงานร่วมกับแบรนด์ระดับโลกอย่างโอวัลติน ซึ่งกว่าจะเกิดขึ้นได้เราต้องผ่านมาตรฐานสากลต่างๆ นอกเหนือจากที่เราได้การรับรองอยู่เดิมแล้ว เช่น SMETA (SEDEX Members Ethical Trade Audit) เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ SEDEX (Supplier Ethical Data Exchange) อีกด้วย ซึ่ง SMETA เป็นระบบการจัดการเกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงานและความปลอดภัยในการทำงาน ที่สมาชิกทางธุรกิจทั่วโลกมีข้อตกลงร่วมกันการพัฒนาจริยธรรมของบริษัท หรือกลุ่มผู้จัดจำหน่าย ตลอดห่วงโซ่อุปทาน ดังนั้นการที่เราผ่านการตรวจสอบมาตรฐานสากลเหล่านี้และได้ร่วมมือกับโอวัลติน แบรนด์เครื่องดื่มมอลต์สกัด รสช็อกโกแลต อันดับ 1 ระดับโลกกับเราซึ่งเป็นแบรนด์อันดับ 1 นมข้นหวานของไทย จึงเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่เราภูมิใจมากเช่นกัน”
สำหรับก้าวต่อไปในทศวรรษที่ 7 ของบริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จะเป็นอย่างไรพิมพ์ จารุเศรนี เผยว่า
“ก้าวต่อไป คือการที่เราให้ผู้บริหารรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ เพื่อให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการและสอดคล้องไปกับกระแสสังคมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพและรสชาติของผลิตภัณฑ์ในขณะเดียวกันก็ยังรักษาความเป็นไทยและคงไว้ซึ่งเจตนารมณ์ต่างๆ ของผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทนอกจากเรื่องคน คือการออกผลิตภัณฑ์ใน segment ใหม่ๆ เราสนใจกลุ่มสินค้าอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน (ready to eat) เพราะความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันต้องการอะไรที่รวดเร็วทันใจ ทำให้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้น สะดวก อร่อยเหมือนทานร้านอาหาร ในราคาที่จับต้องได้ ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ plant based ที่กำลังเป็นเมกาเทรนด์ของอุตสาหกรรมอาหารโลกและไทย ซึ่งบริษัทมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง และการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ การดีไซน์บรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย น่าหยิบใช้ สะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นตัวตนและตรงใจผู้บริโภคยุคใหม่ให้มากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นเรามุ่งมั่นที่จะขยายการส่งออกสินค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกให้มากยิ่งขึ้น เพราะเรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากลในราคาที่คุ้มค่าต่อผู้บริโภค”
การที่ธุรกิจดำเนินกิจการมาได้อย่างมั่นคงและได้รับการสนับสนุนจากผู้บริโภคมาโดยตลอด นโยบายด้านหนึ่งที่ บริษัทให้ความสำคัญนั่นคือ การตอบแทนความทุ่มเทของพนักงาน ผู้บริโภค และสังคม ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมมากมายของบริษัท
“บริษัทมีพนักงานในสำนักงาน โรงงานทั้งที่สมุทรปราการ และบางปะอิน รวมกว่า 1,000 ครอบครัว บริษัทมีโครงการต่างๆ ที่คอยดูแลพวกเขาให้เข้าถึงการศึกษา สาธารณสุข วัคซีน มอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรหลานพนักงาน เพราะเราเล็งเห็นว่าการศึกษาเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นการต่อยอดที่ไม่สิ้นสุด ส่วนการตอบแทนผู้บริโภคและสังคมที่สนับสนุนนมตรามะลิ ขณะนี้บริษัทมีโครงการ CSR หลากหลายด้าน เช่น โครงการ Mali Care เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนหน่วยงาน องค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน ในแง่มุมต่างๆ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราได้ให้ความช่วยเหลือชุมชนโดยรอบสำนักงานและโรงงาน ด้วยการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไปยังครอบครัวและชุมชน และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับบุคคลภายนอก บริจาคเงินและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ของเราเอง ทั้งนม UHT และน้ำดื่มตรามะลิ ให้กับหน่วยงานต่างๆ นอกจากนี้ เรายังได้สนับสนุนและร่วมสมทบทุนในการจัดตั้งศูนย์พักคอย Community Isolation ในชุมชนต่างๆ ซึ่งได้ดำเนินไปแล้วกว่า 500 เตียง นับเป็นเรื่องที่เราประทับใจมากที่ได้ช่วยเหลือคนไทยด้วยกันและถือเป็นการตอบแทนสังคมที่มะลิได้อยู่เคียงข้างคนไทยมาตลอด 60 ปี”
พิมพ์ จารุเศรนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด และบริษัทในเครือ ได้ทิ้งท้ายขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนในความสำเร็จตลอด 60 ปี ของนมตรามะลิว่า
“ขอบคุณทุกภาคส่วนที่เป็นแรงสำคัญของมะลิ ที่ทำให้เราอยู่ได้อย่างยาวนานแบบเติบโตขึ้นทุกปี ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในเรื่องสารอาหารและมอบสุขภาพที่ดีให้กับผู้บริโภคชาวไทยค่ะ นมตรามะลิให้คำมั่นว่าเราจะสร้างสรรค์พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีเพื่อสุขภาพผู้บริโภคชาวไทยและทั่วโลกต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเป็นการตอบแทนผู้บริโภคที่เชื่อมั่นต่อแบรนด์นมตรามะลิเสมอมาและตลอดไปค่ะ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี