วันนี้เราจะเข้าป่าไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติกุยบุรี อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปชมโขลงช้างป่า ฝูงกระทิง และวัวแดงด้วยกัน แต่งานนี้ไม่มีเสือ สิงห์ และแรดนะครับ ฮิ... ฮิ...
เหตุที่ตั้งใจชักชวนคุณ ๆ เข้าไปเที่ยวป่าหน้าฝนก็เพราะต้องการให้คุณได้สัมผัสความชุ่มเย็นของธรรมชาติ และต้องการให้คุณได้สัมผัสกับความน่ารักน่าชัง และน่าเอ็นดูของเหล่าสัตว์ป่าที่ยังพอจะมีหลงเหลืออยู่ในป่าของเมืองไทย เหตุที่เลือกไปเที่ยวป่ากุยบุรีเพราะคุณจะได้ชมสัตว์ป่าหายากได้มากมาย
สัตว์ชนิดแรกที่คุณจะได้พบในอุทยานแห่งชาติกุยบุรีคือช้างป่าที่อยู่กันเป็นโขลง (แม้จะไม่ใช่โขลงใหญ่เหมือนในอดีต แต่ก็ยังอยู่กันเป็นโขลงย่อม ๆ ประมาณ 10 ตัว) ป่าหน้าฝนมีทุ่งหญ้าเขียวขจี และต้นไม้ก็ผลิใบอ่อนมากมาย เป็นแหล่งอาหารที่ช้างป่าชื่นชอบ
ล่าสุดมีตัวเลขระบุว่าช้างป่าในกุยบุรีมีประมาณ 200 ตัว (ช้างป่าเรียกเป็นตัวครับ ไม่ใช่เชือก) ในยามที่แหล่งอาหารสมบูรณ์ช้างป่าและเหล่าสรรพสัตว์ก็จะมีความสุข ไม่ต้องออกไปหาอาหารนอกป่า จนกลายเป็นเรื่องขัดแย้งระหว่างคนกับช้างเหมือนที่เคยเกิดมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นเราจึงต้องช่วยกับทำให้ป่าอุดมสมบูรณ์ เพื่อให้สัตว์ป่าอยู่อย่างสุขสบายตามธรรมชาติ และไม่ควรสนับสนุนให้มีการนำช้างเข้ามาเร่ร่อนเป็นขอทานอยู่ในป่าคอนกรีต
โขลงช้างป่ากุยบุรี
ณ อุทยานแห่งชาติกุยบุรีแห่งนี้ รับรองว่าคุณจะได้พบกับภาพโขลงช้างกำลังใช้งวงดึงหญ้าใส่ปาก และจะพบว่าบางตัวก็ใช้งวงพ่นฝุ่นใส่ตัวและหัวเพื่อป้องกันแมลงรบกวน ส่วนภาพที่จะทำให้คุณประทับใจคือภาพช้างน้อยที่เดินร่วมอยู่ในโขลง โดยช้างโขลงนี้จะมีแม่แปรกเป็นจ่าโขลง ซึ่งจ่าโขลงและช้างตัวเมียตัวโตจะช่วยกันดูแลลูกช้างให้ปลอดภัย ดังนั้นเวลาที่คุณจะไปดูพวกเขา คุณก็จะต้องไม่ทำตัวให้แตกต่างไปจากธรรมชาติมากนัก เช่นไม่ฉีดน้ำหอมจนเหม็นกระจายไปทั่วทั้งป่า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ส่งเสียงดังอึงมี่วี๊ดว๊ายให้น่ารังเกียจ รวมถึงต้องเลือกสีเสื้อผ้าที่ไม่ฉูดฉาดจนขัดธรรมชาติป่า จากนั้นก็นั่งเงียบ ๆ เพื่อรอเวลาชมโขลงช้างออกหากิน และเล่นน้ำอย่างสำราญใจ Mr. Flower ขอยืนยันว่าภาพแม่แปรกและช้างตัวโตที่ช่วยกันดูแลช้างน้อยจะทำให้คุณประทับใจจนน้ำตาซึม เพราะคิดถึงคุณแม่เป็นอย่างมาก
นอกจากช้างป่าแล้ว คุณยังจะได้ชมฝูงกระทิงและวัวแดงอีกด้วย โดยจุดชมฝูงกระทิงและวัวแดงนี้จะอยู่ที่หน้าผาชมสัตว์ของอุทยานฯ ซึ่งช่วงที่จะพบพวกเขาออกหากินได้แก่เวลาช่วงบ่าย ๆ ขอบอกก่อนว่ากระทิงและวัวแดงเป็นสัตว์ที่มีความระวังภัยสูงมาก ดังนั้นเราจึงต้องตั้งกล้องดูอยู่ห่าง ๆ บนหน้าผา และไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้เป็นอันขาด หากคุณเขาไปใกล้พวกเขา เขาจะหนีไปทันที และเขาอาจจะไม่กลับมาตรงนั้นอีก จนกว่าเขาจะแน่ใจว่าไม่มีสัตว์อื่นเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ กับพวกเขา เจ้าหน้าที่บอกว่ามีกระทิงในอุทยานฯ ประมาณ 150 ตัว โดยฝูงกระทิงจะออกหากินกับวัวแดง
โขลงช้างป่ากุยบุรี
การที่เราได้ชมภาพชีวิตของช้างป่า กระทิง และวัวแดงในเขตอุทยานกุยบุรี ก็ทำให้เราพอจะใจชื้นขึ้นมาได้บ้างว่า ป่าแห่งนี้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์และมีความปลอดภัยต่อสัตว์ป่าที่หาได้ยากในระดับหนึ่ง หลังจากที่ป่าแห่งนี้เคยถูกมนุษย์เข้าไปรุกรานและทำลายมาก่อนจนทำให้สัตว์หายากเหล่านี้เกือบสูญพันธุ์ไปแล้ว
หากคุณ ๆ ต้องการจะเข้าไปสัมผัสชีวิตของช้างป่า วัวแดง และกระทิงที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีด้วยสายตาของคุณเองแล้วละก็ สามารถติดต่อได้โดยตรงที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี โทรศัพท์ 032-646292 หรือหากจะให้ Mr. Flower พาคณะของคุณไปชมก็ยินดีครับ ติดต่อได้ที่ e-mail address luangpee@hotmail.com
ลองเข้าไปสัมผัสพวกเขาด้วยสายตาของคุณสักครั้งแล้วคุณจะหลงรักพวกเขาจนถอนตัวและถอนใจไม่ขึ้น ไม่เชื่อลองดูนะครับ
โขลงช้างป่ากุยบุรี
กระทิง
กระทิง
วัวแดง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี