วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ด้วยการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจยุคใหม่และความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้ทักษะของคนทำงานยุคเดิมกำลังจะหมดอายุ โดยเฉพาะทักษะด้านความเป็นผู้นำ (Leadership) จึงส่งผลให้ “ทักษะผู้นำยุคใหม่ หรือ Adaptive Leadership Skill” กลายมาเป็นทักษะสำคัญเร่งด่วนที่ต้องเร่งพัฒนา โดยเฉพาะเหล่าหัวหน้างานที่ต้องขึ้นมาดูแลลูกทีมจำนวนมากท่ามกลางธุรกิจยุคดิจิทัลใหม่นี้
ข้อมูลจาก ภก.คงเกียรติ ฉัตรหิรัญทรัพย์ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บียอนด์เทรนนิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า Human Resources Council จำนวน 14 คน จากนิตยสาร Forbesได้ระบุถึง 14 ความท้าทายที่หัวหน้างานมือใหม่ต้องเผชิญในช่วงปี 2022 และอนาคต ทั้งนี้
ได้เลือกเฉพาะความท้าทายบางส่วนที่สอดคล้องกับบริบทสังคมการทำงานในไทย ดังนี้
l ปรับแนวคิดจาก “ผู้ทำเป็นผู้นำ”- หัวหน้างานต้องปรับแนวคิดครั้งใหญ่ เขาต้องเปลี่ยนการทำงานจากการลงมือทำเองเป็นการสร้างผลงานผ่านทีม หัวหน้างานจะมัวแต่ทำงานเองไม่ได้ ไม่เช่นนั้น งานจะล้นมือไม่มีเวลาไปทำงานสำคัญที่สร้างผลกระทบที่ดีต่อองค์กร
l ปรับบุคลิก พลิกรูปแบบการสื่อสาร เชื่อมคนในทีมและ Stakeholders-หัวหน้างานที่มีประสิทธิภาพ คือหัวหน้างานที่รู้จักคนในทีมเป็นอย่างดี รู้ว่าใครมีความสามารถอะไร จุดเด่น จุดด้อยเป็นอย่างไร รู้วิธีสื่อสารที่ทำให้คนในทีมทุกคนเข้าใจ พร้อมปรับตัวเข้าหาอย่างเป็นมิตร รวมทั้งรู้จักกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงาน เพื่อดำเนินงานข้ามแผนกหรือติดต่อประสานงานอื่นๆ ได้อย่างราบรื่นถ้าหัวหน้างานในยุคดิจิทัลขาดทักษะนี้ อาจก่อปัญหาที่มีผลกระทบทั้งองค์กร
l ปรับบทบาท จงเป็นผู้นำที่พร้อมซัพพอร์ตและสร้างแรงผลักดันให้แก่ลูกทีมได้- สถานการณ์โลกการทำงานปัจจุบันไม่มีอะไรแน่นอนอีกต่อไป พนักงานในทีมแต่ละคนก็จะมีปัญหางานและปัญหาส่วนตัวที่แตกต่างและซับซ้อนมากขึ้น หัวหน้างานจึงต้องปรับบทบาทเป็นผู้ซัพพอร์ตและสามารถให้กำลังใจ สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ สามารถแก้ไขปัญหาได้คอยโค้ชหรือสอนงานอย่างเต็มที่และอีกฝ่ายก็น้อมรับอย่างเต็มใจ
จะสังเกตได้ว่าทุกความท้าทายที่หัวหน้างานต้องเผชิญในยุคดิจิทัล ไม่ใช่อุปสรรคที่ยากเกินรับมือ เพียงแต่ต้องปรับตัว ทำความเข้าใจ พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง โดยกุญแจสำคัญที่ช่วยปลดล็อกความคิดและพัฒนาทักษะของหัวหน้างานคงหนีไม่พ้น Adaptive Leadership Skill
Adaptive Leadership ความหมายตรงตัวคือ “ผู้นำที่พร้อมเปลี่ยนแปลง” โดยอ้างอิงจากหนังสือ The Practice of ADAPTIVE LEADERSHIP : Tools and Tactics for Changing Your Organization and the World ได้ระบุไว้ว่า บุคลิกลักษณะของคนที่เป็นผู้นำที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง มีดังนี้
1.Get on the Balcony : การมองภาพรวม (Big Picture)-ผู้นำแบบ Adaptive Leadershipจะต้องมองภาพรวมให้เป็น เอาตัวถอยออกมาเพื่อศึกษาสภาพแวดล้อมโดยกว้าง หมั่นศึกษา Macro Trend ในปัจจุบันเป็นอย่างไร เช่น ช่วงวิกฤตที่ผ่านมา ผู้คนนิยมสั่ง Food deliver เพิ่มขึ้น ร้านอาหารในห้างลดลง แต่ละธุรกิจลดจำนวนสาขาลงstand alone เพิ่มขึ้น
2.Identify adaptive challenges : การระบุปัญหาที่ต้องการเปลี่ยนแปลงให้ชัดเจน เช่น การตั้งคำถามว่า อะไรคือปัญหาสำคัญ ระหว่างองค์กรหรือพนักงาน? โดยการระบุปัญหาควรหาคำตอบร่วมกันกับพนักงาน เพื่อคัดกรองสิ่งที่เป็นปัญหาจริงๆ จากนั้นลำดับความสำคัญของปัญหาและลงมือแก้ไข
3.Regulate distress : การปรับแนวคิดเพื่อรับมือกับความทุกข์ที่เกิดขึ้นจากการปรับตัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นพร้อมกับการปรับตัว คือคำถามจากทั้งตัวเองและพนักงานว่า ทำไมถึงต้องปรับตัว?แต่หน้าที่ของผู้นำไม่ใช่การวนเวียนกับความรู้สึกหรือตอบโต้คำถามด้วยอารมณ์ แต่ต้องตอบคำถามเหล่านั้นด้วยเหตุผลและควบคุมความทุกข์เหล่านี้ด้วยการ Turning up the heat หรือปลุกระดมให้พนักงานเข้าใจว่าทำไมต้องเปลี่ยนแปลง (WHY)
4.Maintain disciplined attention : การเป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้างวินัยของการปรับตัว หัวหน้างานต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในการ สร้างวินัยด้านการปรับตัว ทำให้พนักงานเห็นว่าการปรับตัวที่เกิดขึ้น ส่งผลดีต่อตนเอง ทีมและองค์กร หากหัวหน้าไม่อยากทำ ไม่คิดปรับเปลี่ยน ลูกน้องคงมีข้อคำถามมากมายและเลือกที่จะไม่ปรับเช่นกัน
5.Give the work back to the people : การทำงานให้ใกล้ชิด ปลูกฝังหัวใจของการเป็นเจ้าของธุรกิจให้พนักงาน-ทุกการเปลี่ยนแปลงมีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว มีลุกก็ต้องมีล้ม แต่ถ้าหัวหน้างานมีความเชื่อมั่นและต้องการผลักดันผลลัพธ์ให้เกิดขึ้นจริง หัวหน้าต้องลงไปทำงานใกล้ชิดกับพนักงาน ให้กำลังใจ สร้างแรงจูงใจ ทำให้พนักงานทุกคนรู้ว่าเขามีความสำคัญต่อองค์กร ทุกการกระทำสร้างผลกระทบต่อบริษัท
6.Protect leadership voices from below : การให้ความสำคัญกับเสียงเล็กๆของพนักงานทุกคน-หัวหน้างานที่ดีต้องรับฟังปัญหาของพนักงานทุกคน ไม่ว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาได้หมดจากทุกๆ ส่วน
นอกจากลักษณะนิสัยของผู้นำแบบ Adaptive Leadership ข้างต้นแล้ว วิธีการนำมาปรับใช้กับการทำงานในองค์กรหรือพัฒนาบุคลากรระดับหัวหน้างานให้มีความเป็นผู้นำยุคใหม่แบบAdaptive Leadership นั้น จำเป็นต้องมีแผนพัฒนา เครื่องมือการฝึกอบรม รวมถึงหลักสูตรเสริมสร้างทักษะที่ได้มาตรฐาน ที่จะมาผสมผสานกันเพื่อให้การพัฒนาบุคลากรสู่การเป็นผู้นำยุคใหม่ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
ทั้งนี้ Beyond Training สถาบันฝึกอบรมที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทักษะในการทำงาน ได้ออกแบบแผนพัฒนาที่ชื่อว่า Adaptive Leadership Series ที่ช่วย “สร้างคนเก่งที่มีภาวะผู้นำสูง”ในทุกตำแหน่งขององค์กร รวมถึงช่วยพัฒนาบุคลากรให้ “เก่งงาน เก่งคน ทันโลก” พร้อมเป็นฟันเฟืองสำคัญในการเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับองค์กรยุคใหม่
ในกระบวนการสร้างผู้นำยุคใหม่ (Adaptive Leadership) ให้กับบุคลากรในองค์กร จะต้องเริ่มตั้งแต่ “เจาะลึกกระแสโลกและทิศทางของธุรกิจ” เพื่อให้ทราบว่าองค์กรต้องเผชิญหน้ากับอะไร เพื่อหาแนวทาง พัฒนากลยุทธ์ให้สอดรับการเปลี่ยนแปลง จากนั้นจึงร่วมวางแนวทางกลยุทธ์องค์กรและวางโครงสร้างองค์กร รวมถึงการออกแบบตำแหน่งหน้าที่การทำงานต่างๆ จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนออกแบบการเรียนรู้ของคนในองค์กรขึ้น ผ่าน Framework ที่ชื่อ High Impact Development Framework ที่จะเจาะลึกลงไปถึง 8 สมรรถนะของผู้นำยุคใหม่ ประกอบไปด้วย AGILITY, DISRUPTIVE, ATTITUDES, PERSONALIZATION, TECHNOLOGY, INNOVATION, LIVE WELL BEING, EMPATHY ซึ่งการสร้างสมรรถนะเหล่านี้ จะพัฒนาได้ด้วยกลุ่มทักษะที่ถูกร้อยเรียงออกมาเป็นโปรแกรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมตั้งแต่ระดับต้น กลาง และสูง โดยผ่านแผนฝึกอบรมที่นำทฤษฎี 70 : 20 : 10 มาผสมผสานทั้งการเรียนรู้จากหลักสูตร (10) การแลกเปลี่ยนประสบการณ์หลังเรียนรู้ (20) รวมถึงการนำความรู้ไปปฎิบัติใช้จริง (70) หาข้อมูล เพิ่มเติมได้ที่ www.Beyondtraining.in.th
ในวิกฤตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล ที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้องค์กรต้องตื่นตัวในการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำให้กับบุคลากร ฉะนั้นการสร้างแผนพัฒนา Adaptive Leadership Series นับเป็นหนึ่งในเครื่องมือพัฒนาคนทำงานให้ก้าวขึ้นมาเป็น “ผู้นำยุคใหม่” ที่เก่งงาน เก่งคนและเท่าทันเทรนด์โลก พร้อมขับเคลื่อนองค์กรไทยให้เติบโตในธุรกิจยุคดิจิทัลใหม่ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี